ปิดฉาก ‘คริปโต’

ข่าวที่ฮือฮาสุดวานนี้เป็นเรื่องของ “เอสซีบี เอกซ์” ประกาศคว่ำดีลซื้อหุ้น “บิทคับ” ที่มีมูลค่าสูงถึง 1.75 หมื่นล้านบาท


ข่าวที่ฮือฮาสุดวานนี้เป็นเรื่องของ “เอสซีบี เอกซ์” ประกาศคว่ำดีลซื้อหุ้น “บิทคับ” ที่มีมูลค่าสูงถึง 1.75 หมื่นล้านบาท พร้อมกับให้เหตุผลว่า ฝั่งคนขายเคลียร์ปัญหาที่ค้างคาใจกับ ก.ล.ต. ไม่จบสักที และเป็นที่มาของการยุติทุกอย่างที่เคยพูดกันไว้แบบนี้..มันหมายถึงมูลค่าเหรียญในอนาคตน่าจะมืดมนพอสมควร จนเป็นที่มาของคำพูดที่ว่า คริปโตปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้วล่ะค่ะ

เหตุผลที่ทำให้คนเชื่อเช่นนั้นมาจากช่วงที่เฟื่องฟู เหรียญตัวนี้เคยขึ้นไปถึงระดับ 580 บาท แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันกลับมีค่าตัวอยู่แค่ 57 บาท และมีแนวโน้มที่จะไหลลงไปอีกเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องนี้ด้วยความรันทดใจเป็นที่สุด เพราะเป็นการสะท้อนภาพแมงเม่าที่บินเข้ามาในตลาดคริปโตตายเกลื่อน และไม่มีทางที่จะได้เห็นราคาเหรียญวิ่งกลับขึ้นมาที่เดิมนะจะบอกให้

เนื่องจากทุกวันนี้ไม่มีใครเชื่อมั่นตลาดคริปโตเหมือนในอดีตอีกแล้ว แถมในแต่ละวันก็มีปัญหาผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ “ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล” และ “เหรียญที่นำมาเทรด” หรือแม้กระทั่งคนที่ทำ “เหมืองขุดคริปโต” แถมล่าสุดมีข่าวออกมาในทำนองหลอกลงทุนคริปโตมูลค่าความเสียหาย 2 พันล้าน ล้วนทำให้คนอย่างอีฉันละเหี่ยใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะนับวันจะมีปัญหามากขึ้น แถมผู้คุมกฎอย่าง ก.ล.ต. ก็ตามเรื่องดังกล่าวไม่ทันเสียด้วยน่ะซี

โดยเฉพาะกรณีของ “ซิปเม็กซ์” ที่โยกเงินลูกค้าไปลงทุนต่างประเทศ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทำให้วงการคริปโตไทยสั่นสะเทือนอย่างหนัก เพราะเมื่อดูจากกลุ่มคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องก็เป็นบิ๊กเนมทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นขรัวเฒ่าที่เก่งเรื่องกฎหมาย รวมทั้งอดีตคนใหญ่คนโตที่มาจาก ตลท. ล้วนเป็นประเด็นที่ทำให้ผู้คนในตลาดเงินตลาดทุนจับจ้องมองไปที่ “เจ๊แป๋ว” กล้าแตะเผือกร้อนชิ้นนี้ขนาดไหนเจ้าค่ะ

สาเหตุที่ทำให้ผู้คนในตลาดเงินตลาดทุนให้ความสนใจ ก.ล.ต. มากเป็นพิเศษ เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาดันปล่อยให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ประกาศกร้าวลุยตรวจสอบบริษัทจดทะเบียนที่ทำเหมืองขุดคริปโต พร้อมกับออกข่าวเจื้อยแจ้วในลักษณะ 10 บจ. เข้าไปพัวพันกับการปั่นหุ้น และพยายามสร้าง “เหมืองทิพย์” เพื่อหลอกให้แมงเม่าเข้ามาลุยหุ้นของตัวเองน่ะซี

