ช่วงสั้นให้ระวังตลาดหุ้นไทยปรับฐาน

InnovestX มองช่วงสั้นมีประเด็นที่น่าสนใจด้านการลงทุน 2 ประเด็น คือ (1) สัญญาณเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ชะลอลงชัดเจนขึ้น (2) เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก


InnovestX มองช่วงสั้นมีประเด็นที่น่าสนใจด้านการลงทุน 2 ประเด็น คือ (1) สัญญาณเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ชะลอลงชัดเจนขึ้น โดยล่าสุดการจ้างงานและค่าจ้างสหรัฐฯ ชะลอลงในเดือน ธ.ค. โดยการจ้างงานเพิ่มน้อยที่สุดในรอบ 2 ปี รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 4.6% ต่อปี ต่ำสุดนับตั้งแต่กลางปี​​ 2021 ด้านค่าจ้างรายสัปดาห์ขยายตัว 3.1% ลดลงจากจุดสูงสุด ณ เดือน ก.พ. ที่ 5.5%

ทั้งนี้ InnovestX มองว่าค่าจ้างที่ชะลอลงชัดเจนขึ้น ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ บ่งชี้ว่า แรงกดดันเงินเฟ้อจากค่าจ้างลดลง สอดคล้องกับองค์ประกอบเงินเฟ้อพื้นฐานภาคบริการที่ไม่ใช่ภาคที่อยู่อาศัย (Ex-housing core service) ทำให้ความเสี่ยง Wage-price spiral ลดลงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม InnovestX เชื่อว่า สมาชิก FOMC จะยังส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะชะลอลงมาสู่เป้าหมายที่ 2% อย่างชัดเจน

ประเด็นที่ 2 ได้แก่ เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก โดยบาทแข็งค่าสูงสุดในรอบ 9 เดือนมาอยู่ที่ 33.4 บาทต่อดอลลาร์ และเป็นระดับเดียวกับช่วงต้นปี 2022 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปิดประเทศของจีนทำให้หลายฝ่ายมองว่าไทยจะได้อานิสงส์ผ่านทางนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นมาก จึงมีเงินทุนไหลเข้าเพื่อเก็งกำไรค่าเงินบาท โดยมีเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรถึง 1.8 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ทั้งเดือนมีเงินไหลเข้าถึงกว่า 6.1 หมื่นล้านบาท โดย InnovestX มองว่า ในปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าเกินปัจจัยพื้นฐานไปมาก ทั้งที่วัดจาก NEER และจากแนวโน้มดุลบัญชีเดินสะพัดที่จะยังขาดดุลต่อเนื่องจากส่งออกที่หดตัว นอกจากนั้น หากความผันผวนทางการเงินโลกเพิ่มมากขึ้น จะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าและทำให้บาทอ่อนค่าลงได้ในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น บาทอาจยังแข็งค่าต่อเนื่องตามทิศทางดอลลาร์ที่อ่อนค่า

ส่วนภาพตลาดหุ้นไทย InnovestX มองว่า ช่วงสั้น SET เริ่มมี Upside จำกัดและให้ระวังการปรับฐาน เนื่องจากตลาดมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่กลาง ธ.ค. 65 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งทำให้หุ้นหลายตัวเข้าสู่ภาวะ Overbought และ Valuation ตึงตัว

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา ในหุ้นที่คาดผลประกอบการไตรมาส 4/65 เติบโตดี และยังมี Valuation น่าสนใจ เลือก KTB, BJC, CPALL, BCP, BDMS, BEM และ GFPT

ขณะที่ช่วงสั้นยังคงแนะนำให้ เพิ่มความระมัดระวัง หรือ หลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อน สำหรับหุ้นที่มีปัจจัยเสี่ยงกดดันผลประกอบการ อาทิ หุ้นเดินเรือซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง และ หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อในไตรมาส 4/65

Back to top button