พักตัว..รอขึ้น

สิ่งที่ “โมนิก้า” พูดได้เต็มปากในเที่ยวนี้คือ สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยกำลังอยู่ในช่วงของการพักตัว เพราะอิทธิพลของตลาดหุ้นต่างประเทศยังคงแผ่ซ่าน


*สิ่งที่ “โมนิก้า” พูดได้เต็มปากในเที่ยวนี้คือ สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยกำลังอยู่ในช่วงของการพักตัว เพราะอิทธิพลของตลาดหุ้นต่างประเทศยังคงแผ่ซ่าน ผนวกกับแรงขายของนักเล่นกลุ่มต่าง ๆ ไม่สะเด็ดน้ำ ตลาดหุ้นไทยจึงต้องพักรักษาตัวต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกยังไม่เอื้อให้ลุยสุดซอย และทำให้แนวรับสำคัญบริเวณ 1,600 จุดยังต้องถูกทดสอบเป็นระยะนะจะบอกให้

*ประกอบกับช่วงครึ่งหลังปี 64 ดัชนีใช้เวลาวนเวียนในกรอบ 1,600-1,650 จุดเป็นเวลานานถึง 4 เดือน ก่อนจะขึ้นยืนเหนือระดับดังกล่าวในช่วงเดือน ม.ค. ปี 65 และขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,700 จุดในช่วงกลางเดือน ก.พ. แต่สุดท้ายก็โดนพิษสงครามเล่นงานเข้าอย่างจัง จนดัชนีรูดลงไปทำโลว์ที่บริเวณ 1,580 จุด ก่อนจะตีกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วในภายหลัง มันเป็นภาพที่ทำให้เดี๊ยนรู้ได้ทันทีว่า ตลาดหุ้นไทยอาจต้องย่ำอยู่แถวนี้อีกสักพักจ้า!

*ฉะนั้นการที่ดัชนีทรุดตัวลงไปที่ 1,637.93 จุด ก่อนจะวิ่งกลับมาปิดที่ระดับ 1,658.01 จุด บวกไป 10.93 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.85 หมื่นล้านบาท จึงไม่ใช่เหตุการณ์ที่น่ากังวลแต่อย่างใด เพราะองค์ประกอบหลายอย่างไม่เอื้อให้ไปต่อ และเมื่อคำนวณอาฟเตอร์ช็อกจากสงครามที่จะเกิดขึ้นเป็นระลอก “โมนิก้า” ก็เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งถึงสาเหตุที่ทุกคนหันมาเล่นสั้น เพราะการเจรจาสงบศึกยังไม่มีความคืบหน้า จึงอาจมีเหตุการณ์ตูมตามเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อน่ะซี

*เหมือนกับแรงซื้อที่เข้ามาไล่ราคาหุ้น XPG หลังร่วงหลุดวงโคจร 2 บาทไปพักหนึ่ง สุดท้ายก็มีเจ้ามือเข้ามาดันหุ้นกลับเข้าสู่วงโคจรเดิม (2.00-2.50) “โมนิก้า” ถึงมองว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.06 .บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 217 ล้านบาท เป็นจังหวะที่ขาลุยต้องโหนกระแสอย่างแน่นอน เพราะของมันเคยเล่นกันเป็นประจำ แถมภาวะลงทุนผันผวนก็เหมาะต่อการลาก ๆ ทุบ ๆ เสียด้วยค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นตัวตลก (อิอิ) EE ก็เป็นอีกหนึ่งช็อตที่เหมาะต่อการเคาะสั้น ซึ่งเป็นผลมาจากวงรอบของหุ้นในช่วงเดือนครึ่งวิ่งไปมาในกรอบ 1.60-1.80 บาท ผสานกับราคาล่าสุดยืนอยู่ที่ 1.75 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 2.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 205 ล้านบาท จึงเป็นช็อตที่ต้องเพิ่มความละเมียดในการเล่นมากหน่อย เพราะเที่ยวนี้อาจมีอะไรแตกต่างจากเที่ยวก่อนก็เป็นไปได้นะจ๊ะ

*คล้ายกับการวิ่งขอหนูซ่า NUSA ล้วนมาจากสตอรี่เทิร์นอะราวด์เป็นหลัก ซึ่งเป็นผลมาจากการสวอปหุ้นวินด์ฯ มันคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้โครงสร้างของบริษัทพลิกโฉมอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้หุ้นยืนทานกระแสตลาดร่วงแรงได้อีกด้วย “โมนิก้า” จึงไม่แปลกใจที่หุ้นยืนปิดที่ระดับ 1.39 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 313 ล้านบาท เพราะก๊วนขาใหญ่ที่เข้ามาเล่นยังกอดหุ้นไว้น่ะซี

*ส่วนรายที่ทำท่าจะลาโรงละครไปนอนเลียแผลอย่าง TSTH ก็กลับมาเฉิดฉายแบบสุดซอยอีกครั้ง และทำท่าจะเล่นกันยาวเสียด้วย เพราะราคาเหล็กพุ่งขึ้นอีกรอบแบบงง ๆ ราคาหุ้นเลยวิ่งรับข่าวขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.57 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 6.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 470 ล้านบาท พร้อมกับมีเสียงร่ำลือเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินว่า เที่ยวนี้มีโอกาสขึ้นไปหายอดเดิมแถว 1.80 บาทอีกต่างหากแบบนี้..ขาลุยใส่กันมันหยดแน่ ๆ เจ้าค่ะ

*ในเมื่อมาแนวเล่นสั้น และลุ้นข่าวดีเป็นหลัก “โมนิก้า” ย่อมมองไปที่หุ้น UPA เพื่อล้อไปกับกระแสข่าวเทิร์นอะราวด์กันสักหน่อย โดยเฉพาะการตั้งเครื่องขุดบิตคอยน์จำนวน 400 ตัว ถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ว่า ไตรมาส 2 จะช่วยหนุนให้กลับมาทำกำไรเยอะขนาดไหน? เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 0.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 339 ล้านบาท น่าจะเป็นการเซตเกมรอบใหม่ของคนที่ชอบเล่นหุ้นต่ำบาทนะจะบอกให้

*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” เลือกมองไปที่หุ้น RS ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เฮียฮ้อ” อย่างรวดเร็ว เพราะทันทีที่ปรากฏข่าว “หมอพงษ์ศักดิ์” กับ “เสี่ยสุระ” ทุ่มเงินกว่า 300 ล้านบาทซื้อบิ๊กล็อต ก็เชื่อได้ทันทีว่า น่าจะมีซินเนอร์ยีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 16.90 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 6.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 367 ล้านบาท ก็เหมือนเป็นการบอกใบ้ว่า ปีนี้มาดีแน่!..ไม่เชื่อคอยดูแล้วกัน..อิอิอิ

Back to top button