ประเด็นนี้แหละที่ทำให้ “โมนิก้า” งงเป็นไก่ตาแตก เพราะหน้าที่เรียกข้อมูลจากบริษัทจดทะเบียน และให้ชี้แจงต้องเป็นหน้าที่ของ ตลท. ขณะที่สำนักงาน ก.ล.ต. เป็นผู้ดูเรื่องกฎระเบียบของบริษัทจดทะเบียน และเป็นคนสั่งฟันบริษัทจดทะเบียนเมื่อทำผิด เดี๊ยนถึงรู้สึกแปลกใจที่ “พล.ต.ต.พุฒิเดช” เข้ามายุ่มย่ามกับตลาดหุ้นได้อย่างไร? เพราะโดยหน้าที่ก็ไม่ใช่ และโดยบทบาทก็ไม่ใช่นะนายจ๋า

งานนี้จึงเป็นหน้าที่ของ “เจ๊แป๋ว” ที่ต้องออกโรงตอกหน้าตำรวจคนดังกล่าว เพราะเมื่อดูจากสิ่งที่พยายามตั้งข้อหากับบริษัทจดทะเบียนมันผิดเพี้ยนไปหมด และถ้ามองกันจริง ๆ ก็จะเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยมีกฎหมายมหาชนคอยกำกับอยู่แล้ว จู่ ๆ วันนี้มีหน่วยงานข้างนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาแสดงบทบาทเหนือ ก.ล.ต. กับ ตลท. จึงทำให้ผู้คนในตลาดหุ้นเม้าท์แตกกันสนั่นหวั่นไหวว่า วันนี้ต้องฟังใครพะยะค่ะ

ถ้าว่ากันตามแนวทางปฏิบัติในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ “โมนิก้า” รู้จักมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 30 ปี ขั้นตอนแรกต้องเริ่มจาก ตลท. ต้องเรียกให้บริษัทจดทะเบียนออกมาชี้แจงปมที่น่าสงสัย ต่อจากนั้นถึงจะส่งเรื่องให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นคนพิจารณาความผิดในมูลฐานต่าง ๆ ถัดจากนั้นถึงจะเป็นคิวของหน่วยงานข้างนอกมารับไม้ต่ออีกทีหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ดีเอสไอ อัยการ และเข้าสู่กระบวนการของศาลไม่ใช่เหรอคะ

ที่สำคัญคือ การที่ 10 บจ.ประกาศลงทุนคริปโต และเหมืองคริปโต ในช่วงที่สินทรัพย์ดังกล่าวเฟื่องฟู ก็น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ถือหุ้น เพราะเป็นการต่อยอดธุรกิจอีกขาหนึ่ง ในขณะเดียวกันหากไหวตัวทัน และประกาศไม่ลงทุนในช่วงที่คริปโตกำลังตกต่ำ ก็เป็นเรื่องดีสำหรับผู้ถือหุ้นไม่ใช่เหรอ? ประเด็นวันนี้จึงอยู่แค่เรื่องสร้างข่าวปั่นหุ้นจริงไหม? และตรงนี้ก็เป็นความรับผิดชอบของ ก.ล.ต. โดยตรงไม่ใช่เหรอ..หรือว่า “โมนิก้า” เข้าใจอะไรผิด ก็กริ๊งกร๊างมาด่าได้เลย เพราะยินดีรับฟังเสียงของทุกคน..รักนะ จุ๊บ จุ๊บ!

ตบท้ายกันที่การพุ่งขึ้นของดัชนีมาปิดที่ 1,643.52 จุด บวกไป 11.97 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.26 หมื่นล้านบาท ก็เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญว่า วันนี้จะทะลุ 1,650 ไหม? หากไม่ผ่านก็คงหมดรอบเหมือนที่เม้าท์ให้ฟังเมื่อวันก่อนเจ้าค่ะ

Back to top button