หุ้นไม่กลัวการเมือง?

วันนี้ยังเป็นอีกวันที่ “โมนิก้า” ต้องสาละวนกับหุ้นร้อนที่กำลังกลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างเมามันว่า เรื่องจริงเป็นอย่างไร ?


วันนี้ยังเป็นอีกวันที่ “โมนิก้า” ต้องสาละวนกับหุ้นร้อนที่กำลังกลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างเมามันว่า เรื่องจริงเป็นอย่างไร? ขณะเดียวกันก็ต้องเฝ้าดูอาการของตลาดหุ้นไทยจะมีแรงส่งดันขึ้นไปถึงไหน? เพราะประเด็นที่นักลงทุนหยิบมาเม้าท์ในแต่ละเรื่อง มันค่อนข้างสวนทางกับการทะยานของดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,562.40 จุด บวกไป 10.99 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.19 หมื่นล้านบาทน่ะซี

โดยเฉพาะประเด็นที่ด้อมส้มกำลังเตรียมการทวงแค้นหุ้นการเมือง ซึ่งบังอาจเตะสกัดขาการขึ้นเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทยแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ลากยาวอย่างแน่นอน เพราะเรื่องดังกล่าวกำลังส่อไปในทางล่าแม่มดมากขึ้นทุกที! เดี๊ยนในฐานะคนที่ชอบ “นั่งอยู่บนภู ดูหมากัดกัน” จึงไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไรมากมายไปกว่าที่เป็นอยู่ เพราะจะถูกครหาว่า เข้าข้างอีกฝั่งนะจ๊ะ

เนื่องจากสิ่งที่สนใจมากสุดในเวลานี้ก็คือ หุ้นไทยไม่กลัวการเมืองแล้วใช่ไหม? จึงมีแรงซื้ออัดเข้ามาที่หุ้นบลูชิพตลอดทั้งวัน จนราคาหุ้นเปลี่ยนทิศจากขาลงไปเป็นฟื้นตัวอย่างรวดเร็วแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นภาพที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนชอบเล่นสั้น เพราะมันทำให้มีความหวังว่า วันนี้หุ้นน่าจะขึ้นต่อได้ไม่ยาก หลังสถานการณ์บางอย่างทำให้รู้ว่า อะไรเป็นอะไรมากขึ้น! อาการจิตตกเลยหายไปชั่วคราวจ้า!

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดสุดก็คือหุ้น DELTA ซึ่งไม่ยี่หระกับประเด็นร้อนทางสังคม และการเมือง หรือแม้กระทั่งตลาดหุ้นทั่วโลกจะเป็นอย่างไร? พี่ท่านก็ไม่แยแสอะไรทั้งนั้น เพราะเอาแต่เดินหน้าขึ้นลูกเดียว..แต่อาจมีบ้างในช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือน เม.ย. ที่ราคาหุ้นร่วงลงจากระดับ 98 บาท ลงมายืนอยู่ที่ 70 บาท พอคล้อยหลังจากนั้นก็ขึ้นลูกเดียว จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 102 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.48 พันล้านบาทไงล่ะคะ

เช่นเดียวกับ “หุ้นแบงก์เล็ก พิมพ์นิยม” อย่าง TTB ก็เป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะสิ่งที่สะท้อนออกมาก็คือ ราคาหุ้นไม่ได้หวั่นไหวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ สักเท่าไหร่ และถ้านับตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. ที่ราคาหุ้นอยู่ที่บริเวณ 1.30 บาท ต่อจากนั้นก็แกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดยืนปิดอยู่ที่ระดับ 1.64 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 1.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 366 ล้านบาท ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ นะคะ

อีกรายที่มีลุ้นเล่นเป็นรอบ ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นนิคมอุตสาหกรรมอย่าง WHA เพราะเป็นหุ้นที่มาด้วยสตอรี่โกรทแบบจัดเต็ม แม้ในบางจังหวะจะอ่อนไหวตามบรรยากาศตลาดหุ้นไปบ้าง แต่สุดท้ายก็วิ่งกลับขึ้นมาได้เป็นประจำ และยังแสดงอาการจะเดินหน้าต่อแบบนี้ เดี๊ยนถึงสงสัยว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.60 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 1.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 309 ล้านบาท น่าจะเป็นสัญญาณบวกอะไรบางอย่างอ๊ะป่าว?

คล้ายกับอาการที่หุ้น HANA โดนทุบเป็นเวลา 3 เดือนครึ่ง พร้อมกับมีความกังวลมากมายปะทุไม่หยุดหย่อน จนราคาหุ้นลงมาทำโลว์ที่ระดับ 36 บาท แต่ทันทีที่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ราคาหุ้นก็เริ่มไต่เพดานบินขึ้นใหม่ และไม่สะทกสะท้านกับภาวะตลาดหุ้นที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 47.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 4.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 659 ล้านบาทแบบนี้..มันเป็นจังหวะที่ต้องไหลตามน้ำหรือเปล่า?..ลองไปคิดดูนะจ๊ะ

เม้าท์ถึงหุ้นที่โดนรินขายหนัก และเริ่มเซ็ตตัวได้อีกครั้ง และกำลังทะยานขึ้นรอบใหม่ “โมนิก้า” ต้องชี้เป้าไปที่หุ้น PSG เพื่อชี้ให้เห็นว่า แรงขายจากไอ้โม่งที่แอบตีมึน..ไม่รู้..ไม่รู้ น่าจะหมดแล้วจริง ๆ ราคาหุ้นถึงบวกแรงสองวันติด ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 0.92 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 5.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80 ล้านบาท ก็ยังเป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับคนที่เชื่อว่า บริษัทจะทำกำไรได้ตามเป้านะจะบอกให้

ส่วนรายที่น่าผิดหวังดันกลายเป็น OTO หลังโดนทุบจนติดฟลอร์ 2 วันติด แถมก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์ก็โดนทุบจนติดฟลอร์หนึ่งครั้ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประมวลเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มันเป็นเกมลากไปเชือดเหมือนในอดีตที่ผ่านมาหรือเปล่า? เพราะการทรุดฮวบลงมาปิดที่ระดับ 7.90 บาท ลบไป 3.40 บาท หรือลงไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 328 ล้านบาท มันทำลายความเชื่อมั่นที่มีต่อธุรกิจใหม่ลงอย่างราบคาบนะออเจ้า

Back to top button