ระวังตกขบวน

ในระยะสั้นประเด็นร้อน ๆ ที่จะทำให้ตลาดหุ้นสะเทือน และกดให้ดัชนีทิ้งตัวลงแรงอีกรอบนั้น “โมนิก้า” คิดว่า ไม่น่าจะมีประเด็นไหนที่อิมแพ็คอย่างที่หลายคนกังวล


ในระยะสั้นประเด็นร้อน ๆ ที่จะทำให้ตลาดหุ้นสะเทือน และกดให้ดัชนีทิ้งตัวลงแรงอีกรอบนั้น “โมนิก้า” คิดว่า ไม่น่าจะมีประเด็นไหนที่อิมแพ็คอย่างที่หลายคนกังวล เพราะเมื่อดูตามหน้าเสื่อที่เกิดขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยซึมซับรับข่าวร้ายไปเยอะแล้ว ผสานกับในจังหวะดังกล่าวมีปัจจัยบวกใหม่ ๆ เข้ามาเรียกความเชื่อมั่นพอดี จึงทำให้ตลาดหุ้นไทยพร้อมที่จะขึ้นแบบเต็มตัวอีกครั้งนะจ๊ะ

ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ฟันธงไว้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนว่า สัปดาห์นี้ดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือ 1,700 จุด เพราะเมื่อดูจากแนวโน้มผลการดำเนินไตรมาส 1 ปี 66 ของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในลู่ทางที่สดใส จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งแรงกดดันที่เกิดจากเฟดขึ้นดอกเบี้ยคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จึงน่าจะเป็นแรงหนุนที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยดี๊ด๊าเจ้าค่ะ

ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดในระดับ 1,670.34 จุด ลบไป 10.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.05 หมื่นล้านบาท จึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลสักเท่าไหร่? เพราะการที่ดัชนียังเด้งกลับทุกครั้งที่ลงมาแตะระดับ 1,670 จุด และยังประคองตัวเหนือแนวรับจิตวิทยาที่ระดับ 1,650 จุด ย่อมสร้างความมั่นใจให้กับตัวอีฉันเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะสะท้อนให้เห็นว่า มีคนเป็นจำนวนมากอยากได้หุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมาไงล่ะคะ

เหมือนกับในรายของตัวป่วนตลาดหุ้นอย่าง DELTA ก็มีประเด็นให้ถกเถียงกันมากเหลือเกินว่า การขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้นเกิดจากอะไร? จนสุดท้ายบรรดากองทุนก็ออกมาตอบอย่างเป็นทางการว่า ของมันต้องมี! ซึ่งส่งผลให้พวกสถาบันกระโจนเข้ามาเก็งกำไรอย่างเมามัน เดี๊ยนคงพูดได้แค่ว่า การปิดที่ 930 บาท ลบไป 40 บาท หรือลงไป 4.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.62 พันล้านบาท คงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวจ้า!

เช่นเดียวกับในรายของพานทองแท้ PTT ก็ยังอยู่ในทำเนียบหุ้นคุณค่าที่นักเล่นไม่อาจมองข้าม เพราะเมื่อดูจากความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น และหุ้นยังเทรดบน PE ต่ำ “โมนิก้า” ถึงมองหุ้นตัวนี้ยังควรค่าต่อการลงทุน และการที่หุ้นยืนปิดที่ระดับ 32.75 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.38 พันล้านบาท จึงน่าจะเป็นโอกาสสำหรับคนที่มองการณ์ไกลนะจะบอกให้

ส่วนรายที่มาเงียบ ๆ แต่ยังเป็นหุ้นที่มาเรื่อย ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น CENTEL อย่างรวดเร็ว เพราะเผลอแป๊บเดียว ก็เห็นหุ้นวิ่งขึ้นมายืนที่ระดับ 55.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 507 ล้านบาท แถมเมื่อย้อนกลับไปดูในช่วงต้นปี 65 หุ้นยืนอยู่ที่ 30 บาท ต่อจากนั้นมาดูอีกทีในช่วงกลางเดือน  พ.ย. อยู่ที่ระดับ 45 บาท ทำให้รู้ว่า หุ้นตัวนี้น่าสนใจสุด ๆ ไม่เชื่อลองถาม นวค. ดูซิคะ

คล้ายกับกรณีของหุ้นคอมเมิร์ซ RS ก็เป็นทีเด็ดที่ “โมนิก้า” เกริ่นไว้หลายครั้งก่อนหน้านี้ และประเด็นที่น่าสนใจก็เป็นเรื่องดัน CHASE เข้าตลาด ซึ่งจะทำให้บริษัทรับเงินเข้ากระเป๋าอื้อซ่า ผนวกกับมีเรื่องของ M&A เข้ามาเป็นแรงหนุนอีกช็อต เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 18.10 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 404 ล้านบาท เพราะหุ้นตัวนี้มีแวลูเพิ่มจริง ๆ..ไม่เช่นนั้น “เฮียฮ้อ” จะอารมณ์ดี๊ดีเหรอจ๊ะ

อีกรายที่ต้องเอ่ยถึงต้องมองไปที่หุ้น CH ซึ่งเป็นเจ้าพ่อผลไม้อบแห้งส่งนอก เพราะเป็นหุ้นอีกตัวที่อยู่ในข่ายตั้งเป้าทำ M&A ซึ่งจะทำให้บริษัทโตกระโดดอย่างมีนัยสำคัญ ผนวกกับเม็ดเงินในการจับจ่ายใช้สอยสะพัดขึ้นกว่าเดิม “โมนิก้า” จึงเข้าใจเหตุผลที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิด 4.58 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 7.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 289 ล้านบาท เพราะการขึ้นครั้งนี้มันไม่ธรรมดาจริง ๆ เจ้าค่ะ

เม้าท์ถึงเรื่องโตอย่างมีนัยสำคัญขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น JR ภายใต้การกุมบังเหียนของ “พี่ใหญ่” กันดีกว่า เพราะไตรมาส 1 จะเป็นช่วงที่กำไรฟื้นตัวอย่างจริงจัง ส่วนไตรมาส 2 จะเป็นช่วงของกำไรเติบโตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนไตรมาส 3 จะเป็นช่วงที่กำไรพีก ขณะที่รายได้และกำไรในปี 66 จะเป็นฐานใหม่สำหรับการเติบโตในปีถัดไป เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ 6.85 บาท น่าเล่นเหมือนที่บอกอะป่าว..เดี๋ยวจะหาว่า คนสวยไม่บอกนะคะ

Back to top button