ASK สินเชื่อเติบโตแบบทรงตัว

ASK รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2565 มีกำไรสุทธิ 410.65 ล้านบาท ขยายตัว 19.66% จากไตรมาส 4/2564 และเพิ่มขึ้น 4.91%


คุณค่าบริษัท

บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ASK โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อ ณ สิ้นปี 2565 1.สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุก 64% ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของบริษัท 2.สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักร 10% 3.สินเชื่ออื่น ๆ 10% 4.สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 8% 5.สินเชื่อให้กู้ยืม 8% โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อจำแนกตามประเภท 1.สินเชื่อเช่าซื้อ 90% 2.สินเชื่อเงินให้กู้ยืม 8% 3.สินเชื่อเช่าแบบลีสซิ่งและแฟคตอริ่ง 2% ยอดจดทะเบียนรถบรรทุกของไทยไตรมาส 4/2565 ลดลง 7.38% จากไตรมาส 3/2565 และลดลง 3.47% จากไตรมาส 4/2564 ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศของไทยไตรมาส 4/2565 เพิ่มขึ้น 9,310 คัน จากไตรมาส 3/2565 หรือคิดเป็น 4.51%

ASK รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2565 มีกำไรสุทธิ 410.65 ล้านบาท ขยายตัว 19.66% จากไตรมาส 4/2564 และเพิ่มขึ้น 4.91% จากไตรมาส 3/2565 ที่มีกำไรสุทธิ 391.44 ล้านบาท ได้แรงหนุนจากพอร์ตสินเชื่อสุทธิ ณ สิ้นไตรมาส 4/2565 ขยายตัว 3.6% จากสิ้นไตรมาส 3/2565 และเติบโต 21.3% จากสิ้นไตรมาส 4/2564 สู่ระดับ 67,605 ล้านบาท จากความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกที่เติบโตต่อเนื่อง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และสัดส่วน Cost to income ไตรมาส 4/2565 ลดลงมาที่ 24.0% จาก 26.2% ในไตรมาส 3/2565 จากการคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดี ขณะที่ Credit cost ไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 1.97% ลดลงจากไตรมาสก่อนเล็กน้อยที่ 2.04% เนื่องจากความสามารถในการชำระคืนของลูกหนี้ยังไม่ดีขึ้น โดย NPL ต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาส 4/2565 ขยับสูงขึ้นมาที่ 3.47% จากสิ้นไตรมาส 3/2565 ที่ 2.86%

ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อสินเชื่อรวม (Stage 2) เพิ่มขึ้นมาที่ 6.8% จาก 5.8% ในไตรมาส 3/2565 โดย Coverage ratio ณ สิ้นไตรมาส 4/2565 ลดลงมาที่ 75.0% เทียบกับ 89.4% ในไตรมาส 3/2565 ซึ่งถือว่าคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลง ASK ตั้งสำรองค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (LLR) ณ สิ้นปี 2565 จำนวน 1,772 ล้านบาท คิดเป็น 2.62% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ส่วนกำไรสุทธิงวดปี 2565 ของ ASK อยู่ที่ 1,512.14 ล้านบาท เติบโต 25.72% จากงวดปี 2564 จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เติบโต 27.4% จากปี 2564 และรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจประกันภัยที่เพิ่มขึ้น 25.2% จากปี 2564 แม้ว่าค่าใช้จ่ายตั้งสำรองหนี้สูญ (ผลขาดทุนด้านเครดิตและการด้อยค่าของสินทรัพย์รอการขาย) จะเพิ่มสูงขึ้น 54.87% จากปี 2564

ผู้บริหาร ASK คงเป้าหมายสินเชื่อปีนี้เติบโตที่ 20.0% เทียบกับปี 2565 ที่เติบโต 21.3% และคาดว่าสินเชื่อจำนำทะเบียนรถบรรทุกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2566 เทียบกับ 3,600 ล้านบาท ในปี 2565 เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของสินเชื่อประเภทนี้อยู่ที่ 12-13% เทียบกับอัตราปกติสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกที่ 6-8% แม้ผู้บริหารมองว่า NPL ratio จะยังคงอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับปี 2565 ที่ 3.47% ในไตรมาส 1/2566 แต่เชื่อว่าจะเป็นช่วงที่คุณภาพสินทรัพย์ผ่านจุดแย่ที่สุดก่อนจะเริ่มลดลงมาสู่เป้าหมาย NPL ratio ของ ASK ที่ 3.0% ณ สิ้นปี 2566 เนื่องจาก ASK เห็นสัญญาณของคุณภาพสินทรัพย์ที่เริ่มอ่อนแอลง และเริ่มยึดหลักประกันอย่างจริงจังในไตรมาส 4/2565 เห็นได้จากสินทรัพย์รอการขายที่สูงขึ้นที่ 556 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2565 เทียบกับ 409 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2565

บล.กสิกรไทย ระบุว่า ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 และ 2567 ลง 9.5% และ 11.5% เป็น 1,600 ล้านบาท และ 1,700 ล้านบาท เพื่อรวมสมมติฐานการเติบโตของสินเชื่อที่ลดลงเล็กน้อยที่ 14.6% ในปี 2566 ซึ่งต่ำกว่าแนวทางของผู้บริหารที่ 20% และสมมติฐาน credit cost ที่สูงขึ้น 0.28% และ 0.25% เป็น 2.03% และ 2.0% เทียบเท่ากับประมาณการ NPL ratio ที่สูงขึ้นที่ 3.2% และ 3.1% เทียบกับที่คาดไว้ก่อนหน้าที่ 2.8% และ 2.9% ในปี 2566 และ 2567

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) หุ้น ASK ราคาปัจจุบัน (ราคาปิดวันที่ 11 เม.ย. 2566 ที่ 29.25 บาท) ซื้อขายกันที่ P/E 10.21 เท่า ต่ำกว่า P/E กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ที่ 18.92 เท่า ส่วนค่า P/BV ของหุ้น ASK อยู่ที่ 1.51 เท่า ต่ำกว่า P/BV กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ที่ 2.18 เท่า

Back to top button