หุ้นเล็กสวนตลาด

ผลพวงของอัตราเติบโตของจีดีพีที่ลดลง ทำให้ต้องปรับเป้าหมายของดัชนีตลาด SET ลงมาด้วยจากเดิม 1,770 จุดเหลือแค่ในกรอบ 1,700-1,750


ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงยักแย่ยักยันกับเครื่องหมายคำถามในหมู่นักวิเคราะห์สำนักต่าง ๆ ว่าจะสามารถทะลุขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,640 จุดได้อย่างมั่นคงแค่ไหน หลังจากที่สภาพัฒนาฯ ออกมาประกาศปรับลดความคาดหมายของอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจประเทศหรือ GDP ปีนี้ลดลงเหลือโต 2.5-3.5% จากเดิมที่ระดับ 3.5-4.55% โดยแจ้งถึงตัวแปรกดดันหลายประการจากผลของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่รับผลกระทบจากการขึ้นราคาพลังงานทั่วโลก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดยังคงเป็นขาขึ้นจากภาวะ Stagflation

ผลพวงของอัตราเติบโตของจีดีพีที่ลดลง ทำให้ต้องปรับเป้าหมายของดัชนีตลาด SET ลงมาด้วยจากเดิม 1,770 จุดเหลือแค่ในกรอบ 1,700-1,750 จุดโดยเน้นหนักให้สะสมเฉพาะหุ้น ValuePlay ที่ PER/PBV ไม่สูงมากนัก

หนึ่งในหุ้นที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ค่อนข้างดีคือ หุ้นก่อสร้างฐานรากโครงการขนาดใหญ่ที่มีออเดอร์รับงานโดดเด่นรวมทั้งหุ้นอย่าง บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ที่ราคาร่วงลงมาให้รับพอดีแถวใต้ราคา 4.80 บาทที่ถือว่าค่อนข้างต่ำมากเมื่อเทียบกับอนาคตอันสดใสตลอดทั้งปี หลังจากที่ผ่านไตรมาส 1 ของปีนี้ด้วยผลงานทำกำไรอันสุดยอด

PYLON ประกาศงบไตรมาส 1/65 โกยรายได้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 284.44 ล้านบาท เติบโตกว่า 25% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 21.39 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการสวนทางกับตลาดโดยรวม

ดร.ชเนศวร์  แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ PYLON ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 1 ปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 21.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.91% มีรายได้จากการให้บริการ 284.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 58.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.68% โดยมีต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 240.43 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.29%

โดยที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดในสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ชะลอโครงการคอนโดมิเนียมอาคารสูงกันอย่างมาก แต่ว่ากลับกลายเป็นความโชคดีของ PYLON ที่รับงานโครงการขนาดใหญ่ ๆ เข้ามาหลายโครงการในช่วงไตรมาสที่ 3-ไตรมาสที่ 4/2564 ส่งผลให้ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) แข็งแกร่งอยู่ที่ราว 1,400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไป จนถึงปลายปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดหวังการประมูลงานใหม่ยังมีความต่อเนื่อง จากโครงการที่มีศักยภาพและมีมูลค่าสูง อาทิ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ทางยกระดับเส้นพระราม 2  รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนที่คาดจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังการลดความรุนแรงของการระบาดของโควิด-19 และให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้จากการเปิดเมือง

ขณะที่สถานการณ์แรงงานยังควบคุมได้เนื่องจากยังเพียงพอกับปริมาณงานในมือ และมีศักยภาพในการหาเพิ่มหากรับงานใหม่ ส่วนความผันผวนราคาวัสดุก่อสร้างคาดกระทบจำกัด เนื่องจากเป็นงานระยะสั้นและบริษัทฯ ล็อกราคาทันทีเมื่อรับงาน  ทำให้ภาพรวมของธุรกิจก่อสร้างรับทำฐานรากภาพในปีนี้จะวิ่งสวนทางกับตลาด โดยที่การรับรู้งานในมือจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 จนถึงปลายปีนี้ ล่าสุดตุนงานในมือแข็งแกร่งอยู่ที่ 1,400  ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้

ราคาของ PYLON ที่เด้งสวนทางตลาดวานนี้ จึงเป็นปฏิกิริยาของ “คุณตลาด” จากการคาดเดาว่าอนาคตของผลกำไรปีนี้ของบริษัทที่ค่าพี/บีวีอยู่ที่แค่ 3.5 เท่า และกำไรสุทธิไตรมาสแรกเกินกว่าครึ่งของกำไรสุทธิปีก่อนเลยทีเดียวล่าสุดอยู่ที่ระดับ

ราคาหุ้นที่จะไม่ลงใต้ 4.80 บาท จึงมีเหตุผลในตัวเองที่น่าติดตาม

Back to top button