เซลออนแฟคท์

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แม้ว่าจะปิดบวกอยู่ที่ระดับ 1,622.26 จุด บวก 5.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.83 หมื่นล้านบาท


ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แม้ว่าจะปิดบวกอยู่ที่ระดับ 1,622.26 จุด บวก 5.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.83 หมื่นล้านบาท แต่ความรู้สึกลึก ๆ “โมนิก้า” มองว่ายังไม่ใช่ขาขึ้นที่แท้จริง…และยังไม่น่าไว้วางใจเพราะระหว่างวันผันผวน เชื่อเป็นแค่การเข้าเก็งกำไรในช่วงเทศกาลประกาศงบการเงินของ “บจ.” งวดไตรมาส 2/2565 เท่านั้น โดยไล่ซื้อหุ้นตัวที่คาดว่ากำไรสุทธิจะออกมาดี หรือประกาศออกมาแล้วเติบโตแข็งแกร่ง ในช่วงระหว่างรอปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามาสนับสนุนเจ้าค่ะ

อย่างไรก็ตามการเข้าเก็งกำไรหุ้นที่กำไรสุทธิเลิศ อาจไม่เป็นไปตามสมปรารถนามากนัก คิดว่าจะเป็นปัจจัยบวกให้ราคาหุ้นบนกระดานวิ่งรับได้ 100% จากหลาย ๆ ตัวที่ในช่วงวันพฤหัสบดีช่วงภาคเช้าเปิดตลาดเกิดการไล่ราคาจากข่าวผลประกอบการ แต่ท้ายสุดก็ปรับตัวลงมาปิดลบ “เซลออนแฟคท์” ด้วยแรงเทขายทำกำไรออกมาหลังจากรับรู้ข่าวไปแล้ว “โมนิก้า” พูดเลยว่าเกมการเล่นแบบนี้นักลงทุนหน้าเก่า ๆ ต่างรู้ดีว่ามักเกิดขึ้นหลังจากมีการไล่ราคาก่อนหน้าวันงบฯ ออกมาแล้วพะเจ้าค่ะ

เช่นในรายของ JMT ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่องราวสองสัปดาห์ จนมาถึงวันประกาศงบฯ ไตรมาส 2/65 พบว่ากวาดกำไรทะลัก 433 ล้านบาท โต 50% กว่าตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้วันที่ 11 ส.ค. ระหว่างวันราคาขึ้นไปทำ High 82.75 บาท แล้วท้ายสุดย่อลงมาปิดอยู่ที่ 78 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1.27% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.14 พันล้านบาท ซึ่งเกิดการเซลออนแฟคท์ พ่วงแรงซื้ออิ่มตัว ยังไง “โมนิก้า” มองเป็นการพักฐานปกติ ส่วนพื้นฐานไม่ต้องพูดเยอะปีนี้นิวไฮแน่จ้า!!

เหมือนกับรายของ TIDLOR ราคาหุ้นค่อย ๆ ไต่ขึ้น จนถึงวันที่ 11 ส.ค. ระหว่างวันขึ้นไปทำ High 31.50 บาท ก่อนถูกแรงเทขายทำกำไรออกมาทำให้ราคาปิดที่ 29.75 บาท ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.17 พันล้านบาท เป็นการเซลออนแฟคท์ หลังประกาศงบฯ ไตรมาส 2/65 โชว์กำไร 981 ล้านบาท โต 26% แต่อย่างไร “โมนิก้า” มองยังเป็นหุ้นน่าลงทุน หากดูบทวิเคราะห์ โบรกฯ ประเมินว่าลุ้นปีนี้กำไรแตะ 4 พันล้านบาท เคาะราคาเป้าหมาย 38 บาท เลยเจ้าค่ะ

ต่อเนื่องไปดูกรณีของหุ้นร้อน (เป็นช่วง ๆ) อย่าง TAKUNI ที่มีครอบครัว “เฮียเสริฐ” เป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ครั้งนี้โชว์วิชาลากยื้อฉุดกระชากในแบบที่โลกต้องจดจำให้ดูเป็นขวัญตากันอีกรอบ ล่าสุดผ่านไป 5 วัน ราคาพุ่งแล้ว 57%

