JASIF ฝุ่นตลบ

ราคาหน่วยลงทุนของ JASIF ลงมาค่อนข้างหนัก 2 วันติดต่อกัน เดิมนั้นมีการวิเคราะห์กันว่า ราคาไม่น่าจะหลุด 8.50 บาท


ราคาหน่วยลงทุนของ JASIF ลงมาค่อนข้างหนัก 2 วันติดต่อกัน

เดิมนั้นมีการวิเคราะห์กันว่า ราคาไม่น่าจะหลุด 8.50 บาท เพราะเป็นราคาที่ทาง ADVANC จะซื้อจาก JAS

ทว่า สำหรับในตลาดหุ้น ทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้

วันอังคารที่ 6 ก.ย. หลังนักลงทุนทราบข้อมูลจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระหรือ IFA ของ JAS ที่เขียนเหมือนจะเห็นด้วยต่อดีลที่จะเกิดขึ้น แต่สุดท้ายหรือในช่วงของการสรุป

IFA กลับไม่เห็นด้วยซะอย่างนั้น

หลายคนอ่านข้อมูลของ IFA จึงได้ “งง” ไปตามกัน

ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยข้อมูลน่าสนใจ

นั่นคือ จากการเซอร์เวย์หรือสำรวจนักลงทุนที่ถือหน่วยลงทุนใน JASIF

มีการพบว่า หากเป็นกลุ่มนักลงทุนสถาบัน (กองทุน บริษัทประกัน) พบว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของนักลงทุนกลุ่มนี้ (ส่วนใหญ่เป็นกองทุน) ไม่เห็นด้วยที่จะผ่านวาระ 1.3 ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่าของ TTTBB ต่อ JASIF

ส่วนกลุ่มประกันนั้นเห็นด้วย เพราะมองว่าผลตอบแทนที่ระดับ 7% บวก/ลบ ถือว่ายังพอรับได้

ส่วนกลุ่มนักลงทุนรายย่อย

มีประมาณ 80-90% ไม่เห็นด้วยกับวาระ 1.3 เช่นกัน

จนเกิดการคาดหมายว่า การประชุมสมัยวิสามัญของถือหน่วยลงทุน JASIF อาจจะไม่อนุมัติวาระดังกล่าว

เพราะอย่าลืมว่า สัดส่วนที่ JAS ถืออยู่ 19% จะไม่มีสิทธิออกเสียง

ดังนั้น จึงเหลือเสียงจากนักลงทุนสถาบัน และรายย่อย

โดยเสียงที่จะอนุมัติหรือไม่อนุมัตินั้น จะต้องได้รับการโหวตถึง 3 ใน 4 ของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มาเข้าประชุมสมัยวิสามัญฯ ในวันนั้น (23 ก.ย. 65, เช้าประชุม JAS / บ่ายประชุม JASIF)

ข้อมูลล่าสุด พบว่า สัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยที่ถือ JASIF มีเกินกว่า 50% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนฯ

การแสดงความเห็นของ IFA

ทำให้กลุ่มนักลงทุนที่คาดหวังกับดีลว่า ADVANC จะเข้ามาถือหุ้นนั้น หวั่นว่า “ดีลไม่ดัน” หรือ “ล้ม”

จึงน่าจะเป็นกลุ่มที่ขายหน่วยลงทุนออกมาในช่วง 2 วันที่ราคา JASIF วูบหนัก

เป็นไปได้ว่า นักลงทุนกลุ่มนี้มองว่าหาก ADVANC เข้ามา จะเข้ามาช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับ JASIF ได้ และมีโอกาสรับปันผลในระยะยาวขึ้น จากกรณีที่จะต่อสัญญาเช่าออกไปอีก 6 ปี

การขายหน่วยลงทุนออกมาครั้งนี้

ค่อนข้างจะสวนทางกับความเห็นนักวิเคราะห์ที่ต่างบอกว่า หากดีลไม่เกิดขึ้น

ผู้ถือหน่วยจะมีโอกาสรับผลตอบแทนได้มากกว่าหากดีลล้ม พร้อมกับให้ราคาเป้าหมายของ JASIF สูงขึ้น (กรณีดีลล้ม)

เพราะหากดีลยังเดินหน้าต่อหรือ ADVANC ซื้อได้สำเร็จ

ผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับนั้นจะลดลง

มาถึงตอนนี้จึงน่าจะเป็นการสู้กันระหว่างกลุ่มเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ยังไม่รวมถึง ADVANC ที่ลึก ๆ แล้วน่าจะต้องการได้ TTTBB เพื่อต่อยอดธุรกิจตนเอง

แต่การเดินเกมของพวก ADVANC คงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลหรือแผนธุรกิจได้มากนัก เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองทางธุรกิจ เพื่อให้ได้ของดีแต่ก็ต้องราคาที่ถูกสุด เช่น แผนการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯ รวมถึงการเข้าใช้ Capacity ใน JASIF

ล่าสุด หรือในขณะนี้

กลุ่ม ADVANC อยู่ระหว่างเดินสายพบนักลงทุนของแต่ละโบรกเกอร์

นัยสำคัญเพื่อให้ข้อมูลถึงการเข้ามาของ ADVANC และจะช่วยทำให้ JASIF ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง

มีการให้ข้อมูลว่า หากผู้ถือหน่วยลงทุนไม่อนุมัติ อาจจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของสัญญาเช่าของ TTTBB ที่มีต่อ JASIF โดยเฉพาะเมื่อหมดสัญญาเช่าแต่ละช่วง

แต่หาก ADVANC เข้ามา

ความเสี่ยงเหล่านี้จะลดลง แต่ก็ต้องแลกกับผลตอบแทนที่อาจจะปรับลงมาบ้าง

นักวิเคราะห์ประเมินล่าสุด หาก ADVANC วิเคราะห์สถานการณ์แล้ว และดูทิศทางลมต่าง ๆ หากผู้ถือหน่วยส่วนใหญ่ไม่อนุมัติวาระ 1.3

มีความเป็นไปได้ที่ ADVANC อาจจะยอมถอยบ้าง เกี่ยวกับการขอลดค่าเช่า เช่น จากขอลด 30% อาจจะลดลงมาเหลือ 15% เพื่อสร้างผลตอบแทนของผู้ถือหน่วยที่สูงขึ้น

และแลกกับการให้ผู้ถือหน่วยกลับมาโหวตอนุมัติ

Back to top button