KBANK ที่ราคา ‘เหยื่อของสถานการณ์’

ถึงแม้ผู้บริหารของธนาคารที่ทำกำไรมากสุดอันดับหนึ่งอย่าง KBANK จะยังคงมีท่าทีระมัดระวังจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในภาพรวมกล่าวซ้ำซากว่า


ถึงแม้ผู้บริหารของธนาคารที่ทำกำไรมากสุดอันดับหนึ่งอย่าง KBANK จะยังคงมีท่าทีระมัดระวังจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในภาพรวมกล่าวซ้ำซากว่า

ธนาคารและบริษัทย่อยจะยังคงประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตของสินเชื่อใหม่ตามยุทธศาสตร์ของธนาคาร รวมทั้งความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ แต่ข้อเท็จจริงที่ไตรมาสสามของปีนี้ งบการเงินของธนาคารแห่งนี้ กลับสะท้อนถึงประโยชน์ของขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยช่วงเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสู่ระดับใหม่ หรือช่วงกอบโกยทางกำไรที่เป็นขาขึ้น

กำไรเฉพาะในช่วงไตรมาสสามที่เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าถึง 23%

นอกจากย้ำให้เห็นถึงโอกาสของการฟื้นตัวจากภาวะถดถอยของยุคโควิด-19 แล้วยังสะท้อนถึงโอกาสที่ฉกฉวยเข้ามาอย่างง่าย ๆ ก่อนหน้านี้ช่วงไตรมาสสองหรืองวดครึ่งแรกของปีนี้ KBANK มีกำไรเพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน และลดลงจากช่วงต้นปีนี้เล็กน้อย ดีเกินคาดและยังกำไรมาเป็นที่หนึ่งต่ออีกไตรมาสชนิดปิดไม่อยู่

หุ้นกำไรไตรมาสสามที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องทำให้บุ๊กแวลูของธนาคารเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ราคาหุ้นที่ซื้อขายบนกระดานที่นักวิเคราะห์ให้เป็น “ท็อปพิก” ยังคงมีราคาต่ำเตี้ยต่อไปเพราะบรรดานักลงทุนยังเกรงไปว่าผลจากต่างชาติขายหุ้นทิ้งจนบาทอ่อนยวบน่าจะส่งผลให้ราคาหุ้นบลูชิพทั้งหลายยังคงต่ำเตี้ยไปอีกยาวนาน แม้ผลประกอบการจะยังสะท้อนภาพของการฟื้นตัวของธุรกิจที่รายได้จากส่วนต่างของดอกเบี้ยกำลังเป็นขาขึ้น โดยผลประกอบการไตรมาสสองตอกย้ำกำไรเพิ่มชัดเจนอย่างโดดเด่น

กรณีที่่ภาคการผลิตยังมีทิศทางอ่อนแอ เพราะต้องรับมือกับต้นทุนวัตถุดิบ และพลังงานรวมถึงปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน แล้วยังคงมีแรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อแต่ต้องติดตามแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น แต่ KBANK ยังมีกำไรงดงามในงวดครึ่งปีแรก 22,005 ล้านบาท หรือ 12.72%

แนวโน้มครึ่งหลังของปีทางผู้บริหารมั่นใจว่าจะมีกำไรสุทธิมากกว่าครึ่งแรกของปีจากดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นหลัก แล้วส่งเสริมด้วยมาตรการเปิดประเทศหลังโควิดที่จะทำให้ภาคท่องเที่ยวมีเงินสะพัดมากขึ้น และภาคการผลิตที่จะฟื้นตัวขึ้นมาจากธุรกิจรถยนต์และการลงทุนใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ตลาดเงินมีความคึกคักขึ้น

เมื่อสิ้นไตรมาสสอง ผมเคยเขียนไว้ว่า “ผลของกำไรสุทธิที่โดดเด่นทำให้มูลค่าตามบุ๊กแวลูของ KBANK เพิ่มขึ้นเป็น 206.50 บาท เทียบกับราคาล่าสุดที่ระดับใต้ 150 บาท แล้วต่ำกว่าบุ๊กถึง 30% ……” ณ เวลานี้ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมเลย

Back to top button