ZIGA กินยาผิดซอง

ในทางการเงิน บริษัทที่กู้เงินครั้งแรก ๆ จะกู้น้อยลงเมื่อกิจการมีกำไรสูงขึ้น แต่การก่อหนี้ในอัตราและปริมาณสูงขึ้นมาก แสดงว่า บริษัทมีความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้นมหาศาลในอนาคต… พฤติกรรมของบอร์ดและผู้บริหารของหุ้นเหล็กกัลวาไนซ์อย่าง ZIGA เข้าข่ายหลังนี้ชัดเจน


ในทางการเงิน บริษัทที่กู้เงินครั้งแรก ๆ จะกู้น้อยลงเมื่อกิจการมีกำไรสูงขึ้น แต่การก่อหนี้ในอัตราและปริมาณสูงขึ้นมาก แสดงว่า บริษัทมีความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้นมหาศาลในอนาคต… พฤติกรรมของบอร์ดและผู้บริหารของหุ้นเหล็กกัลวาไนซ์อย่าง ZIGA เข้าข่ายหลังนี้ชัดเจน

ไม่ว่ามองจากมุมไหนก็น่าขนลุกขนพองได้ทั้งนั้น

แนวทางการขอมติให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติให้ผู้บริหารก่อหนี้ 4.0 พันล้านบาท ควรถูกตั้งคำถามหรือไม่ เป็นสิทธิของผู้ถือหุ้นที่ควรพิจารณา เพราะนอกเหนือจากว่าที่เจ้าหนี้ที่ต้องถือตราสารหนี้จำนวนค่อนข้างมาก และก.ล.ต.ที่เป็นคนตรวจสอบด้านความโปร่งใสของกิจการ หรือที่ปรึกษาทางการเงินที่จะทำดีลนี้ด้วย

ทั้งที่มีส่วนผู้ถือหุ้นเพียงแค่ ต่ำกว่า 1.0 พันล้านบาท และกำไรสุทธิที่ค่อนข้างบาง เพราะเพิ่งจะมีกำไรโดดเด่น ก็จาก 2 ปีหลังที่ผ่านมาโดยที่กำไรสะสมแค่ 130 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าเล่นเกมเสี่ยงมากในธุรกิจที่มีลักษณะใช้ทุนเข้มข้น หรือ capital intensive

บอร์ดบริษัทออกมติมาล่าสุดว่า จะขออนุมัติผู้หุ้นออกหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท โดยจะนำเงินที่ได้รับจากไปใช้ในการดำเนินงาน และ/หรือ ขยาย ธุรกิจและ/หรือเป็นเงินทุนหมนุเวียนของบริษัทและ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่คณะกรรมการบริษัทตาม “ที่เห็นสมควร”

รายละเอียดของการระดมทุนก่อหนี้มีดังนี้

  • เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 ให้พิจารณาอนุมัติการแก้ไขวัตถุประสงค์เดิมเกี่ยวกับแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้สะดวกการรุกเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตั้งผ่านการออกคริปโต หรือ NFT โดยยังไม่ได้ระบุถึงวิธีการ
  • ออกหุ้นกู้ ทุกกประเภท/ทุกรูปแบบ (ยกเว้นหุ้นกูแปลงสภาพ) ไม่ว่าจะเป็นชนิดระบุชื่อถือครอง หรือไม่ระบุชื่อถือ มีและ/หรือไม่มีหลักประกันด้อยสิทธิ์และ/หรือไม่ด้อยสิทธิ์ มี และ/หรือไม่มีการจัดอันดับเครดิต มีและ/หรือไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ชนิดทยอยคืนเงินต้นและ/หรือคืนเงินต้นครั้งเดียวเมื่อครบกำหนดครบกำหนดไถ่ถอน
  • หารายได้จากการเล่นเก็งเงินบาท และ/หรือ เงินสกุลต่างประเทศโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนในขณะที่มีการออกและ เสนอการขายหุ้นกู้แต่ละคราว โดยคาดว่าจะมีมูลค่าหนี้รวมไม่เกิน 4,000 ล้านบาท แต่ไม่ได้กำหนดเงื่อนเวลาเอาไว่ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด และอายุของหุ้นก็จะเป็นกี่ปี ก็ไม่ได้กำหนด
  • เสนอขายหุ้นกู้ทั้งหมดในคราวเดียวกันหลายคราวและ/หรือเป็นโครงการและ/หรือใน ลักษณะหมุนเวียน (Revolving)
  • การที่มีมติก่อหนี้เสนอขายหุ้นกู้โดยที่ให้อำนาจฝ่ายบริหารของบริษัทกระทำได้เท่ากับการตัดสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นอื่น ๆ แล้วแม้ว่าจะพยามยามให้เหตุผลว่าจะระวังไม่ให้การก่อหนี้มากเกินก็ตาม…ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีกับการพาเข้ารกเข้าพงเช่นนี้

