ของมันต้องมี!

ในห้วงเวลาเข้าสู่การออกจากโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยในแต่ละปี “โมนิก้า” มักชอบเม้าท์ถึงหุ้นตัวท็อปเพื่อชี้ให้เห็นธุรกิจมีอะไรเด่น?


ในห้วงเวลาเข้าสู่การออกจากโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยในแต่ละปี “โมนิก้า” มักชอบเม้าท์ถึงหุ้นตัวท็อปเพื่อชี้ให้เห็นธุรกิจมีอะไรเด่น? และเป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ขนาดไหน? จึงขอเจาะลึกลงในรายละเอียดดังกล่าวมากสักหน่อย เพราะบรรยากาศของตลาดหุ้นไทย ณ เวลานี้ เอื้อให้หุ้นวิ่งต่อเนื่อง หลังผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ไม่ได้แย่เหมือนที่มีความกังวลก่อนหน้านี้ไงละคะ

ถึงกระนั้นก็ต้องระวังแรงขายที่มักออกมาในจังหวะที่เทกตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,620 จุด เพราะเป็นจุดที่นักเล่นทุกกลุ่มเลือกที่จะปรับพอร์ตลดความเสี่ยง เนื่องจากเป็นห้วงเวลาของ sell on fact แบบเต็มตัว ซึ่งไม่ได้สนใจว่างบจะออกมาดีหรือไม่ดี จึงต้องเตรียมพร้อมกับการเขย่าหุ้นเป็นลำดับแรก ต่อจากนั้นค่อยวาดฝันการทะยานทะลุแนวต้านดังกล่าว ก่อนจะขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,630 จุด นะจะบอกให้

ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดระดับ 1,608.76 จุด บวกไป 2.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.59 หมื่นล้านบาท โดยช่วงเช้าทะยานขึ้นไปถึง 1,619.08 จุด ก็เป็นการส่งสัญญาณเตือนเบา ๆ ที่บอกให้นักเล่นรู้ว่า มีแรงขายดักอยู่จริง ๆ และเมื่อเหลือบดูวอลุ่มตอนที่ดันดัชนีขึ้นไปแรง ๆ ก็ไม่ซัพพอร์ตเท่าที่ควร “โมนิก้า” ถึงมองว่า ดัชนีอาจมีการย่อตัวลงเล็กน้อย ต่อจากนั้นจะพุ่งกระฉูดขึ้นไปอย่างสวยงาม พร้อมกับมีข่าวดีเรื่องงบไตรมาส 4 คอยหนุนหลังพะย่ะค่ะ

เหมือนกับการทะยานขึ้นของแบงก์สีเขียว KBANK ก็มีเรื่องของสถานการณ์ธุรกิจที่เริ่มดีขึ้น และยังมีเรื่องขายหุ้น บลจ. เป็นแรงหนุน “โมนิก้า” ถึงมองการขึ้นมาปิดที่ระดับ 146 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.58 พันล้านบาท น่าจะเป็นสเต็ปการขึ้นที่ต่างจากเที่ยวก่อน ๆ เพราะเที่ยวนี้ทุกอย่างพร้อมสรรพ แถมฝรั่งก็กลับมาลุยเต็มตัวอีกรอบ จึงมีลุ้นเห็นยอดเดิมที่บริเวณ 159 บาทนะนายจ๋า!

*คล้ายสถานการณ์ของหุ้นสุดเลิฟอย่าง EA ก็มีเรื่องผลงานเติบโตต่อเนื่องเป็นแบ็กอัพสำคัญ “โมนิก้า” จึงไม่เคยกังวลกับแรงขายทำกำไรที่ออกมาเป็นระลอก เพราะสุดท้ายหุ้นจะวิ่งขึ้นไปหาแวลูที่ควรจะเป็นอัตโนมัติ ผสานกับมีเรื่องหุ้นกู้แปลงสภาพที่ตีมูลค่าแล้วอยู่แถว 120 บาทเป็นกำลังเสริม เดี๊ยนจึงไม่แปลกใจที่ 3 เดือนที่ผ่านมาหุ้นขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป (ตั้งต้นที่ 80 บาท) เลยมองการยืนปิดที่ระดับ 96.50 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.51 พันล้านบาท ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดจ้า!

ส่วนรายที่เริ่มเปล่งแสงมากขึ้นเรื่อย ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น JWD เพราะเมื่อดูจากการเข้ามาของปูนใหญ่ มันทำให้ภาพสมัยที่เข้ามาจอยกับ “โกลบอลเฮ้าส์” ลอยขึ้นมาทันที ซึ่งวันนี้อาจยังไม่เห็นอะไรที่บิ๊กเบิ้มมากนัก แต่ถ้ามองในระยะยาวบอกได้ทันทีว่า มันใหญ่มาก! เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 19.50 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 726 ล้านบาท คือบันไดก้าวแรกของการกินรวบงานขนส่งของ “เอสซีจี กรุ๊ป” เจ้าค่ะ

เมื่อเม้าท์ถึงเรื่องความยิ่งใหญ่อลังการขึ้นมาทั้งที ย่อมมีชื่อของเจ้าพ่อที่ดินใจกลางเมืองอย่างหุ้น AWC รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน เพราะเป็นไทม์ไลน์ที่เอื้อให้ตะลุยสุดซอย โดยเฉพาะประเด็นผู้คนออกมาท่องเที่ยว และพักผ่อนมากขึ้นต่อเนื่อง กลายเป็นตัวผลักดันให้ราคาหุ้นเดินหน้าขึ้นอีกครั้ง และการที่หุ้นยืนปิด 6.10 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 471 ล้านบาท โดยที่ปลาย มิ.ย. ยืนในระดับ 5 บาท มันคือสิ่งบอกให้รู้ว่า มีโอกาสไปต่อนะจ๊ะ

สำหรับรายที่ “แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่” และพร้อมจะเดินหน้าทำ all time high แบบไม่เหน็ดเหนื่อย “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปที่หุ้นเทคตัวเทพ BBIK ที่ผลงานสุดบรรเจิด และพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 128 บาท บวกไป 9.50 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 160 ล้านบาท ก็ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะเที่ยวนี้หนีบเอากำไรสวย ๆ มาโชว์ให้เห็นเต็มตา เดี๊ยนเลยเม้าท์ได้แค่ว่า หุ้นตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่กล้าเล่นกับอนาคตเพียว ๆ ค่ะ

เรื่องข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น BE8 ตามหลังมาติด ๆ เพราะสิ่งที่รับรู้กันอย่างแพร่หลายคือ ไตรมาส 4 เตรียมบันทึกรายได้จาก “เอ็กซ์เท็น” ในขณะที่ไตรมาส 1 ปีหน้าก็จะรับรู้รายได้จาก “เบย์คอม” และเมื่อนำทั้ง 2 ประเด็นมารวมกันก็จะเห็นว่า กำไรปีนี้ก็โต..กำไรปีหน้าก็โต ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 62.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 141 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นอีกบานตะไทนะออเจ้า!

Back to top button