ฝรั่งซื้อ 5 หมื่นล้าน

หากเปรียบเทียบสถานการณ์ก่อนเศรษฐกิจจะย่ำแย่ และก่อนจะเกิดโควิดระบาดทั่วโลกในช่วงปี 62 จะเห็นว่าดัชนีของไทยขึ้นมาย่ำฐานที่บริเวณ 1,700 จุดเป็นเวลาเดือนครึ่ง


*หากเปรียบเทียบสถานการณ์ก่อนเศรษฐกิจจะย่ำแย่ และก่อนจะเกิดโควิดระบาดทั่วโลกในช่วงปี 62 จะเห็นว่าดัชนีของไทยขึ้นมาย่ำฐานที่บริเวณ 1,700 จุดเป็นเวลาเดือนครึ่ง ต่อจากนั้นก็ทรุดตัวลงมาแถว 1,600 จุด และแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ อีกประมาณ 4 เดือน และในช่วงเดือน ธ.ค. 62 ต่อเนื่องถึง ม.ค. 63 ก็ถอยลงมายืนบริเวณ 1,550 จุด ก่อนจะเกิดอาการทรุดฮวบลงไปถึงระดับ 970 จุด ในช่วงกลางเดือน มี.ค. 63 จำได้ไหมคะ

*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องรื้อฟื้นความจำเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ล้วนมาจากแรงซื้อฝรั่งในช่วงครึ่งเดือนแรกของ ก.พ. ปาเข้าไป 5 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นการพุ่งเป้าไปยังหุ้นกลุ่ม “แบงก์” กับ “พลังงาน” เป็นหลัก และเริ่มกระจายไปยังหุ้นกลุ่มอื่นแบบประปราย มันคือสถานการณ์ที่ส่งสัญญาณให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยกลับมาอยู่ในเรดาร์ของนักลงทุนสถาบัน และมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะยกตัวสูงขึ้นอีกนะจะบอกให้

*ฉะนั้นการที่ดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,711.58 จุด บวกไป 10.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.01 แสนล้านบาท น่าจะเป็นการย้ำหัวหมุดเรื่องฐานใหม่ที่พยายามพร่ำบอกกับแฟนคลับเป็นประจำ และสัมพันธ์โดยตรงกับผลงานของบริษัทจดทะเบียนจะฟื้นตัวขนาดไหน? เดี๊ยนถึงมองแนวรับบริเวณ 1,700 จุดต้องยึดให้มั่น เพราะมองจากมุมไหน ด้านไหน ตรงนี้คือบันไดสำคัญที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยขึ้นอย่างแข็งแกร่งนะนายจ๋า!

*คล้ายกับสถานการณ์ของราคาหุ้น PTT ก็ล้มลุกคลุกคลานเป็นเวลาร่วมปี และเริ่มมีทรงจริงจังในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 40 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.42 พันล้านบาท คือจุดที่ทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ตได้สบาย ๆ เพราะเมื่อดูจากค่า PE 12 เท่า เป็นบรรทัดฐานในการลงทุน ก็คาดหวังในการเห็นหุ้นขึ้นไปหายอดเดิม 44 บาทได้เหมือนกันนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับความพยายามของหุ้น TTB ในการไต่ระดับขึ้นไปหายอดเก่าบริเวณ 1.50 บาทเป็นครั้งที่สองในรอบเดือนครึ่ง ก็เป็นอีกหนึ่งสตอรี่ที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะราคาเหมาะสมของหุ้นควรอยู่เท่ากับ BV 2.15 บาทเป็นอย่างต่ำ เดี๊ยนถึงมั่นใจสุด ๆ ว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.44 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 2.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.01 พันล้านบาท follow buy ได้ทันทีเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่เฉิดฉายเกินบรรยาย และอยู่ในช่วงขาขึ้นเต็มตัวอย่าง ADVANC กลายเป็นอีกหนึ่งช็อตเด็ดที่เดี๊ยนให้ความสนใจขึ้นมาทันที ยิ่งเห็นหุ้นขึ้นมาทำ double top ที่บริเวณ 240 บาท ยิ่งต้องลุ้นแบบเกาะติดขอบกระดานหุ้น เพราะมันหมายถึงโอกาสที่หุ้นจะไปต่อมีมากแค่ไหน? หลังหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 240 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.77 พันล้านบาทแล้วน่ะซี

*สำหรับรายที่ลุ้นสนุกทุกหยดต้องมองไปที่ SABUY หลังตั้งฐานขึ้นใหม่อย่างร้อนแรง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 33.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 693 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมยาวที่มีเรื่องให้ติดตามตลอดทั้งปี แถมยังมีบิ๊กเชนจ์ให้แฟนคลับได้ตามดูอีกต่างหากแบบนี้ มันเป็นสตอรี่ที่จะหนุนให้หุ้นไปต่อสวย ๆ อย่างแน่นอน งานนี้บอกได้คำเดียวว่า มันพะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับหุ้นขนมขบเคี้ยวอย่าง SNNP ถูกดันขึ้นมาเล่นรอบใหม่ พร้อมกับอัพเป้าขึ้นไปแตะระดับ 20 บาท ก็เป็นสตอรี่ที่ “โมนิก้า” เคยเล่าให้แฟนคลับได้ฟังว่า โคตรโกรทอยู่ที่เวียดนาม (เป็นประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวมาก ๆ) ส่วนที่ไทยก็โคตรสตรอง จึงน่าจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ราคาหุ้นหวือหวาสุด ๆ และการที่หุ้นยืนปิดที่ระดับ 17 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 627 ล้านบาท ก็คือคำตอบของเรื่องที่เกริ่นไว้..หรือใครจะเถียงว่า ไม่จริง!

*ปิดท้ายกันที่น้องวา WHA เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของการลุ้นยาวๆ เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.66 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 961 ล้านบาท มันเป็นการวิ่งผ่านแนวต้าน 3.60 บาทเป็นครั้งแรกในรอบสองเดือนครึ่ง และกำลังจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 3.80 บาท “โมนิก้า” ถึงมองจังหวะนี้มีเรื่องให้ติดตามดูเยอะพอสมควร แถมพรายกระซิบได้ยินข่าวแว่ว ๆ ปีนี้โตแน่นอน (โควิดคลี่คลาย) จึงมีโอกาสวิ่งกลับไปแถว 4 บาทเจ้าค่ะ

Back to top button