ที่ผ่านมาแม้ ZIGA ราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ที่ระดับ 7.50 บาท ยังไม่เคยถึงเป้าหมายเลย ในขณะที่วอร์แรนต์ตัวแรกที่ออกมาด้วยเงื่อนไขดีเหลือหลายเพราะราคาแปลงสิทธิ์อย่างแค่ 1.00 บาท ทำให้ราคาวอร์แรนต์ต่ำกว่าราคาจริงตามทฤษฎีถึงเกือบ 1.00 บาทน่าสนใจมากมาย

แม้ว่าปี 2564 ผลประกอบการที่ดีตลอดทั้งปี รวมทั้งในไตรมาสสามที่ออกมาแล้วทำได้สูงสุดในประวัติการณ์ เกินกว่าที่เคยคาดว่า อยู่ที่ 59 ล้านบาทยังผลให้กำไรสุทธิ งวด 9 เดือนแรกอยู่ที่ 15,393 ล้านบาทหรือต่อหุ้นที่ 0.31 บาท

กำไรสุทธิที่งดงามไม่ได้เกิดจากความบังเอิญด้านราคาอย่างเดียว แต่เกิดจากฝีมือทางด้านการบริหารจัดการด้วยการตั้งจุดขายทั้งในแง่สาขาและแฟรนไชส์สำหรับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งในรูปค้าส่ง (B2B) และค้าปลีก (B2C) ที่ได้ทั้งการเพิ่มปริมาณขายและกำไรที่สูงขึ้น ทำให้คำแนะนำซื้อสะสมในขณะที่ราคายังต่ำเพราะค่าพี/อีต่ำสุดในรอบหลายปี มีความสมเหตุสมผล

ความสามารถสร้างรายได้และกำไรรายไตรมาสจากผลิตภัณฑ์เหล็ก Pre-zinc ที่เป็นสินค้า ทดแทนเหล็กดำเดิม ๆ ส่วนในไตรมาสุดท้ายจะมีรายได้เสริมจากธุรกิจกัญชงเข้ามาใหม่ทำให้คาดเดาทางบวกเกี่ยวกับราคาที่ยังมี upside 35% สำหรับหุ้นสามัญ และ ZiIGA-W1 ที่ยัง ต่ำกว่าราคาทางทฤษฏี 17% และมีโอกาสขึ้นอีกได้ไกลมากหากราคาแข็งแกร่ง

ผู้บริหารที่บอกว่า สินค้าใหม่มาร์จิ้นสูงเช่นท่อน้ำ Pre-zinc (แบรนด์ Daiwa) ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น แต่การก่อหนี้เพิ่มมาก แต่กำไรกำไรสะสมของบริษัทจะยังต่ำแค่เกือบ 200 ล้านบาทน่าจะทำให้ตัวเลขปันผลเป็นเงินสดทำได้จำกัดจำเขี่ย แม้ว่ากลยุทธ์ของบริษัท ที่ทำให้เริ่มรับรู้รายได้จากการขายแฟรนไชส์ ทำให้สถานการณ์ ที่เหลือในปีนี้ และปีหน้าของ ZIGA ราบรื่นเสมือนโรยด้วยดอกกุหลาบมากขึ้น ไม่หวือหวาเหมือนหุ้นเหล็กอื่น ๆ เป็นโมเดลธุรกิจที่แปลกใหม่นาสนใจ

ข้ออ้างของการก่อหนี้ครั้งใหญ่ที่ไม่สมเหตุสมผลเสียเลยจะทำให้จุดเด่นที่ดันราคาเสมือน “ลมใต้ปีก” หดหายไปเช่นนี้ ทำให้ราคาเป้าหมายของราคาหุ้นของนักวิเคราะห์ที่สูงลิ่วจะเผชิญกับแรงกดดันของคำถามเกี่ยวกับอนาคตของหนี้ในอนาคต

เหตุผลเพราะส่วนผู้ถือหุ้นที่ต่ำกว่า 2.0 พันล้านบาทและกำไรสะสมแค่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท จะแบกภาระหนี้ใหม่อีก 4.0 พันล้านบาทได้อย่างไร

เกมสุ่มเสี่ยงแบบมาเวอริคด้วยการก่อหนี้มหาศาลเช่นมติบอร์ดเช่นนี้ไม่รู้ว่าเพราะกินยาผิดซอง หรืออื่นใด…ที่แน่นอนคือไม่ใช่ข่าวดีแน่นอน

ส่วนจะเป็นข่าวร้ายหรือไม่  ลองใช้อวัยวะส่วนที่เรียกว่าสมอง ตรองดูก็แล้วกัน

Back to top button