เงินเฟ้อประเทศไทย 7.66% (ตอนจบ)

ประเทศไทยโดยธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ว่า อัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยจะต้องมีเป้าหมายผูกไว้กับ “เป้าหมายเงินเฟ้อ” ชึ่งเท่ากับเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานที่ระดับ 3% ถึงจะมีการปรับเปลี่ยน หลักยังไม่เกินเป้าหมายก็ยังแสดงอาการปกติ ไม่ต้องขึ้นดอกเบี้ย และไม่ต้องปรับค่าเงินในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน โดยธปท.จะยินยอมขาดทุนไปเรื่อยจากการเข้าแทรกตลาดเงิน


ประเทศไทยโดยธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ว่า อัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยจะต้องมีเป้าหมายผูกไว้กับ “เป้าหมายเงินเฟ้อ” ชึ่งเท่ากับเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานที่ระดับ 3% ถึงจะมีการปรับเปลี่ยน หลักยังไม่เกินเป้าหมายก็ยังแสดงอาการปกติ ไม่ต้องขึ้นดอกเบี้ย และไม่ต้องปรับค่าเงินในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน โดยธปท.จะยินยอมขาดทุนไปเรื่อยจากการเข้าแทรกตลาดเงิน

จากตัวเลขบนสุดของธปท.ในเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา (ปรากฏในสรุปประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในรายงานนโยบายการเงิน มิถุนายน 2565) ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของประเทศไทยยังสูงขึ้นจริง แต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังต่ำกว่าเป้าหมาย ดังนั้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของตลาดไทยจึงต้องรอไปก่อน

เหตุผลก็เพราะว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังต่ำกว่าจีดีพี.นั่นเอง ตามตารางที่ยกมาให้เห็น แม้ว่าทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและพื้นฐานจะยังคงเกินเป้าหมายไปเล็กน้อย

เมื่อตัวเลของผู้ยิ่งใหญ่อย่าง ธปท.ออกมาเป็นเช่นนี้ ใครเลยจะกล้าไม่ยอมรับล่ะ

ร้อยละ 2564* 2565 2566

อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 1.5 3.3 (3.2) 4.2 (4.4)

อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 1.2 6.2 (4.9) 2.5 (1.7)

อัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐาน 0.2 2.2 (2.0) 2.0 (1.7)

* ข้อมูลจริง

( ) ประมาณการเดิมในรายงานนโยบายการเงิน มีนาคม 2565

เหตุผลของตัวเลขที่ยกมา ทำให้ความเดือดร้อนทั้งหลายทั้งปวงของบรรดาผู้เล่นในตลาดเงินรวมทั้งตาสีตาสาผู้โง่เขลาของประเทศ “กูมี” ที่ต้องเผชิญกับราคาสินค้าที่พากันยกระดับขึ้นไปทั่วหน้า เป็นเรื่องจิบจ้อยในทันที

ความจนโดยเปรียบเทียบของคนเดินดินและราคาหุ้นในตลาดที่ย่อตัวลง ก็กลายเป็นเทพนิยายในบัดดลไปด้วย

ดังนั้นเมื่อท่าทีของธปท.ออกมาเป็นเช่นนี้ ความคาดหวังที่จะให้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยและค่าเงินบาทให้ถูกลง (แบบที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นกระทำกับค่าเงินเยน) จึงไม่น่าจะเกิดขึ้น เราอาจจะได้เห็นกนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยพอเป็นพิธีในคราวต่อไปกลางเดือนนี้เพียง 0.25% เพื่อข้ออ้างสู้กับเงินเฟ้อ

นั่นหมายความว่า ตลาดอาจจะต้องยอมให้ราคาสินค้าขึ้นไปอีกจนค่าอัตราเงินเฟ้อของธปท.เขยิบขึ้นไปสูงกว่าเป้าหมายเยอะ ๆ เสียก่อน……ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น หมูตายที่ไม่กลัวน้ำร้อน น่าจะเกลื่อนประเทศแค่ไหน ก็ไม่อาจคาดเดาได้

สถานการณ์อึมครึมด้วยเสียงโอดครวญของคนที่เดือดร้อนจากเงินเฟ้อ และราคาหุ้นที่ต่ำเกินจริงชนิดต่ำกว่าบุ๊กจนน่าเกลียด……จึงจะดำเนินต่อไป

เว้นเสียแต่ผู้ยิ่งใหญ่ของธปท.จะเกิดอาการตาสว่าง หายจากการเป็น “มนุษย์ถ้ำของพลาโต้” นั่นแหละ

ซึ่งยากจะบอกได้ว่าเมื่อใด

Back to top button