การปรากฏบิ๊กล็อตเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ถือเป็นการปิดเกมหึงโหดไปตามระเบียบ ด้วยราคาที่ขึ้นไปไฮถึง 3.14 บาท ก่อนทุบลงมาปิดที่ 2.76 บาท “โมนิก้า” ซึ่งเป็นสาวผู้ช่ำชองในเรื่องพรรค์นี้ฟันธงได้ทันทีว่านี่คือการลากไปออกของยังไงล่ะค้า

เรื่องนี้ตอกย้ำว่าข่าวลือชิ้นไหนที่ “โมนิก้า” หยิบมาเม้าท์ถึงมักมีมูล (ที่ไม่ใช่ขรี้) เสมอ แต่เที่ยวนี้อาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง เหตุเพราะมีกระแสข่าวว่าบ้านเฮียดันไปล้มดีลกับกลุ่มทุนอสังหาฯ ที่เดี๊ยนเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ ทั้งที่ยังอยู่ใน MOU

หากเป็นเรื่องจริง นั่นเท่ากับว่าเฮียเสริฐผู้มีบุคลิกเรียบง่ายแต่ดุดันเวลากรึ่ม ๆ เลือกหักดิบคู่เจรจาเดิมเพราะได้ออฟเฟอร์ที่ดีกว่า! ก็อย่างว่าล่ะค่ะ เจ้าแรกเขาให้แค่ 2 บาทเจ้าใหม่ให้ตั้ง 2.40 บาท เฮียก็คงใจอ่อนเป็นธรรมดา…ใช่ไหมคะเฮียขา?

กระนั้นมิตรรักแฟนเพลงอย่าพึ่งรีบสรุปกันว่าดีลบิ๊กล็อตที่เกิดขึ้นเป็นการทำรายการของคนในบ้านเฮียเพราะยังไม่มีรายงานว่าใครคือคนที่ขายออกมา 128.68 ล้านหุ้น เพียงแต่จำนวนมันไปตรงกับบัญชีคัสโตเดียนที่ถือหุ้น TAKUNI อยู่พอดิบพอดี

เช่นนั้นคำตอบจึงอยู่ที่เจ้าของบัญชีซึ่งระบุว่าเป็น “เครดิตสวิสฮ่องกง” คือหากเป็นบ้านเฮียจริง! ก็ถือเป็นการปิดฉากบทบาทครอบครัว “ตรีวีรานุวัฒน์” ในทาคูนิ และอาจนำไปสู่การฟ้องร้องกันหัวโต เพราะเฮียดันไปทำดีลเขาหักในเอาดื้อ ๆ น่ะสิคะ

ปิดท้ายมาดูหุ้นเทิร์นอะราวด์ขวัญใจอีโมอย่าง PSG ที่ราคากระชากขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ล่าสุดปิดที่ 1.22 บาท “Month-to-date” บวกไปแล้ว 22% เดี๊ยนมองเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความรู้สึกดี ๆ ที่จะทะลักพรั่งพรูเข้ามาแบบไม่ขาดตอน

ด้วยบอททอมไลน์ของไตรมาส 2/65 พลิกมาเป็นบวกถึง 268 ล้านบาทถือเป็นการส่งซิกว่างานอินฟราฯ ของเหมืองดำในสปป.ลาวอยู่ในท่วงท่าและจังหวะที่จะต้องถึงฝั่งฝันแน่ ๆ แต่อย่าลืมทีเดียวเชียวนะเจ้าคะว่านี่แค่งวดแรกที่เริ่มบุ๊กเข้ามาเท่านั้น!

อีกหนึ่งไคลแมกซ์ที่จะฟินจิกหมอนจนเล็บฉีก แถมเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจไม่ใช่แค่วันไนท์สแตนด์ คือการปลดเครื่องหมาย C ที่มันแน่นอกมานมนาน วันนี้ PSG คือของดีไร้ตำหนิที่หลายคนหมายปอง จนอาจต้องร้องเพลง Baby One More Time ของน้อง “บริทนีย์ สเปียร์” แบบเบิ้ลรอบไปเรื่อย ๆ ก็เป็นได้นะฮ้า…

Back to top button