สงครามปาหี่ในยูเครน

การรุกกลับของรัสเซียครั้งนี้ อาจจะลงเอยด้วยการเจรจาสร้างเงื่อนไข “ความปกติใหม่” ขึ้นมา ซึ่งน่าจะกินเวลายาวนานพอสมควร


หลังจากสัปดาห์ของความตื่นเต้นระทึกขวัญเรื่องรัสเซียจะบุกรุกรานยูเครนก็เริ่มเข้าเค้าลางของสงครามร้อนระหว่างรัสเซียกับองค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ชัดเจนมากขึ้นว่าเป็นเรื่องไม่น่าติดตามเสียแล้ว เมื่อการเงื้อง่าทำท่าจะลุกลามบานปลายกลายเป็นแค่สงครามน้ำลาย

ต่างจากภาพยนตร์คาวบอยมักโรนี ยุคพี่คลิ้นท์ อีสต์วูดยังถือปืนและคาบซิการ์ ในขณะที่ยิงกันหูดับตับไหม้

ข้อดีของสงครามน้ำลายคือคู่กรณีอย่างนาโต้และรัสเซียจะหันกลับมาสร้างระบบความปกติใหม่ (นิว นอร์มอล) ขึ้นมาใหม่

ชัยชนะในยกนี้จึงตกเป็นของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียไป แม้จะไม่ใช่ชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จก็ตาม

ลางบ่งชี้ว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะไม่บานปลายเป็นสงครามโลกครั้งใหม่เกิดจากข้อเท็จจริงหลายประการดังต่อไปนี้คือ

  • กองทหารรัสเซียยังไม่ได้ยกกองทัพเข้าไปในยูเครนเลย แต่ตั้งแถวขมึงทึง ตลอดแนวพรมแดนเป็นการ “ตัดไม้ข่มนาม” ตามธรรมดา ในลักษณะ “เขียนเสือให้วัวกลัว” แต่ปฏิบัติการทหารส่วนใหญ่กระทำด้วยการกระหน่ำยิงด้วยปืนใหญ่ และขีปนาวุธพิสัยไกลธรรมดา
  • รัสเซียพูดชัดเจนว่านาโต้จะไม่ยินยอมให้ยูเครนเปลี่ยนสถานภาพจากรัฐหุ้นส่วน มาเป็นสมาชิกถาวรของนาโต้ตามแผนที่วางเอาไว้ เพราะรัสเซียจะไม่ยอมเสีย “แหล่งพักผ่อนฤดูร้อนและสวนครัวหลังบ้านทางใต้” ของตนให้เป็นหน้าบ้านของยุโรปตะวันตก
  • มาตรการคว่ำบาตรธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบโอนเงินระหว่างประเทศหรือ SWIFT และอื่น ๆ เป็นการจำกัดความเสียหายที่ไม่มีผลมากมายเมื่อเทียบกับมาตรการอื่น ๆ เป็นแค่สงครามน้ำลายของ “สงครามสั่งสอน” ที่ไม่มีความหมายที่เกี่ยวกับสงครามเบ็ดเสร็จในยุคร่วมสมัย
  • -ท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ โจ ไบเดนที่จะไม่ส่งทหารเข้าไปในเขตสุ่มเสี่ยงต่อการปะทะ และไม่เพิ่มกำลังทหารสหรัฐฯ ในยุโรปเพิ่มขึ้น ช่วยลดความกังวลของสายพิราบว่าจะนำไปสู่การลุกลามบานปลายได้

เพียงเท่านี้ก็น่าจะส่งสัญญาณบอกให้บรรดา “คุณตลาด” ทั้งตลาดหุ้นและเก็งกำไรอื่น ๆ ให้เข้ารองช้อนซื้อหลักทรัพย์ที่มีราคาต่ำลงทั่วไปจากการขายทิ้งแบบตื่นตระหนกว่าจะบานปลายเป็นสงครามใหญ่ได้

อันที่จริงแล้ว  “การเสี้ยม” ของนาโต้เข้าไปในยูเครนเพื่อหนุนหลังพวกเห่อตะวันตกและเกลียดรัสเซียให้เข้ามาเป็นสมาชิกของนาโต้เต็มรูปนั้นรัสเซียเคยประกาศจุดยืนมาตั้งนานแล้วว่าจะสร้างความตึงเครียดแน่นอนและจะไม่ยินยอมแน่นอนให้เกิดขึ้น เพราะประวัติศาสตร์อันยาวนานของรัสเซียและยูเครนทุก ๆ ด้านน้ำล้ำลึกยิ่งนัก

ยูเครนเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์อันเปราะบางทางด้านความมั่นคงของรัสเซียมาแต่สมัยยุคพระเจ้าซาร์แล้ว และยังคงมีความหมายที่จะต้องยึดมั่นต่อไป เพื่อหาทางออกทางทะเล แค่นาโต้ก็ถือว่าตนมีสิทธิ์ในการเข้ามามีอิทธิพลเหนือยูเครนได้ หากรัฐบาลยูเครนร้องขอ

การสนับสนุนรัฐบาลยูเครนที่อ้างเหตุผลเรื่องประชาธิปไตยแบบตะวันตกแทนที่รัฐบาลกึ่งเผด็จการนิยมรัสเซียจึงเกิดขึ้นอย่างจริงจังต่อเนื่องมานานนับสิบปี จนรัสเซียไม่อาจอดกลั้นได้ จึงเตรียมพร้อมยึดถือแนวทาง mexican stand off ดังเช่นที่ดำเนินอยู่

การรุกกลับของรัสเซียครั้งนี้ อาจจะลงเอยด้วยการเจรจาสร้างเงื่อนไข “ความปกติใหม่” ขึ้นมา ซึ่งน่าจะกินเวลายาวนานพอสมควร แต่การจะให้นาโต้และรัสเซียถอยหลังกลับไปสู่จุดเดิมก็คงจะไม่ได้ จนกว่าทั้งสองฝ่ายจะพบข้อสรุปประเภท “หมูไป ไก่มา” ที่ลงตัว

ที่แน่นอนก็คือ ราคาหลักทรัพย์ที่หล่นฮวบเพราะคนตื่นกลัวสงครามน่าจะมีการประเมินใหม่กับท่าทีของยุค “ความปกติใหม่” ที่จะเกิดขึ้นจากวิกฤตทางการเมือง

ในเรื่องยูเครนคราวนี้ เพราะการประเมินน่าจะต้องมีตัวแปรใหม่ ๆ เข้ามาในการแสวงหามูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์ทั้งหลายด้วย

ข้อเท็จจริงเช่นนี้ทำให้ “คุณตลาด” กลายเป็นทหารผ่านศึกที่กร้านแดดกร้านลมโดยปริยาย

Back to top button