COM7 สวมเสื้อเภสัชกร.!?

การผนึกกำลังกันระหว่าง BDMS กับ COM7 ครั้งนี้ มีโอกาสที่จะพาสชั้นขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งเลยก็เป็นได้


ฮือฮาไม่น้อย..!! เมื่อหนึ่งเจ้าสัวกับหนึ่งเสี่ยใหญ่ นั่นคือ “หมอเสริฐ” – นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ และ “เสี่ยสุระ คณิตทวีกุล” โคจรมาพบกัน ด้วยการตกลงปลงใจตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อรุกธุรกิจร้านขายยา ทั้งในรูปแบบสแตนด์อะโลน และตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า…

โดยบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จํากัด (มหาชน) หรือ BDMS จะถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนดังกล่าวผ่านบริษัทลูกในสัดส่วน 60% ส่วนบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 จะถือหุ้น 40%

ดูแล้วน่าสนใจ…เพราะในมุมของ COM7 เป็นการแหกกรอบจากธุรกิจเดิมในแง่ของตัวโปรดักส์ จากการขายสินค้าไอที โทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง มาเป็นธุรกิจทางการแพทย์…

โอเค…ก็พอเข้าใจนะว่า ตลาดสินค้าไอที มันกลายเป็นทะเลแดงเดือด หรือเรดโอเชียนไปแล้ว ทำให้มีมาร์จิ้นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ดูได้จากงบการเงินของ COM7 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีรายได้เฉลี่ยปีละหลายหมื่นล้านบาท แต่มีกำไรสุทธิแค่พันล้านบาทต้น ๆ เท่านั้น ขณะที่อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 4-5% เลยทำให้ COM7 ต้องพยายามแสวงหาน่านน้ำสีครามใหม่

และดูเหมือนธุรกิจร้านขายยา จะเป็นคำตอบใหม่ของ COM7 ในเวลานี้..!!

ส่วนมุมของ BDMS อย่างที่รู้กันว่าเป็นกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ ทำให้มีความคุ้มค่าที่จะสร้างโรงงานเพื่อผลิตยาป้อนให้กับโรงพยาบาลในเครือ ขณะเดียวกันก็นำไปสู่การต่อยอดรุกเข้าสู่ธุรกิจยาภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นยาพาราเซตามอลแบรนด์ “บาคามอล” (Bakamol) น้ำเกลือแบรนด์ “คลีนแอนด์แคร์” (Klean&Kare) รวมทั้งร้านขายยา “เซฟดรัก” (Save Drug) เป็นต้น

ซึ่งถ้าโฟกัสมาที่รีเทล เป็นไปได้ว่า BDMS อาจไม่ถนัด ครั้นจะรอเติบโตแบบค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป คงไม่ทันใจ “หมอเสริฐ” ล่ะมั้ง..?

เลยเป็นที่มาของการดึง COM7 มาสวมเสื้อเภสัช…โดยอาศัยโนว์ฮาวในการบริหารจัดการร้านค้าปลีกที่มีกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ  และฐานข้อมูลลูกค้าของ COM7 มาช่วยตอบโจทย์ ก็น่าจะทำให้สามารถไปได้เร็วกว่าการก่อร่างสร้างตัวด้วยตัวคนเดียว…ว่าป๊ะล่ะ

ที่แน่ ๆ งานนี้ BDMS ได้ระบายของ (ยา)…ส่วน COM7 ก็ถือเป็นโอกาสใหม่ในการสร้างรายได้ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูงเสียด้วยสิ…

ถ้าถามว่าธุรกิจนี้สดใสซาบซ่าขนาดไหน…ต้องบอกว่าเค้กก้อนนี้ใหญ่มว๊ากกก โดยเฉพาะการมาของโควิดที่ทำให้คนหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น บวกกับผลวิจัยพบว่าทางเลือกแรกของคนเจ็บป่วยไม่รุนแรง คือร้านขายยา ก็ยิ่งช่วยหนุนให้ตลาดร้านขายยาเติบโตมากขึ้น ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในปี 2565 มูลค่าตลาดยาจะอยู่ที่ประมาณ 2.33–2.38 แสนล้านบาท เติบโตที่ 3.0-5.0% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ขยายตัว 2.5%

แล้วที่สำคัญ ยังไม่มีใครเป็นเจ้าตลาดอย่างชัดเจนเลยนะ…

นั่นหมายความว่า การผนึกกำลังกันระหว่าง BDMS กับ COM7 ครั้งนี้ มีโอกาสที่จะพาสชั้นขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งเลยก็เป็นได้…เพราะอย่าลืมว่าด้วยชื่อชั้นของ BDMS และบุคลากรที่มีความพร้อม ก็น่าจะช่วยอัพแวลูให้ได้มากโข และทำให้ได้เปรียบกว่าเจ้าอื่น ๆ หลายขุม…

จึงถือเป็นอีกดีลที่น่าจับตา…

แต่ดูแล้วคงมีหลายคนที่เริ่มรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ แล้วล่ะ

อ้อ…ก็หวานเป็นลม…ขมเป็นยานี่นา..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button