PTG นอนแบงก์..ออนปั๊ม.!?

เห็นเป้าหมายการขยายปั๊มน้ำมัน PT ของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ที่เป็นเชิงรุก โดยในปีนี้ตั้งเป้าแตะ 2,206 แห่ง


เห็นเป้าหมายการขยายปั๊มน้ำมัน PT ของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ที่เป็นเชิงรุก โดยในปีนี้ตั้งเป้าแตะ 2,206 แห่ง ขณะที่ภายใน 5 ปี หรือปี 2570 แตะที่ 2,406 แห่ง…ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ขยายเยอะไปป๊ะเนี่ย..? กะจะเปิดหนึ่งอำเภอ…หนึ่งปั๊ม PT เลยเหรอ..?

แหม๊…ชักอยากรู้วิธีคิดของ “เฮียพิทักษ์ รัชกิจประการ” แล้วสิ..?

แต่ถ้าให้เดา การเร่งปูพรมเปิดสาขาเชิงรุกอย่างนี้ คงคาดหวังในเรื่องของอีโคโนมีออฟสเกล หรือการประหยัดต่อขนาดแหง ๆ…ซึ่งการที่ PTG มีทั้งปั๊มและรถขนส่งอยู่แล้ว สิ่งที่จะทำต่อ ก็เอานอนแบงก์มาใส่ในปั๊ม หรือนอนแบงก์..ออนปั๊ม PT นั่นแหละ…

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่เห็นบางสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีร้านกาแฟพันธุ์ไทย บางสาขามีร้านคอฟฟี่เวิลด์ ร้านสะดวกซื้อ Max Mart และศูนย์ซ่อมแซม Autobacs ส่วนสาขาที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว ก็มีร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร หรือมีร้านแก๊ส LPG ในสาขาที่อยู่ใกล้แหล่มชุมชน เป็นต้น

เกิดเป็นระบบนิเวศภายในปั๊ม PT..!!

ล่าสุดก็เติมเต็มระบบนิเวศด้วยการไปจับไม้จับมือกับบริษัทไฟแนนซ์นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ รายหนึ่ง เพื่อรุกสู่ธุรกิจปล่อยสินเชื่อผ่านปั๊มน้ำมัน PT ทั่วประเทศ คาดจะเริ่มปล่อยกู้ได้ภายในครึ่งปีหลัง…

แม้ดีเทลยังมีไม่มากนัก แต่ก็น่าสนใจ ด้วย PTG มีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มระดับกลาง-ล่าง ไม่ว่าจะเป็นรถทั่วไป รถบรรทุก และรถเพื่อการเกษตร ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ส่วนใหญ่มักมีปัญหาเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงิน ทำให้ต้องหันไปพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ..ทำให้ตลาดนี้ยังมีแก๊ปอีกมาก

ขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มร้านอาหาร ร้านค้า ที่เช่าพื้นที่อยู่ในปั๊ม รวมทั้งแฟรนไชส์ปั๊ม PT ที่ต้องการขยายปรับปรุงสาขา ซึ่งบางส่วนอาจกู้แบงก์ไม่ได้

PTG คงเล็งเห็นช่องว่างตรงนี้หรือเปล่า..? ก็เลยกระโดดลงมาเล่นในสนามนี้กะเค้าด้วย…

แล้วถ้าดูในเรื่องความพร้อมของเงินทุน คงไม่ใช่ปัญหา…กรณีที่เงินทุนเหลือ การเอาไปฝากแบงก์อาจไม่คุ้มค่า เพราะให้ผลตอบแทนต่ำ สู้นำไปปล่อยกู้สร้างมูลค่าเพิ่มไม่ดีกว่าเหรอ…หรือกรณีที่ PTG ไปกู้แบงก์มา ด้วยเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีเครดิตที่ดี ก็สามารถกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ พอนำไปปล่อยกู้ ก็มีแก๊ปให้เล่นอีกเยอะ…

ขณะที่การรุกปล่อยสินเชื่อครั้งนี้…แน่นอนเป็นการช่วยสร้างโอกาสให้กับคนที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงิน ขณะเดียวกันเป็นการแตกไลน์ธุรกิจเพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ หรือเป็นการหารำไพ่พิเศษ..!!

ที่สำคัญสินเชื่อประเภทนี้เป็นไฮยีลด์โลน ให้ผลตอบแทนสูง…น่าเสียดายที่ PTG ไม่ได้บอกว่าจะคิดอัตราดอกเบี้ยเท่าใด..? แต่ถ้าดูจากการที่แบงก์ชาติกำหนดเพดานสินเชื่อบุคคลไว้ที่ 25% ต่อปี…อย่างน้อย ๆ PTG ก็คงคิดดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี ล่ะมั้ง..?

นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างระบบนิเวศของบัตร PT Max Card ด้วย จากเดิมลูกค้าแค่เติมน้ำมัน มากินข้าวแกง กินกาแฟพันธุ์ไทย หรือมาซ่อมรถ เปลี่ยนยาง น้ำมันเครื่อง ก็สามารถปล่อยกู้ได้ด้วย ก็ช่วยสร้างแวลูของลูกค้าต่อหัวได้มากขึ้น

โอเค…แม้ว่าตลาดนี้จะเป็นเรดโอเชียน หรือทะเลสีเลือดไปแล้ว แต่ด้วย PTG เป็นแบ็กอัพ อาจได้เปรียบกว่านอนแบงก์ภูธรเจ้าอื่น ๆ…ก็คงชิงเค้กได้ไม่น้อยแหละ

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ น่าจะเป็นคำตอบได้ลาง ๆ แล้วว่า ทำไม PTG ต้องเร่งขยายสาขาเชิงรุกนั่นเอง…

…อิ อิ อิ…

Back to top button