TIDLOR (ราคา) ติดไฟแดง

TIDLOR มีราคาไอพีโอ 36.50 บาทเริ่มเทรดวันแรก นับจากนั้นมาถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นเคยขึ้นไปสูงสุด 55.00 บาท และต่ำสุด 33.25 บาท


เงินติดล้อ (TIDLOR) มีราคาไอพีโอ 36.50 บาท

เริ่มเทรดวันแรก 10 พ.ค. 64

นับจากวันนั้นมาถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นเคยขึ้นไปสูงสุด 55.00 บาท และต่ำสุด 33.25 บาท

ล่าสุด ราคาคงวนเวียนบริเวณ 36.00 บาท +/- เล็กน้อย

ช่วงวันที่ 21-22 พ.ย.ที่ผ่านมา ราคาขยับขึ้นมาระดับ 38.00 บาท ที่เป็นแนวต้านสำคัญ ก่อนจะขยับขึ้นไปสูงสุด 39.25 บาท และลงมาปิด 39.00 บาท ในวันที่ 22 พ.ย. 64

ต่อจากนั้น ราคากลับค่อย ๆ รูดลง และกลับมาอยู่ ณ จุดเดิม คือ 36.00 บาท

สรุปราคาหุ้นเงินติดล้อยังไม่สามารถผ่านแนวต้านใหญ่ 38.00 บาทได้ และยังมองไม่ออกว่าราคาหุ้นจะดีดกลับขึ้นมาได้แค่ไหน และเมื่อไหร่

มาดูปัจจัยบวกของเงินติดล้อกัน

30 พ.ย. 64 ได้เข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap มีผลไปแล้ว

17 ธ.ค.นี้ จะเข้าคำนวณ FTSE All World Index ในกลุ่ม FTSE All Cap (Small Cap)

ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ฯ และฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 20 ธ.ค.นี้ เงินติดล้อเข้าคำนวณ ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index

อีกปัจจัยบวก คือ การเข้าคำนวณดัชนี SET50 ในรอบครึ่งแรกปี 2565

นักวิเคราะห์จากโบรกฯ ทุกสำนักต่างฟันธงตรงกันว่า เงินติดล้อเข้าคำนวณแน่นอน 99.99%

ที่เหลือเพียงแค่รอตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศเป็นทางการในวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้เท่านั้น

การเข้าคำนวณในดัชนีต่าง ๆ ที่ว่ามานั้น

ทำให้เงินติดล้อ เป็นเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และกองทุนต่าง ๆ

กลุ่มนักลงทุนที่ว่านี้ จะเข้าลงทุนในหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนี

ในช่วงที่มีข่าวออกมาถึงการเข้าคำนวณดัชนีต่าง ๆ

ราคาหุ้นเงินติดล้อมีการขยับบ้าง

แต่ไม่ได้ไปไหนไกลมากนัก หรืออยู่ระหว่าง 34.00–37.00 บาท

มาดูด้านพื้นฐานกันบ้าง

เงินติดล้อเพิ่งรายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/2564 ที่ระดับ 813 ล้านบาท

ตัวเลขกำไรดังกล่าว ถือว่าใกล้เคียงกับที่ตลาดหรือนักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้

ส่วนสิ้นปี 2564–2565 นักวิเคราะห์ดีดลูกคิดประเมินว่า กำไรน่าจะเติบโต 29%

นอกจากกำไรที่ออกมาเป็นไปตามคาดการณ์แล้ว

เมื่อมาดูตัวเลขสำคัญทางการเงิน เช่น Cover Ratio ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 อยู่ระดับสูง 326% (สูงสุดเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการทุกราย) จาก 306% เมื่อสิ้นไตรมาส 2/2565

คุณภาพสินเชื่อ ปรับดีขึ้นโดย NPL/total loan ลดลงเป็น 1.4% (ต่ำสุดเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการทุกราย) จาก 1.6% ใน 2Q64

สินเชื่อเติบโต 16.3%

และตัวเลข Spread ยังอยู่ที่ระดับ 14.9%

นักวิเคราะห์มีการประเมินว่า TIDLOR ควรที่จะเทรด “Premium” (พรีเมียม)

เหตุผลเพราะความเสี่ยงในการดำเนินงานที่ต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น จากรายได้ที่มีการกระจายความเสี่ยงไปในธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าขายประกัน

และมีการพัฒนาระบบไอทีที่มีประสิทธิภาพหนุนให้ บริษัท มีโอกาสในการปล่อยสินเชื่อและขายประกันออนไลน์ที่สูง

รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง

ดูตัวเลขสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้แล้ว จะเห็นว่า “แน่นเปรี๊ยะ” มาก (หรืออาจจะมีปัจจัยลบซ่อนอยู่)

คำถาม..แล้วราคาทำไมไม่วิ่งล่ะ

จะบอกว่า พี/อี สูงกว่ารายอื่น ก็ไม่น่าใช่ เพราะมีบางหุ้น เช่น MICRO ที่ พี/อี สูงกว่า

หรืออาจจะบอกว่า ภาพรวมกลุ่มลีสซิ่งอาจดูไม่ดี เพราะมีเรื่องดอกเบี้ยที่ สคบ.กำลังทำเฮียริ่งเข้ามากดดัน

ประเด็นนี้ หากดูจากหุ้นลีสซิ่งตัวอื่น ๆ เขาก็ยังวิ่งสลับซิ่งบ้าง ไม่ซิ่งบ้าง แต่เงินติดล้อ ยังคง “จอดติดไฟแดง” ไม่ไปไหน

กองทุนที่ยังถือมาตั้งแต่ไอพีโอ ข่าวว่า ตอนนี้เหลือแค่กองทุนบัวหลวง

นอกนั้นน่าจะขายออกหมดแล้ว เว้นแต่กองทุนที่เข้ามาซื้อจากที่หุ้นเงินติดล้อได้เข้าคำนวณดัชนีฯ

เคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากราคาหุ้นวิ่งกลับ

ต้องให้กองทุนกลับเข้ามาซื้ออย่างจริงจัง

หรือไม่ก็รอรายใหญ่เข้ากดปุ่มไฟเขียวให้นั่นแหละ

Back to top button