ด่านหิน!

ทุกครั้งที่ดัชนีขึ้นมายืนแถว 1,700 จุดทีไร มักมีประเด็นให้คิดตามเยอะแยะไปหมด และทำให้ขาประจำมองว่า นี่คือด่านหินที่ยากจะฝ่าขึ้นไปง่าย ๆ


*ทุกครั้งที่ดัชนีขึ้นมายืนแถว 1,700 จุดทีไร มักมีประเด็นให้คิดตามเยอะแยะไปหมด และทำให้ขาประจำมองว่า นี่คือด่านหินที่ยากจะฝ่าขึ้นไปง่าย ๆ จึงเห็นแรงขายไหลออกมาเป็นระลอก แต่ในขณะเดียวกันก็มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาเป็นระยะเช่นกัน ส่งผลให้ภาพของการเล่นเที่ยวนี้อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “โมนิก้า” จึงภาวนาให้ดัชนีเกาะบริเวณดังกล่าวให้นานสุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเป็นใบเบิกทางขึ้นไปทดสอบ 1,720 จุดไงล่ะคะ

*งานนี้ใครจะหาว่าโลกสวยก็ช่างปะไร! เพราะโมเมนตัมมันทำให้เชื่อเช่นนั้นจริง ๆ ผสานกับรูปแบบการขยับตัวในช่วงหนึ่งเดือนก็ออกไปในทางไซด์เวย์อัพ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ตลาดหุ้นต้องเผชิญกับแรงขายที่มีออกมาเป็นระลอก เพราะมันเป็นหนึ่งในบททดสอบที่ทำให้ดัชนีเดินหน้าอย่างมั่นคง และไม่ต้องกังวลกับอาการฮาร์ดแลนด์ดิ้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนะจะบอกให้

*ประกอบกับตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ช่วงวันหยุดคั่นกลางสัปดาห์ และวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงไม่มีนักเล่นคนไหนคิดจะถือหุ้นยาว เดี๊ยนเลยมั่นใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 1,702.93 จุด บวกไป 1.62 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.58 หมื่นล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในสภาวการณ์แบบนี้ และหากจะคิดอะไรที่เว่อร์วังไปกว่านี้ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเพ้อฝันในเรื่องที่รู้อยู่เต็มอกว่า อิมพอสซิเบิ้ลน่ะซี

*โดยเฉพาะแรงขายที่สาดใส่หุ้นปลากระป๋อง TU ถือเป็นจุดที่บอกให้ทุกคนรู้ว่า วิกฤติศรัทธาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนสุด ๆ ยิ่งกลุ่มผู้บริหารเข้าไปพัวพันการเทรดหุ้น ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของหุ้นดูแย่ลงไปมากกว่าเดิม สุดท้ายจึงต้องลงเอยด้วยการลงมายืนปิดที่ระดับ 18.40 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.34 พันล้านบาท พร้อมกับทำนิวโลว์ในรอบ 9 เดือนครึ่งแบบชอกช้ำใจเจ้าค่ะ

*ส่วนรายของ BYD ก็เดินเกมหุ้นในแบบดุดัน คนในขบวนไม่มีแตกแถว เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า ปีนี้เทิร์นอะราวด์แบบเต็มตัว ผสานกับหัวเรือใหญ่เข้าใจ “เกมธุรกิจ” กับ “เกมการเงิน” เป็นอย่างดี จึงใช้เครื่องมือทางการแบบฟูลออปชั่น “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินให้ถ่องแท้ว่า การขึ้นเครื่องหมาย XR แล้วหุ้นลงมาปิดที่ 14.10 บาท ลบไป 6.70 บาท หรือลงไป 32.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 857 ล้านบาท “ได้” มากกว่า “เสีย” จริงอ๊ะป่าว?

*ในเมื่อเล่นแบบจัดเต็มทุกกระบวนท่า “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับมาดูหนูซ่า NUSA กันอีกสักรอบ เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.54 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 586 ล้านบาท มันเป็นการวิ่งกลับขึ้นมาทดสอบ 1.60 บาทอีกครั้ง และมีสิทธิ์ได้เห็นหุ้นวิ่งขึ้นไปหาไฮเดิมที่บริเวณ 1.83 บาทอีกด้วย จึงกลายเป็นช็อตของการไหลตามน้ำสำหรับพวกขาลุยที่เชื่อในตัว ป.พาเพลิน นะจ๊ะ

*สำหรับรายที่ไล่กันมัน และเป็นที่กล่าวถึงอย่าง BKD ก็มีสตอรี่ให้ตามดูได้เรื่อย ๆ แถมเที่ยวนี้เม้าท์กันให้แซ่ดว่า น่าจะมีทีเด็ดบางอย่างซ่อนไว้แน่ ๆ ราคาหุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 2.78 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 9.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 139 ล้านบาท จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าตามไปดูอย่างใกล้ชิด ผสานกับหุ้นยังมีแก๊ปให้เล่นแบบชิว ๆ อีกพักใหญ่ (พีอี 30 เท่า) เลยกลายเป็นจังหวะ “ใครเร็วกว่า คนนั้นได้”..อิอิอิ

*เช่นเดียวกับการทะยานของหุ้นร้อน AKP ก็เป็นเกมที่ทุกคนรู้ดีว่า เจ้ามือใหญ่คอยคุมเกมอยู่ข้างหลัง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องแตกแถว เพราะไฟต์นี้เขานับเลขมาเป็นอย่างดี จึงกลายเป็นเกมลากหุ้นแบบไม่มีอะไรต้องเสีย เพราะในแง่ของพื้นฐานก็ซับพอร์ต หรือมองในแง่ของค่าพีอี ก็ยังมีช่องให้วิ่งอีกโข วานนี้จึงเห็นหุ้นยืนปิดที่ 3.98 บาท บวกไป 0.44 บาท หรือขึ้นไป 12.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 870 ล้านบาทแบบสบายเกือกเจ้าค่ะ

*อีกรายที่มาในฟอร์มร้อนแรง และมีสียงร่ำลือถึงดีลใหญ่กำลังจะคลอด “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น PJW อย่างรวดเร็ว หลังเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.45 บาท บวกไป 0.49 บาท หรือขึ้นไป 9.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 346 ล้านบาท มันคืออาการของหุ้นที่เด้งก่อนข่าวจริง และในแวดวงแมงลือก็เม้าท์กันให้แซ่ดว่า เที่ยวนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับรถอีวีอย่างแน่นอน ส่วนดีลจะออกมาในแบบไหน ก็ต้องตามดูกันต่อไปจ้า!

Back to top button