‘เสี่ยเจริญ’ โยกขยับ..สลับพอร์ต.!

ทำเอานักลงทุนตื่นตูมกันทั้งบาง จู่ ๆ เห็นบิ๊กล็อต AWC 4 รายการ จำนวน 1,080 ล้านหุ้น และตามมาด้วยบิ๊กล็อ BJC อีก 4 รายการ จำนวน 300 ล้านหุ้น


ทำเอานักลงทุนตื่นตูมกันทั้งบาง..!! จู่ ๆ เห็นบิ๊กล็อตบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC 4 รายการ จำนวน 1,080 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 6,676 ล้านบาท และตามมาด้วยบิ๊กล็อตบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC อีก 4 รายการ จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 10,350 ล้านบาท…

เอ๊ะ…เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นสองตัวนี้กันนะ…แล้วใครเป็นคนทำล่ะเนี่ย..??

สุดท้ายมาถึงบางอ้อ…เพราะคนที่ทำบิ๊กล็อตดังกล่าวไม่ใช่ตาสีตาสา แต่เป็น “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” และ “คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี” นั่นเอง…

โดยในส่วนของ AWC เป็นการทำธุรกรรมการขายในนามบริษัท ทีซีซี บริหารธุรกิจ จำกัด ซึ่งมี “เสี่ยเจริญ” และ “คุณหญิงวรรณา” ถือหุ้นใหญ่ โดยแบ่งเป็น “เสี่ยเจริญ” ขายบิ๊กล็อต เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ธ.ค. 2565 จำนวน 190 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 6.15 บาท มูลค่ารวม 1,168 ล้านบาท และขายเมื่อวันจันทร์ที่ 19 ธ.ค. 2565 จำนวน 350 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 6.20 บาท มูลค่ารวม 2,170 ล้านบาท

ด้าน “คุณหญิงวรรณา” ขายบิ๊กล็อตหุ้น AWC เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ธ.ค. 2565 จำนวน 190 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 6.15 บาท มูลค่ารวม 1,168 ล้านบาท และขายเมื่อวันจันทร์ที่ 19 ธ.ค. 2565 จำนวน 350 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 6.20 บาท มูลค่ารวม 2,170 ล้านบาท

โดยคนที่มารับไม้ต่อก็ไม่ใช่ไครที่ไหน..? เป็นบริษัท ทีซีซี รีเทล จำกัด ซึ่งอยู่ในกลุ่ม “เสี่ยเจริญ” นั่นแหละ

ขณะที่ AWC มีคำชี้แจงถึงบิ๊กล็อตดังกล่าวว่า “เป็นการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการลงทุนระยะยาว”…ก็ว่ากันไป

ส่วนกรณี BJC ก็เหมือนกัน เป็นการทำธุรกรรมการขายในนามบริษัท ทีซีซี บริหารธุรกิจ จำกัด โดยแบ่งเป็น “เสี่ยเจริญ” ขายบิ๊กล็อตเมื่อวันอังคารที่ 20 ธ.ค. 2565 จำนวน 75 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 35.00 บาท มูลค่ารวม 2,625 ล้านบาท และขายเมื่อวันพุธที่ 21 ธ.ค. 2565 จำนวน 75 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 34 บาท มูลค่ารวม 2,550 ล้านบาท

และ “คุณหญิงวรรณา” ขายบิ๊กล็อตหุ้น BJC เมื่อวันอังคารที่ 20 ธ.ค. 2565 จำนวน 75 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 35.00 บาท มูลค่ารวม 2,625 ล้านบาท และขายเมื่อวันพุธที่ 21 ธ.ค. 2565 จำนวน 75 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 34 บาท มูลค่ารวม 2,550 ล้านบาท

เมื่อลองดีดลูกคิดดูแล้ว เท่ากับว่า การขายบิ๊กล็อตหุ้น AWC และ BJC ของสามีภรรยาคู่นี้ จะได้เงินไปกว่า 17,026 ล้านบาทเลยทีเดียว แม้จะเข้ามาในนามบริษัท ทีซีซี บริหารธุรกิจ ก็ตามเถอะ..!?

โอเค…แม้เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับ “เสี่ยเจริญ” แต่การโยกขยับสลับพอร์ตครั้งนี้ ถูกมองได้ 2 กรณี…กรณีแรก มีความเป็นไปได้ว่า กลุ่มบริษัท “เสี่ยเจริญ” เตรียมการจะทำอะไรหรือเปล่า..? หรือไม่ก็มีการทำธุรกรรมบางอย่างเสร็จสิ้นไปแล้วหรือเปล่า..? อันนี้น่าคิด

แหม๊…มันชวนให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วนะ ที่ “เสี่ยเจริญ” ไปซื้อบริษัท โออิซิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI จาก “ตัน ภาสกรนที” มูลค่า 3,352 ล้านบาท ซึ่งตอนนั้นเข้าซื้อในนามบริษัท นครชื่น จำกัด…ผ่านไปสักพักก็ปรับพอร์ตใน OISHI จากถือในนามนิติบุคคล มาเป็นบุคคลธุรรมดาซะงั้น…

เข้าทำนองเรือล่มในหนองทองจะไปไหนเสีย..ไปตามระเบียบ (พัก)..??

กลับมาที่บิ๊กล็อตหุ้น AWC และ BJC ซึ่งระดับ “เสี่ยเจริญ” ก็คงไม่มาหากินกับส่วนต่างกำไรแค่นี้หรอกมั้ง..?

ดังนั้นถ้าเทียบเคียงการวางหมากธุรกิจหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา บิ๊กล็อตครั้งนี้ก็คงไม่ใช่แค่การโยกขยับสลับพอร์ตธรรมดาแหง ๆ…เชื่อหัวไอ้เรืองสิ

ส่วนจะเป็นอะไร…ยังไง..? หนูไม่รู้ จริงจริง

…อิ อิ อิ…

Back to top button