OTO ก้าวสู่ไฟสีเขียว

หลังจาก บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ หรือ OTO เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ จาก บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น หรือ SAMART ไปเป็น “บุญเอื้อ จิตรถนอม”


หลังจากบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ จากบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART ไปเป็น “บุญเอื้อ จิตรถนอม” (ปัจจุบันถือหุ้น 25.01%) ก็มีความเพียรพยายามแต่งเนื้อแต่งตัวใหม่ ใส่เสื้อเชิ้ต เสื้อสูท กางเกงยีนส์ และกางเกงสแล็คก็แล้ว…ซึ่งไม่ต่างจากการไปลงทุนในธุรกิจด้านผลิตงานซิลค์สกรีนเนมเพลท เลเบล สติ๊กเกอร์, ธุรกิจสุขภาพ, ธุรกิจเกม (ล่าสุดขายทิ้งไปละ) และธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน EV เป็นต้น

แต่เอ๊ะ…เหมือนยังไม่เจอชุดที่ใช่หรือเปล่าน้อ..? ถึงทำให้งบงวดปี 2565 พลิกมาขาดทุนสูงถึง 116 ล้านบาท จากรายได้รวม 634 ล้านบาท…

เลยเป็นที่มาให้ OTO ต้องเฟ้นหาเสื้อตัวใหม่อีกรอบ…คราวนี้จะใส่ชุดไฟฟ้าทดแทน และคาร์บอนเครดิต..!! โดยเมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการจัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า บริษัท ซีซีเอส คาร์บอน เคลียร์ โซลูชั่น จำกัด มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท รองรับไว้แล้ว

โอเค…ทั้ง 2 ธุรกิจใหม่ ก็น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทน เป็นเทรนด์การผลิตไฟฟ้าแห่งอนาคต ในขณะที่ธุรกิจคาร์บอนเครดิต เป็นเมกะเทรนด์ของโลก

แต่โจทย์ของ OTO เมื่อคิดการใหญ่จะไปลงทุน 2 ธุรกิจเมกะเทรนด์ แน่นอนต้องใช้เงินจำนวนมาก ครั้นไปส่องงบการเงิน ณ สิ้นปี 2565 กลับมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดติดกระเป๋าอยู่แค่ 100.05 ล้านบาท เท่านั้น ก็คงไม่เพียงพอ…เลยเป็นที่มาของการดึงรายใหญ่ทั้งกองทุนและบุคคลรวม 4 ราย เข้ามาเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง หรือ PP จำนวน 50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 16.00 บาท คิดเป็นมูลค่า 800 ล้านบาท

ถ้าไปส่องดูแบ็กกราวนด์ของแต่ละคน มีทั้งคนกันเองและที่ไม่กันเอง…เริ่มจาก Capital Asia Investments PTE. LTD. ว่ากันว่าเป็นกองทุนจากแดนลอดช่อง (สิงคโปร์) ที่มุ่งเน้นการเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานและปิโตรเลียม โดยที่ผ่านมาได้เข้าไปลงทุนในหุ้นหลาย ๆ ตัว ได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไป 20 ล้านหุ้น มูลค่า 320 ล้านบาท

ถัดมาเป็น “ยศวีย์ วัฒนธีระกิจจา” คนนี้เป็นทั้งบิ๊กบอสและผู้ถือหุ้นเบอร์ 2 ของบริษัท ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ 24CS ได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 20 ล้านหุ้น มูลค่า 320 ล้านบาท

ส่วน “นพพร วิฑูรชาติ” เจ้าพ่อช้อปปิ้งมอลล์เมืองไทย ผู้ปลุกปั้นเมกา บางนา, เจ อเวนิว ทองหล่อ, เอสพลานาด รัชดาฯ และมาร์เก็ต เพลส หลายสาขา ได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 5 ล้านหุ้น มูลค่า 80 ล้านบาท

คนสุดท้ายเป็น “รฐา วีรพงษ์” นักลงทุนรายใหญ่ที่มักไปเกี่ยวข้องกับหุ้นหลาย ๆ ตัว อาทิ บริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ W และบริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT เป็นต้น ได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 5 ล้านหุ้น มูลค่า 80 ล้านบาท

มิน่าล่ะ ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น OTO วิ่งต่อเนื่อง…ที่แท้วิ่งมารับการเพิ่มทุน PP นี่เอง…

ว่าแต่คนพวกนี้จะอยู่กันยาวนานแค่ไหนเนี่ย..? นักลงทุนคงอยากรู้ แต่เป็นเรื่องที่ตอบยาก..!!

นอกจากนี้ OTO ยังเตรียมขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทด้วยนะ

ถ้าถามว่า OTO จริงจังกับเสื้อใหม่ หรือ 2 ธุรกิจใหม่แค่ไหน..? ดูได้จากการดึง “บัณฑิต สะเพียรชัย” อดีตแม่ทัพบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ที่ปลุกปั้น BCPG ขึ้นมาผงาดในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน มานั่งรองประธานบอร์ด OTO นั่นแหละ

แหม๊…เห็น OTO เล่นใหญ่ไฟกะพริบอย่างนี้…

ชักเริ่มน่าสนใจการเข้าสู่ Climate Tech ครั้งนี้..แล้วสิ..เนี่ย..!!??

…อิ อิ อิ…

Back to top button