ดีลใหญ่ดันหุ้น

หลังจากผ่านเรื่องวุ่น ๆ ของยายป้ามหาภัยฝั่งตะวันตก ก็ถึงเวลาย้อนกลับมาดูสภาพ “เศรษฐกิจ” ของประเทศไทยมีการฟื้นตัวต่อเนื่องขนาดไหน?


หลังจากผ่านเรื่องวุ่น ๆ ของยายป้ามหาภัยฝั่งตะวันตก ก็ถึงเวลาย้อนกลับมาดูสภาพ “เศรษฐกิจ” ของประเทศไทยมีการฟื้นตัวต่อเนื่องขนาดไหน? หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลงมาต่ำกว่าระดับ 100 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งน่าจะช่วยให้สถานการณ์เงินเฟ้อทุเลาลงอย่างมีนัยสำคัญ และน่าจะทำให้เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้ผลงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3 ไม่แย่กว่าที่ผ่านมานะจ๊ะ

ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” มองการแกว่งตัวของดัชนีไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะจังหวะนี้เป็นช็อตซื้อกลับของนักลงทุนสถาบัน เมื่อนำมาผนวกเข้ากับการเล่นรอบใหม่ของนักลงทุนรายย่อย เดี๊ยนเลยไม่เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในอาการ Hard Landing เพราะเมื่อดูตามเนื้อผ้าที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ มันน่าจะมีเรื่องดี ๆ ที่ทำให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นไปสร้างฐานแนวรับใหม่ที่แข็งแกร่งบริเวณ 1,600 จุดได้ไม่ยากเย็นนะคะ

ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,601.09 จุด บวกไป 2.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.88 หมื่นล้านบาท คือภาพที่ยืนยันถึงสถานการณ์ที่ดีขึ้นเป็นลำดับ และประเด็นนี้เองที่ทำให้ “โมนิก้า” อยากเม้าท์ถึงดีลใหญ่ที่จะเป็นตัวสร้างแวลูให้กับหุ้นดาวเด่น เพราะเมื่อนั่งบวกลบคูณหารแบบละเอียดมันทำให้เชื่อว่า จังหวะนี้เหมาะต่อการซื้อหุ้นด้วยประการทั้งปวง! เพราะดาวไซด์ค่อนข้างต่ำ ขณะที่อัพไซด์บานทะโล่ไงล่ะคะ

ดีลคู่แรกที่ต้องเอ่ยถึง “โมนิก้า” คงมองไปที่เรื่อง TRUE ควบ DTAC ซึ่งบางส่วนก็เห็นด้วยกับดีล แต่บางส่วนก็ไม่เห็นด้วยกับดีล แต่สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวของเดี๊ยนก็เชื่อว่า ดีลนี้น่าจะผ่านฉลุย! เพราะเหตุผลของการคัดค้านมันดูหน่อมแน้มไปหน่อย! รวมทั้งประวัติศาสตร์การควบรวมของธุรกิจไทย ก็ไม่เห็นมีดีลไหนที่ล่มปากอ่าวสักราย จึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นเจ้าแรกพยายามวิ่งผ่าน 5 บาทนะจะบอกให้

เช่นเดียวกับในรายของ ADVANC กับ JASIF ก็เป็นช็อตที่เสริมส่งให้ศักยภาพของรายหลังแกร่งขึ้น และถ้ามองกันยาว ๆ ก็น่าจะ วิน-วิน ทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะเป็นผลดีสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนแบบเนื้อ ๆ เน้น ๆ เดี๊ยนจึงสนับสนุนให้ดีลนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ เพราะงานนี้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ รับประโยชน์เต็ม ๆ และเมื่อใดที่เรื่องนี้ชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ ก็จะเห็นราคาหุ้นของรายหลังขยับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ!..ยกเว้นไม่เป็นเหมือนที่คิด ก็เปิดตูดซิคะ..รออะไร!

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องส่องกล้องมองไปที่เสือซุ่มตัวจริงอย่างหุ้น EA หลังมีข่าวเม้าท์ตามสี่แยกต่าง ๆ ให้แซ่ดว่า มีดีลใหญ่หมื่นล้านรอเคาะช่วงปลายปี จึงกลายเป็นช็อตที่ต้องมองกันยาว ๆ สำหรับพวกรักจริงหวังแต่ง และการที่หุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 82 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 334 ล้านบาท เทียบกับไฮก่อนหน้าที่ระดับ 90 บาท มันน่าสนใจไหมล่ะตัวเอง!

ในเมื่อชอบเรื่องเม้าท์มอย “โมนิก้า” ก็ต้องมองไปที่หุ้น PSG เพื่อชี้ให้เห็นแรงซื้อที่ไหลเข้ามาต่อเนื่อง น่าจะเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า งบไตรมาส 2 น่าจะดี และคงจะมีดีลใหม่ให้นักเล่นได้ปลื้มปริ่มกันยกใหญ่ เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นจับตาหุ้นตัวนี้มากเป็นพิเศษ เพราะการที่หุ้นยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 1.17 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60 ล้านบาท มันยั่วใจเหลือเกินพะยะค่ะ

ส่วนหุ้นที่มีซ่อนแวลูไว้ในพอร์ตเพียบ เพราะยังไม่โชว์งานที่มีให้ชาวบ้านเห็น “โมนิก้า” คงมองไปที่ตัวท็อปของตลาด เอ็ม เอ ไอ ต้องส่องกล้องมองไปที่หุ้น BE8 หลังพยายามเดินหน้าขึ้นทำ all time high ตลอดเวลา แต่สุดท้ายยังทำไม่สำเร็จ จนสุดท้ายลงมายืนปิดที่ระดับ 55.75 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 350 ล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะของการ follow buy สำหรับคนที่เชื่อว่า หุ้นตัวนี้ดีจริงนะจ๊ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของ PJW ก็มีลุ้นเรื่องดีลทำฉนวนหุ้มแบตให้กับหุ้น EA จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับสายลุย เพราะเมื่อมองดูจากแรงขายที่ถล่มหุ้นลงไปกองที่ 3.50 บาท ต่อจากนั้นค่อย ๆ ตีกลับขึ้นมาอย่างช้า ๆ จนล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 4.38 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 0.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 115 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 15 เท่า จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจในแง่ของแวลูที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตไงล่ะคะ

Back to top button