
KTC ฝุ่นยังตลบ
“บัตรกรุงไทย” หรือ เคทีซี (KTC) วานนี้มูลค่าการซื้อขายมากเป็นอันดับ 1 อีกครั้งกว่า 3,105 ล้านบาท ประเด็นที่น่าสนใจนอกเหนือจากมูลค่าการซื้อขาย คือ “ราคาหุ้น”
“บัตรกรุงไทย” หรือ เคทีซี (KTC) วานนี้มูลค่าการซื้อขายมากเป็นอันดับ 1 อีกครั้งกว่า 3,105 ล้านบาท
ประเด็นที่น่าสนใจนอกเหนือจากมูลค่าการซื้อขาย คือ “ราคาหุ้น” ได้ดีดกลับขึ้นมายืนเหนือ 25.00 บาท หลังจาก 2 วันก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นขึ้นมาแตะ 24.80 บาท แล้วไม่ผ่าน
หากนักลงทุนที่ติดตามราคาหุ้นเคทีซีมาตลอด
และพอจะมองเกี่ยวกับสัญญาณทางเทคนิค รวมถึง “สัญชาตญาณ” การลงทุน
น่าจะพอคาดการณ์ได้เลยว่า ราคาที่ขึ้นมาแตะ 24.80 บาท แล้วไม่ผ่านนั้น เดี๋ยวราคาก็วิ่งขึ้นมาอีก และจะผ่านไปถึง 25.00 บาท ได้แน่นอน
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
อย่างที่เรารับทราบกันว่า ราคาหุ้นเคทีซีที่ปรับลงมาเกิดไม่ได้มาจากปัญหา Fundamental หรือพื้นฐาน
และไม่ได้มาจากการปรับพอร์ตของผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย
ทว่ามาจากผู้ถือหุ้นใหญ่ถูกบังคับขายหรือ “ฟอร์ซเซล” นั่นแหละ หลังจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่ได้วางปลักประกันเพิ่มเติม หลังราคาหุ้นเคทีซีปรับลงมาจนต้องวางหลักประกันเพิ่มตามเงื่อนไข
คำถามคิดว่า แล้วแรงขายที่เกิดขึ้นจากถูกฟอร์ซเซล สะเด็ดน้ำ หรือมีการขายแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกันหรือยัง
คำตอบคือ “ไม่ทราบ”
เพราะเรื่องแบบนี้เขาไม่ประกาศออกมากัน
จะมีคนรู้เพียงรายได้และโบรกเกอร์ที่ให้มาร์จิ้นเท่านั้น
ดังนั้น นี่คือสิ่งที่ต้องระวัง เพราะหากราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาอีก แล้วยังมีหุ้นที่ต้องถูกฟอร์ซเซลอีก หรืออาจจะออกมาในรูปแบบบิ๊กล็อตที่ต่ำกว่าราคากระดาน
นั่นจะทำให้ราคาหุ้นเคทีซี ยังเผชิญกับความผันผวนต่อไป
อย่างวันก่อนหน้านี้ (2 ก.ค.) เคทีซีมีบิ๊กล็อตอีก 243.6 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 5.6 พันล้านบาท และมีราคาเฉลี่ย 23.00 บาท ทำให้ราคาหุ้นถูกดึงลงมาอีกครั้ง
บิ๊กล็อตส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นนั้นจะมีราคาเฉลี่ยบริเวณ 23.00 บาท
อย่างน้อย น่าจะพอเป็นแนวทางการมองราคาหุ้นเคทีซีที่เป็น “แนวรับ” ได้ว่า ราคาไม่น่าจะหลุดไปจากนี้
ทำให้คาดการณ์ว่า นับจากนี้ ราคาหุ้นเคทีซีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบราคา 23.00-27.00 บาท
หากราคาขึ้นมาระดับ 26.00-27.00 บาท จึงไม่ควรตาม แม้ว่าจะมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่เป็น Consensus (ประมาณ 41.50 บาท) อยู่พอสมควร
เพราะกลุ่มนักลงทุนที่ได้ต้นทุนเคทีซีบริเวณ 23.00 บาท ไม่ได้มีเฉพาะนักลงทุนสถาบันเท่านั้น
แต่น่าจะมีนักลงทุนอื่น ๆ อีก ที่เข้าไปเก็บหุ้นในช่วงนั้น ได้ ต่างก็รอจังวะมาขายกันที่บริเวณแนวต้าน 26.50-27.00 บาท
ส่วนวานนี้ที่ราคาปิด 25.50 บาท แม้จะผ่านแนวต้านจิตวิทยา 25.00 บาท ขึ้นมาได้
ก็ไม่ได้หมายความเช่นกันว่า จะไม่กลับลงไปหลุดต่ำกว่า 25.00 บาท ได้อีก
ใครที่เล่นสั้น จึงต้องดู “รอบ” ของราคา และระวังกันไว้พอสมควร
แต่หากเข้าไปแล้ว เกิดติดขึ้นมา ทางออกมาอยู่ 2 ทางคือ ตัดขาดทุน กับพลิกเป็นนักลงทุนซื้อถือยาวไปเลย เพราะเคทีซี เองเป็นหุ้นพื้นฐานดี แนวโน้มกำไรสุทธิปีนี้ยังทำนิวไฮได้ และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันสูงกว่า 5%
ซึ่งเงินปันผลนี่แหละน่าจะเป็น “เบาะ” รองรับแรงกระแทกได้
ส่วนนักลงทุนระยะยาวเห็นนักวิเคราะห์ที่ Cover หุ้นเคทีซีไว้ ต่างแนะนำว่า ทยอยเข้าสะสมได้ จากเงินปันผลสูงน่าจูงใจ ซึ่งก็ต้องลองตัดสินใจกันดู
หรือจะรอให้ฝุ่นหายตลบก่อนก็ได้
ธนะชัย ณ นคร