หุ้นค้าปลีก & โรงพยาบาล

การท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมา การเติบโตของรายได้ภาคเกษตร และการเดินทางคมนาคมที่ดีขึ้นช่วยสนับสนุนการเติบโตช่วงไตรมาส 4/65


ช่วงระหว่างที่บริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ กำลังทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/65 และงบปี 2565 ออกมา..ล่าสุด “มอร์แกน สแตนลีย์” สถาบันการเงินชื่อดังของสหรัฐฯ มีการเปิดเผยรายงานวิจัยเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทย ที่ระบุว่า การท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมา, การเติบโตของรายได้ภาคเกษตร และการเดินทางคมนาคมที่ดีขึ้นช่วยสนับสนุนการเติบโตช่วงไตรมาส 4/65

อย่างไรก็ตามบริษัทผู้ประกอบการค้าปลีกเกี่ยวกับการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน น่าจะรายงานการเติบโตแบบชะลอตัวลง มุมมองความต้องการสำหรับปี 2566 เป็นไปในทางที่ดี ส่วนความเสี่ยงหลัก คือ ภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบไตรมาส 4/64 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับขึ้นมาที่ค่าเฉลี่ย 47.9 ช่วงไตรมาส 4/65 เมื่อเทียบกับ 43.6 ช่วงไตรมาส 3/65 ดัชนีรายได้ภาคเกษตรไตรมาส 4/65 ปรับขึ้น 16.5% เมื่อเทียบไตรมาส 4/64 ถูกขับเคลื่อนโดยการเพิ่มขึ้นของราคาข้าวและอ้อย รักษาระดับราคาไว้ได้ต่อเนื่องช่วงเดือน ธ.ค. 65 จำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ “ขาเข้า” เพิ่มขึ้น 28% จากเดือน พ.ย .65 มาที่ 2.2 ล้านคน คิดเป็น 57% ของระดับจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ธ.ค. 61 ค่าจ้างขั้นต่ำปรับเพิ่มขึ้น 5-7% ช่วงเดือน ต.ค. 65 เป็นครั้งแรกรอบ 2 ปี

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ไตรมาส 4/65 จะสูงกว่า 10% หลังการกลับมาของการเดินทางในประเทศและฐานที่ต่ำของธุรกิจกลุ่มอาหาร (ไตรมาส 4/64 ผสมผสานของไทยและเวียดนาม SSSG ลดลง 2%) คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของธุรกิจแฟชั่น ที่มีสัดส่วนมากขึ้น อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะสูงขึ้น เนื่องจากการเปิดร้านจำนวนมากขึ้น ทำให้คาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและภาษีเพิ่มสูงขึ้น

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ระดับกลางค่อนไปทางต่ำสำหรับร้าน 7-Eleven และ แต่ Makro เติบโตตัวเลขหลักเดียวค่อนไปทางสูง

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) จะไม่ขยับมากนักช่วงเดือน ต.ค.และพ.ย. แต่จะสูงขึ้นช่วงเดือน ธ.ค. ดังนั้นจึงส่งผลให้ SSSG ไตรมาส 4/65 ออกมาตัวเลขหลักเดียวค่อนไปทางต่ำ การเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาไตรมาส 4/65 จะเพิ่มรายได้รวมให้เติบโต 1-2% อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 0.1-0.2% จากไตรมาส 3/65 เนื่องจากราคาเหล็กลดลงช่วงไตรมาส 4/65 ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของ Mega Home และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะสูงขึ้นด้วย

บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) จะติดลบ เนื่องจากภัยน้ำท่วมหลายจังหวัดช่วงเดือน ต.ค. 65 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4/65 การฟื้นตัวของคนไข้ระหว่างประเทศและความต้องการที่ต่อเนื่องจากคนไข้ จะขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้สำหรับผู้ประกอบการโรงพยาบาลช่วงไตรมาส 4/65

โดยบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS รายได้รวมเติบโต 11% จากไตรมาส 4/64 ขับเคลื่อนโดยความต้องการที่ต่อเนื่องจากคนไข้ชาวไทย ถึงแม้ว่าจากฐานที่สูงเมื่อปีก่อน ประกอบกับการฟื้นตัวมาที่ระดับก่อนการระบาดของโควิดในส่วนของธุรกิจคนไข้ระหว่างประเทศจะดีขึ้น ขณะที่สัดส่วนรายได้จากโควิดลดลงต่อเนื่อง และกรณีรักษาพยาบาลที่ซับซ้อนเพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH รายได้เติบโตแข็งแกร่งจากไตรมาส 4/64 สะท้อนถึงฐานที่ต่ำของธุรกิจคนไข้จากต่างประเทศ ที่ฟื้นตัวช่วง 9 เดือนปี 65 เติบโตมากกว่า 100% จากช่วง 9 เดือนปี 64 และต่อเนื่องช่วงไตรมาส 4/65 รายได้จากคนไข้ชาวไทย จะลดลง 7-8% จากไตรมาส 4/64 เนื่องจากฐานรายได้สูงมากกว่าที่เคยทำได้ช่วงปีก่อน

แหละนี่คือ..การประเมินจาก “มอร์แกน สแตนลีย์” ที่สะท้อนมุมมองจากโบรกเกอร์ต่างประเทศ กับหุ้นกลุ่มค้าปลีกและโรงพยาบาล..ส่วนสุดท้ายตัวเลขไตรมาส 4/65 และปี 2565 จะเป็นไปตามนี้หรือไม่..เดี๋ยวได้รู้กัน..!!??

Back to top button