ASEFA เหล็กทับกำไร.!

ดูไม่จืดเอาซะเลย.!! เมื่อ ASEFA ประกาศงบ Q3/65 ออกมากำไรสุทธิวูบเหลือแค่ 10 ลบ. ลดลง 74.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42 ลบ.


ดูไม่จืดเอาซะเลย.!! เมื่อบริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ประกาศงบไตรมาส 3/2565 ออกมากำไรสุทธิวูบเหลือแค่ 10 ล้านบาท ลดลง 74.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท…

ทั้ง ๆ ที่รายได้จากการขายและบริการยังเติบโตดีอยู่ที่ 853 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 734 ล้านบาท…

อ้าว…แล้ว ASEFA ไปพลาดท่าตรงไหนกันละเนี่ย ถึงทำกำไรหล่นหายไปมากขนาดนี้..?

ถ้าไปส่องดูไส้ในของงบการเงิน จะเห็นว่าตัวการสำคัญมาจากขาของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ไล่มาตั้งแต่ต้นทุนสินค้าที่ขายและบริการเพิ่มขึ้น 20.87% มาอยู่ที่ 731 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มงานเหมาวิศวกรรมระบบบางโครงการ ที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากราคาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ดังนั้น ถ้าดูจากธุรกิจหลักของ ASEFA ซึ่งทำธุรกิจผลิตและติดตั้งตู้สวิตซ์บอร์ดไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น รางและบันไดพาดสายไฟ เป็นต้น คงหนีไม่พ้นต้นทุนเหล็กที่เพิ่มขึ้น และยังคงทรงตัวในระดับสูงเฉลี่ยราว 900-1,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปรับเพิ่มขึ้นมากว่า 15% จากปลายปี 2564 ละมั้ง

ขณะที่ ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายและบริหารเพิ่มขึ้น 28.39% มาอยู่ที่ 109 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายและค่ารับรอง สำรองเผื่อลูกหนี้ สำรองค่าเผื่อเงินลงทุนระยะสั้น และสำรองค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ

ด้านต้นทุนการเงินก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.86 ล้านบาท จากในไตรมาส 3/2564 อยู่ที่ 0.28 ล้านบาท

ทำให้แม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนเพิ่มมากกว่า…ส่งผลให้กำไรขั้นต้นลดลง 5.15% เหลือแค่ 122 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 128 ล้านบาท

เลยเป็นที่มาที่ทำให้ตัวเลขบรรทัดสุดท้ายเหลือแค่ 10 ล้านบาท และส่งผลให้งบในงวด 9 เดือนแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท ลดลง 35.73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาท…

ดูไปแล้ว ASEFA ไม่ต่างจากถูกเหล็กทับกำไรเลยนะเนี่ย..!!

จึงไม่น่าแปลกใจเมื่อวันศุกร์ที่ 4 พ.ย. 2565 เห็นนักลงทุนพากันหนีตายจากหุ้น          ASEFA กันจ้าละหวั่น ส่งผลให้ราคาทรุดไป 5.13% ส่วนวานนี้ (7 พ.ย.) ปิดตลาดเสมอตัวที่ 3.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.84 ล้านบาท

ขณะที่ ถ้าดูจากชะตากรรมของ ASEFA แล้ว คงพออนุมานได้ว่า สถานการณ์หุ้นเหล็กตัวอื่น ๆ ก็คงไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะถูกทับ (กำไร) มากหรือน้อยแค่ไหน…

สิ่งที่น่าติดตาม…ต้องดูว่าไตรมาส 4/2565 สถานการณ์ของ ASEFA จะฟื้นหรือไม่..? หรือจะถูกเหล็กทับกำไรต่อไป..?? ก็ไม่รู้สินะ

เอาน่า..ถ้าไม่คิดอะไรมากอย่างน้อย ๆ ASEFA เป็นหุ้นปันผลสูงอยู่นา เงินปันผลเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7% ต่อปี ล่าสุดยีลด์ปาไป 5.95% แล้ว

ถ้ามีติดพอร์ตไว้ ก็คงไม่เสียหายกระมัง..!!???

…อิ อิ อิ…

Back to top button