AU ได้เวลาเทิร์นอะราวด์

วันเวลาต่ำสุดผ่านไปแล้ว งบไตรมาสสามดีกว่าไตรมาสองชัดเจน และไตรมาสที่สี่ก็จะดีขึ้นไปอีก สำหรับ AU เรียกว่าเป็นช่วงเทิร์นอะราวด์ทางธุรกิจ


วันเวลาต่ำสุดผ่านไปแล้ว งบไตรมาสสามดีกว่าไตรมาสองชัดเจน และไตรมาสที่สี่ก็จะดีขึ้นไปอีก สำหรับผู้บริหารบริษัท อาฟเตอร์ ยู จํากัด (มหาชน) หรือ AU เรียกว่าเป็นช่วงเทิร์นอะราวด์ทางธุรกิจ

ยอดขายกลับมาพร้อมกับความสามารถทำกำไรที่ดีกว่าเดิมทั้ง EBITDA และกำไรสุทธิ ที่ไม่ต้องพึ่งพารายได้และกำไรพิเศษอะไรเลย ทำให้มองไปถึงอนาคตที่สดใสข้ามปีหน้าได้เลยว่าจะต้องเป็นปีที่ยอดเยี่ยมกว่าปีนี้แน่นอน

สรุปผลการรายงานงบการเงินไตรมาสสามที่ดีขึ้นทุกด้าน แถมดีกว่าไตรมาสที่ผ่าน ๆ มา ที่มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 56% อัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 14% ถือว่ายังไม่กลับเข้าที่ดีนัก แต่น่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาสถัด ๆ ไป

ผลประกอบการสำคัญในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ที่มีรายได้จากการขาย 246 ล้านบาทและ 674 ล้านบาทในงวด 9 เดือนแรก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 114% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2564 และ 56% จากในงวด 9 เดือนแรกปี 2564 จากสาเหตุสำคัญคือการเติบโตของยอดขายร้านขนมหวานซึ่งมีสัดส่วนรายได้มากที่สุด อันเป็นผลมา จากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่เริ่มคลี่คลาย ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มกลับมารับประทานของหวานที่ร้านเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงจำนวนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติในอาเซียนที่เพิ่มสูงขึ้น

รายได้จากร้านสาขาส่งผลให้กําไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 3 และในงวด 9 เดือนแรกปรับตัวเพิ่มขึ้น 165% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2564 และ 76% จากในงวด 9 เดือนแรกปีก่อนที่สอดคล้องกับยอดขาย และการปรับราคาสินค้าขึ้นบางรายการตั้งแต่ช่วงต้นปี จนถึงปัจจุบัน

อัตรากําไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ที่ 64.6% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรก่อนหักภาษีและค่าใช้จ่ายของ AU หรือ EBITDA ก้าวกระโดดโดยเฉพาะจากสาเหตุหลักมาจากสัดส่วนยอดขายจากร้านขนมหวาน (Dine-in) เพิ่มขึ้นซึ่งมีอัตรากําไรขั้นต้นสูงกว่ากําไรจากการขาย สินค้าผ่านบริการส่งอาหาร (Delivery) และซื้อกลับบ้าน การปรับเพิ่มขึ้น 238% จาก ไตรมาสที่ 3 ปี 2564 และ 96% จากในงวด 9 เดือนแรกปี 2564 สอดคล้องกับกําไรขั้นต้นที่ปรับตัวสูงขึ้นล้วน ๆ ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะการเพิ่มขึ้น ของรายได้รวมในสัดส่วนที่มากกว่าการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายรวม อันเป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

ผลกําไรสุทธิ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 และ ในงวด 9 เดือนแรกปี 2565 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 362% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2564 และ 1,011% จากในงวด 9 เดือนแรกปี 2564 ตามลำดับ ขณะที่อัตรากําไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ที่ 13.7% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากอัตรากําไรสุทธิที่ติดลบ 11.2% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 และในงวด 9 เดือนแรกปี 2565 ที่ 12.0% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากอัตรากําไรสุทธิที่ติดลบ 2.1% จากในงวด 9 เดือนแรกปีก่อน คงทำให้ผู้ถือหุ้นยิ้มแป้นไปตาม ๆ กัน

การเพิ่มขึ้นของกำไรที่ก้าวกระโดด ยังทำให้ผู้บริหารสามารถใส่มุมมองในอนาคตถึงภาพรวมปีหน้าในทางสดใสมากขึ้นกว่าปีนี้อีก โดยเฉพาะผลดีจากมาตรการผ่อนคลายของโควิด -19 ที่เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะชาติอาเซียนอย่างเวียดนาม ลาว และะกัมพูชา

ที่สำคัญเกมรุกของ AU ในทุกช่องทางเช่นร้านสาขาที่มีรายได้จากแฟรนไชส์มากขึ้น ตามด้วยรายได้เพิ่มจากแบรนด์ใหม่ ๆ ที่สร้างขึ้นมา

ราคาหุ้นของ AU ที่วิ่งแถวใต้ 11.00 บาท ไม่น่าจะใช่ราคานี้อีกในอนาคต แต่จะไปได้ไกลแค่ไหน ต้องถามใจนักลงทุนเพราะยามนี้ค่าพี/อีก็ถือว่าสูงมากแล้ว

จะสูงกว่านี้ มันก็เกินจำเป็น

Back to top button