‘ซีพี’ เปิดศึกค้าปลีก-ค้าส่งอินเดีย

ไม่ว่ากระแสข่าวซื้อกิจการค้าส่ง Metro ในอินเดียจะมีบทสรุปอย่างไร..แต่การลงทุนของกลุ่มซีพีคงไม่หยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอน


หลังปิดดีลควบรวมกิจการระหว่าง “ห้างแม็คโคร” (บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO) กับ “ห้างโลตัสส์” (บริษัท โลตัสส์ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด) มูลค่ากว่า 500,000 ล้านบาท เสร็จสิ้นลง ทำให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ยึดครองตลาด “ค้าปลีก-ค้าส่ง” และ “ร้านค้าสะดวกซื้อ” ของเมืองไทยแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด..!!

แต่บรรดาผู้ถือหุ้นรายย่อย MAKRO ดูเหมือนว่าดีลควบรวม “แม็คโคร-โลตัสส์” จะกลายเป็นทุกขลาภ ด้วยความที่ราคาหุ้น 35.25 บาท ไม่สามารถกลับมายืนเหนือเพิ่มทุน 43.50 บาทได้เลย หลังแผน Fast Track เข้าคำนวณในดัชนี SET50 มีอันต้องล่มไป…หลังฟรีโฟลตมีเพียง 13% แม้จะมีมาร์เก็ตแคปมากกว่า 360,000 ล้านบาทก็ตาม

มาถึงดีลควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ด้วยการจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาโดยกลุ่มซีพีหมายมั่นปั้นมือว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/65 และเมื่อสำเร็จ นั่นส่งผลให้กลุ่มซีพี ยึดครองธุรกิจโทรคมนาคม (มาร์เก็ตแชร์มากกว่า 51%) ของเมืองไทยไปอีกหนึ่งธุรกิจ

หลังยึดอำนาจการตลาดใน “ธุรกิจเกษตร-ค้าปลีก-ค้าส่ง-ร้านสะดวกซื้อ” ได้สำเร็จเป็นที่ประจักษ์กันมาแล้ว..และนั่นทำให้ประเทศไทย..เล็กเกินไปสำหรับกลุ่มซีพีซะแล้ว..!

ล่าสุดสำนักข่าว The Economic Times India มีการเผยแพร่ข่าวว่า Metro AG ยักษ์ใหญ่ด้านค้าปลีก-ค้าส่ง สัญชาติเยอรมนี มีแผนขายกิจการห้างค้าส่ง Metro ในประเทศอินเดีย พร้อมกับกระแสข่าวตามมาทันทีว่ากลุ่มซีพี เป็นหนึ่งในกลุ่มที่สนใจเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ด้วยมูลค่าประมาณ 1,500-1,750 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 52,000-61,000 ล้านบาท

โดย Metro Cash and Carry India มีสาขาทั้งหมด 31 สาขาดำเนินการในอินเดีย มาตั้งแต่ปี 2019 (ปี 2562) เป้าหมายลูกค้ากลุ่มร้านอาหารและโรงแรม ขณะที่กลุ่มซีพีมีกิจการด้านค้าส่ง (ในนาม MAKRO) เช่นเดียวกันภายใต้ชื่อว่า Lot’s มีสาขาในอินเดียทั้งหมด 3 สาขา

อย่างไรก็ดีกลุ่มซีพี ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งรายสำคัญ ทั้ง DMartn, Tata Group, Lulu Group ที่เสนอตัวเข้าชิงซื้อกิจการ Metro ด้วยเช่นกัน

โดยผู้บริหาร Metro ปฏิเสธให้ความเห็นเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่า ตลาดอินเดีย มีศักยภาพมหาศาล สำหรับธุรกิจค้าส่ง มีผลประกอบการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ EBITDA ปี 2021 เทียบปี 2020 และ E-commerce เติบโต 5.7 เท่า และเปิดตัวสาขาใหม่ 3 แห่ง ภายใน 9 เดือน

เป็นที่น่าจับตาว่า “อินเดีย” กำลังกลายเป็นหมุดหมายใหม่ของกลุ่มซีพีหรือไม่ เพราะด้วยฐานจำนวนประชากรและเศรษฐกิจขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก นั่นหมายถึงเป็นแหล่งกระจายสินค้าเกษตรและอาหารของกลุ่มซีพีในอนาคตได้เป็นอย่างดี

เหมือนดังเช่นกลุ่มซีพี..เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในจีน หลังเป็นบริษัทต่างชาติรายแรกที่เข้าลงทุนในประเทศจีนยุคเริ่มต้นนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดประเทศ ภายใต้การนำของ “เติ้ง เสี่ยวผิง” ช่วงปลายทศวรรษที่ 1970

ปัจจุบันกลุ่มซีพีมีบริษัทในจีนกว่า 400 บริษัท พนักงานในจีนกว่า 80,000 คน จนเป็นแหล่งระบายสินค้ากลุ่มซีพีที่มีศักยภาพสูง ทั้งอาหารแปรรูปและอาหารสด อาหารสัตว์ ไข่ไก่ เมล็ดพันธุ์พืช มอเตอร์ไซค์ต้าหยาง ตลอดจนเวชภัณฑ์ยาและอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 120,000 ล้านหยวน

ไม่ว่ากระแสข่าวซื้อกิจการค้าส่ง Metro ในอินเดียจะมีบทสรุปอย่างไร..แต่การลงทุนของกลุ่มซีพีคงไม่หยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอน..!!??

Back to top button