บลูชิพมาแรง!

บลูชิพกำลังมาแรงแซงทางโค้งหุ้นกลุ่มอื่น ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากความคาดหวังที่มีต่อเศรษฐกิจในมุมบวกเป็นส่วนใหญ่


*การทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งของดัชนีในจังหวะนี้ทำให้รู้ว่า บลูชิพกำลังมาแรงแซงทางโค้งหุ้นกลุ่มอื่น ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากความคาดหวังที่มีต่อเศรษฐกิจในมุมบวกเป็นส่วนใหญ่ จึงเห็นนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นที่สอง และน่าจะซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะแรงกดดันที่มีต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลกคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จนเชื่อได้ว่า บรรยากาศของธุรกิจทั่วโลกจะกลับมาคึกคักอีกรอบนะจ๊ะ

*โดยเฉพาะการปรับตัวขึ้นของ “หุ้นแบงก์” และ “หุ้นเทค” ทั่วโลก มันคือภาพสะท้อนที่ชี้ชัดว่า เม็ดเงินในระบบธุรกิจกำลังจะเคลื่อนตัวอีกครั้ง ซึ่งหมายถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับมาคึกคัก และเรื่องนี้ก็สัมพันธ์โดยตรงกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่กำลังจะเข้ามาปฏิวัติโลก “โมนิก้า” ถึงมั่นใจสุด ๆ ว่า ดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,700 จุดอย่างแข็งแกร่ง เพราะสถานการณ์รอบด้านดีกว่าที่ผ่านมาอย่างชัดเจนจ้า!

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับไปดูคำพูดเดิม ซึ่งเคยย้ำหัวหมุดแฟนคลับในช่วงที่ดัชนีขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1,680 จุด และมองเป้าถัดไปอยู่เหนือ 1,700 จุด คือบันไดที่จะทำให้ดัชนีไปต่อสวย ๆ เดี๊ยนถึงรู้สึกแฮปปี้มากเหลือเกิน เมื่อดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,703.16 จุด บวกไป 18.93 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.35 แสนล้านบาท เพราะมันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างแท้ทรู และทำให้ทุกคนเห็นว่า น่าจะตามน้ำได้พะยะค่ะ

*โดยเฉพาะการทะยานขึ้นของหุ้นแบงก์ม่วง SCB ก่อนจะปิดที่ระดับ 134.50 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 3.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.13 พันล้านบาท ก็เป็นช็อตที่น่าเล่นตามแบบไม่มีข้อกังขา โดยเฉพาะเมื่อคิดบนตรรก PBV 1.50 เท่า ได้ราคาเหมาะสมอยู่แถว 187 บาท มันคือสัญญาณที่บอกให้ขาลุยรู้ทันทีว่า ยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะ จึงไม่ควรพลาดขบวนรถด่วนเที่ยวสำคัญนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับกรณีของ TTB ซึ่งเห็นกันทนโท่ว่า หุ้นเคยขึ้นไปทำยอดไว้ที่ระดับ 1.50 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดยืนปิดที่ 1.40 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 5.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.40 พันล้านบาท ก็เป็นช็อตที่น่าตามไปดูอีกเช่นกัน ผสานกับการเทรดของหุ้นยังอยู่บน PE 14 เท่า จึงไม่มีอะไรน่ากังวลเหมือนเช่นที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่ง BV ของหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.15 บาท ก็การันตีว่า การเล่นแถวนี้เซฟโซนนะตัวเอง

*ในเมื่อเชื่อกันว่า เศรษฐกิจกำลังจะเปิดรอบใหม่ “โมนิก้า” คงเหลือบมองไปที่หุ้น AOT สักหน่อย เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 65.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.27 พันล้านบาท ทั้งที่ทุกคนฟันธงเปรี้ยง..เปรี้ยง ปีนี้ยังขาดทุนเหมือนเดิม จึงเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า เที่ยวนี้มาด้วยแรงศรัทธา ซึ่งเป็นเรื่องที่โหดเกินไปหน่อย เพราะเหลือเวลาตั้ง 10 เดือนกว่าจะหมดปี..เดี๊ยนจึงบอกได้แค่ว่า ชอบมัน..ชอบเสียว..ก็เล่นไปเถอะจ้า

*ส่วนรายที่เห็นความคึกคักชัดเจน และทุกคนสัมผัสได้ด้วยตนเอง คงมองไปที่หุ้นห้างสรรพสินค้าอย่าง CPN เป็นลำดับถัดมา เพราะผู้คนออกมาใช้ชีวิตในห้างมากขึ้นเรื่อย ๆ และในช่วงเวลาพีค ๆ แทบหาโต๊ะกินข้าวไม่ได้เลย “โมนิก้า” จึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 58 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.72 พันล้านบาท เพราะบรรยากาศแตกต่างจากเที่ยวก่อนจริง ๆ เจ้าค่ะ

*คล้ายกับสถานการณ์ของน้องมิ้น MINT ก็ดีวันดีคืนอย่างต่อเนื่อง จนเชื่อว่า การวิ่งมาปิดที่ระดับ 32 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 724 ล้านบาท คือเรื่องราวที่บอกให้รู้ว่า เที่ยวนี้มีโอกาสขึ้นไปทดสอบยอดเดิมที่บริเวณ 34 บาทเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 9 เดือน “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับคิดตามไปพร้อมกันว่า ไตรมาส 2 และไตรมาส 3 หุ้นตัวนี้จะมีพัฒนาการสำคัญอะไรบ้าง? ต่อจากนั้นจะเข้าใจเหตุผลที่ทำให้ทรงหุ้นสวยขึ้นเรื่อย ๆ นะจ๊ะ

*หุ้นทรงสวยอีกรายที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับจับตาดูเป็นพิเศษก็คือ SCGP เพราะการขยับออกจากฐานแนวรับครั้งแรกในรอบเดือน โดยมีอยู่ที่ยอดเดิมที่ระดับ 65 บาทเป็นเป้าแรก ต่อจากนั้นก็วาดฝันถึงเป้าสองที่บริเวณ 70 บาท มันเป็นเรื่องที่ท้าทายผู้เล่นมากเหลือเกิน เดี๊ยนจึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 63.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.66 พันล้านบาท น่าไหลตามน้ำอ๊ะป่าว?

Back to top button