GRAMMY ‘อากู๋’ รวยฟู่ฟ่า.!

เป็นที่น่าอิจฉา..!! เมื่อจู่ ๆ GRAMMY ขายหุ้นที่ถือในนามส่วนตัวให้กับนิติบุคคลที่ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 14.30 บาท คิดเป็นมูลค่า 6,102 ล้านบาท...


เป็นที่น่าอิจฉาตาร้อนกันทั้งบาง..!! เมื่อจู่ ๆ ครอบครัว “ดำรงชัยธรรม” นำโดย “อากู๋”–ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม และลูก ๆ มีการปรับโครงสร้างการถือหุ้นบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ด้วยการขายหุ้นที่ถือในนามส่วนตัวให้กับนิติบุคคลในชื่อ บริษัท ฟ้า ดํารงชัยธรรม จํากัด ที่ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 14.30 บาท คิดเป็นมูลค่า 6,102 ล้านบาท…

ถ้ามองผิวเผินก็เป็นการปรับโครงสร้างกันภายในกลุ่ม ตามที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ อ่ะนะ…เป็นการขายหุ้นให้กับบริษัทของตัวเอง ก็ถือเป็นเรื่องปกติ ทำได้ ไม่ผิดอะไร…

แต่จะว่าไปครอบครัว “ดำรงชัยธรรม” ขายหุ้นครั้งนี้ รับรู้เงินสดเข้ามาในมือหลายพันล้านบาทเลยนะเนี่ย…ระยะสั้นมีเงินสดเข้ามาเติมสภาพคล่องของกระเป๋าตังค์ ซึ่งด้วยสถานการณ์โควิดอย่างนี้การมีเงินสดเข้ามาก็เป็นเรื่องที่ดี..

ขณะที่การเปลี่ยนมือถือหุ้นจาก “อากู๋” และลูก ๆ มาเป็นบริษัท ฟ้า ดํารงชัยธรรม…ก็ถูกคาดหวังว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น…สะท้อนได้จากราคาหุ้นในวันที่ประกาศดีล (18 ต.ค. 2564) ขึ้นพรวดพราดไป 9.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นกว่า 6,000 ล้านบาท

แต่ก็ไม่รู้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่นะ..? เพราะถ้าดูการปรับตัวของ GRAMMY ในช่วงที่ผ่านมา เปรียบเทียบกับบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ของ “เฮียฮ้อ”–สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ซึ่งเป็นคู่แข่งตลอดกาล จะเห็นว่า GRAMMY ปรับตัวได้ช้ากว่าอย่างเห็นได้ชัด…ก็ต้องวัดดวงกันต่อไป…

แต่ถ้าหันมาดูครอบครัว “อากู๋”…แต่ละคนได้เงินไปเต็มไม้เต็มมือทีเดียว โดย “อากู๋” ฟันกำไรไป 5,224.70 ล้านบาท “ฟ้าใหม่ ดํารงชัยธรรม” และ “ระฟ้า ดํารงชัยธรรม” ฟันกำไรไปเท่า ๆ กันคนละ 119.95 ล้านบาท ส่วน “อิงฟ้า ดํารงชัยธรรม” และ “ฟ้าฉาย ดํารงชัยธรรม” ฟันกำไรไปคนละ 105.78 ล้านบาท เนื่องจากครอบครัว “อากู๋” มีต้นทุนหุ้น GRAMMY เพียง 1.00 บาท (คำนวณจากราคาพาร์) ทำให้มีกำไรส่วนต่างจากราคาหุ้นครั้งนี้ 13.30 บาทต่อหุ้น

เรียกว่ากระเป๋าตุงไปตาม ๆ กัน…น่าอิจฉาเนอะ..!!

การปรับโครงสร้างถือหุ้น GRAMMY ครั้งนี้ ทำให้นึกถึงดีลใหญ่เมื่อหลายสิบปีก่อนที่ตอนนั้น “อากู๋” ไปซื้อตึกบนถนนอโศกที่ชื่อว่า โรจนะทาวเวอร์ หรือตึกแกรมมี่ในปัจจุบัน มูลค่า 1,100 ล้านบาท…

ก็เป็นความชาญฉลาดของ “อากู๋” เนื่องจากการซื้อตึกครั้งนั้นแทบไม่ต้องควักเงินสักแดงเดียว…แต่ใช้วิธีเอาบริษัท เกิดฟ้า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทส่วนตัวของ “อากู๋” เองไปซื้อตึกโรจนะทาวเวอร์ แล้วให้บริษัทในเครือแกรมมี่ มาเช่าพื้นที่สัญญาระยะยาว (ว่ากันว่า ตอนนั้นปล่อยเช่าให้กับแกรมมี่ 3 ปีแรก ก็มีรายได้ประมาณ 165.6 ล้านบาท หรือเท่ากับ 230 บาท/ตร.ม./เดือน) จากนั้นก็ให้บริษัท เกิดฟ้า ไปกู้แบงก์โดยใช้สัญญาเช่าระยะยาวเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

บริษัท เกิดฟ้า ได้เงินจากแบงก์มา ก็เอาไปใช้หนี้ แต่สุดท้ายแอสเซท (ตึกโรจนะทาวเวอร์) เป็นของ “อากู๋”..!!

แหม๊…ต้องยกให้เป็นดีลขั้นเทพจริง ๆ…

ลักษณะคล้ายคลึงกับการปรับโครงสร้างถือหุ้น GRAMMY ครั้งนี้ โอเค…บริษัท ฟ้า ดํารงชัยธรรม อาจต้องไปกู้แบงก์มาจ่ายค่าหุ้นให้กับ “อากู๋” และลูก ๆ ก็ใช้หุ้น GRAMMY นั่นแหละไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน…ทุกคนก็รับความเสี่ยงผ่านทางบริษัท ฟ้า ดํารงชัยธรรม แทน…อันนั้นก็ว่ากันไป

แต่ที่แน่ ๆ ครอบครัว “ดำรงชัยธรรม” อู้ฟู่…ได้เงินก้อนใหญ่เข้ากระเป๋าไปแล้ว…

งานนี้จึงมีแต่ได้กับได้ ไม่ต้องเสียอะไรเลย…

สวดยอดเลยครับลวกเพี่ย (อากู๋)..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button