ดนตรีแห่งอำนาจ

ในที่สุดพรรคก้าวไกลก็สามารถตั้งรัฐบาลได้อย่างทุลักทุเลและสำเร็จท่ามกลางความระทึกขวัญของกองเชียร์ที่หวั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะเดินหน้าไปได้สักกี่น้ำกันแน่


ในที่สุดพรรคก้าวไกลก็สามารถตั้งรัฐบาลได้อย่างทุลักทุเลและสำเร็จท่ามกลางความระทึกขวัญของกองเชียร์ที่หวั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะเดินหน้าไปได้สักกี่น้ำกันแน่ เพราะดูทรงแล้วค่อนข้างฝืนธรรมชาติพอสมควร

ที่ว่าฝืนธรรมชาติเพราะกระเตงพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเจ้าของพรรคมีพฤติกรรมที่เรียกว่า (สู้ไปกราบไป) “แบบลักปิดลักเปิด”

การเทคะแนนให้พรรคก้าวไกลเพื่อตั้งรัฐบาลได้ โดยที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่มีบารมีอย่างม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชแห่งพรรคกิจสังคม  และไม่มีเงินถุงเงินถังเเบบทักษิณ ชินวัตรในปี 2544

การที่พรรคก้าวไกลได้เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลที่ชนิดหักปากกาเซียนทางการเมืองที่ทุกสำนักคาดเดาว่าจะได้เป็นจนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลระบอบประชาธิปไตย

การเมืองของพรรคก้าวไกลที่เน้นความสำคัญของความยุติธรรมทางสังคมมากกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่พรรคเพื่อไทยนำเสนออาจจะดูไม่ขัดแย้งกันแต่โดยธรรมชาติแล้ว ขัดแย้งกันอย่างยิ่ง

เหตุผลเพราะว่า เรื่องเงินไม่มีความยุติธรรมและคุณธรรมเจือปนอยู่ด้วยความจำเจอันหอมหวลของทุนนิยมจะขัดแย้งกับคุณธรรมของพรรคก้าวไกลอยู่เสมอ

ในทางทฤษฎีเมื่อจัดตั้งรัฐบาลแล้วจะมีการแจกจ่ายเก้าอี้ให้พรรคการเมืองที่ร่วมตั้งรัฐบาล โดยตั้งสมมติฐานว่านักการเมืองของแต่ละพรรคที่ไปกินตำแหน่งของการเมืองรัฐมนตรีหรือช่วยว่าการเป็นตัวแทนของนโยบายพรรคแต่ข้อเท็จจริงก็คือ รัฐมนตรีแต่ละคนจะเอานโยบายส่วนตัวไปใช้มากกว่านโยบายพรรค

ข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นแจกเก้าอี้ดนตรีให้นักการเมืองที่เป็นรัฐมนตรีว่าการและช่วยว่าการสบช่องหาประโยชน์ ส่วนตัวในการถอนทุน โดยอ้างว่าเป็นนโยบายพรรค ซึ่งเรื่องนี้มันเคยบ่อนทำลายการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมานักต่อนักแล้ว และเปิดช่องให้กับการรัฐประหารโดยกองทัพเสมอมาเป็นการวัฏจักรชั่วร้ายไม่รู้จบ

เก้าอี้ดนตรีแห่งอำนาจนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นความคุ้นเคยของการเมืองไทยที่ควบคุมได้ยาก

บางครั้งรัฐมนตรีว่าการและช่วยว่าการที่มาจากคนละพรรคก็มีความขัดแย้งกันในผลประโยชน์ ซึ่งเป็นรอยร้าวที่นำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลผสมได้ง่าย ๆ มาก

พรรคก้าวไกลจะถูกทดสอบด้วยข้อเท็จจริงทางอำนาจของเก้าอี้ดนตรีนี้ ซึ่ง เรียกร้องความยืดหยุ่นทางการเมืองสูงเพราะถ้าเข้มงวดเกินไปก็จะถูกหาว่าทำให้เกิดความขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยการคอยจับผิดพรรคร่วมรัฐบาล

ในทางกลับกันพรรคก้าวไกลทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แบบปิดตาข้างหนึ่งปล่อยให้รัฐมนตรีว่าการต่างพรรคทำผิดตามอำเภอใจก็จะเสียหายเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของรัฐบาลชุดนี้ที่ยอมให้คนชั่วหาผลประโยชน์เข้าตัว

บททดสอบนี้พรรคก้าวไกลซึ่งมีประสบการณ์น้อยจำเป็นต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้ การเมืองแบบมาคิอาเวลลีอย่างเลี่ยงไม่พ้น

ข้อเท็จจริงนี้ทำให้ผมเกิดลางสังหรณ์ว่าพรรคก้าวไกลจะอายุสั้นผิดปกติจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ฝืนธรรมชาติของเก้าอี้ดนตรี แห่งอำนาจ

เพียงแต่ผมหวังว่าลางสังหรณ์ของผมอาจจะผิดพลาดซึ่งเป็นเรื่องที่ดี

Back to top button