ล้างพอร์ต?

เรื่องราวอย่างหนึ่งที่ “โมนิก้า” ได้ยินมาสักพักก็คือ นักลงทุนบางกลุ่มเริ่มมีแนวคิดล้างพอร์ตมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเมื่อดูจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน


เรื่องราวอย่างหนึ่งที่ “โมนิก้า” ได้ยินมาสักพักก็คือ นักลงทุนบางกลุ่มเริ่มมีแนวคิดล้างพอร์ตมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเมื่อดูจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันทำให้รู้ว่า โอกาสที่หุ้นไทยจะขึ้นอย่างแข็งแกร่งมันริบรี่เหลือเกิน จึงพยายามหาจังหวะขายหุ้นเมื่อยกตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันมักจะขายหุ้นตามน้ำเมื่อทรุดตัวแรง ส่งผลให้ยุทธการเที่ยวนี้เป็นการเล่นขาลงแบบเต็มตัวนะจะบอกให้

ด้วยเหตุนี้ถึงเห็นวอลุ่มการซื้อขายเบาบางลงเรื่อย ๆ เพราะคนที่ขายหุ้นออกไปแล้ว ไม่ต้องการซื้อหุ้นกลับมาใหม่ ส่งผลให้ในพอร์ตมีหุ้นน้อยลงเรื่อย ๆ ส่วนคนที่ยังตัดใจไม่ลง ก็ต้องนอนกอดใบหุ้นแทนใบหุ้นแบบทุกข์ระทม เพราะไม่รู้ว่า เมื่อไหร่หุ้นจะวิ่งกลับขึ้นมาเท่ากับราคาที่ซื้อ ส่งผลให้ผู้คนในตลาดหุ้นเกิดอาการห่อเหี่ยวไปตาม ๆ กัน หลังราคาหุ้นมีโอกาสทำโลว์ใหม่ให้เห็นเรื่อย ๆ ไงล่ะคะ

ฉะนั้นการที่ดัชนีม้วนตัวจากแดนบวกลงมาแดนลบ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,478.10 จุด ลบไป 7.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.47 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นภาพสะท้อนที่ชี้ให้เห็นความไม่มั่นใจในทิศทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยทุกครั้งที่มีประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นทีไร มักกระตุ้นให้นักเล่นขายหุ้นอุตลุด..ขนาดหุ้นที่เขาว่ากันว่า แข็ง ๆ แน่น ๆ กลับมีอาการอ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งลนไฟเลยจ้าคุณแม๊!

เรื่องนี้ดูได้จากพี่เทพ PTTEP ซึ่งพยายามประคองตัว และพยายามดีดตัวขึ้นใหม่ แต่สุดท้ายวนเวียนไปมาในกรอบ 140-155 บาทเป็นเวลานานถึงสองเดือนแบบนี้ “โมนิก้า” เลยขอเดาเกมล่วงหน้าว่า เที่ยวนี้ก็ควรไปรับหุ้นที่จุดนัดพบด้านล่างเหมือนเดิม หลังราคาหุ้นย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 145.50 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 863 ล้านบาท ยกเว้นอย่างเดียวคือ หากประคองตัวที่แนวรับไม่ได้ ต้องตัดใจขายสถานเดียวนะจ๊ะ

เช่นเดียวกับในรายของ TU ก็อยู่ในกลุ่มหุ้นที่นักเล่นต้องตัดใจเช่นกัน เพราะแรงขายยังไม่ซาลงเสียที ทั้งที่ตอนนี้หุ้นเข้าเขต oversold จนค่าสัญญาณเทคนิค Modified Stochastic เหลือแค่ 8.65 แต่วานนี้ราคาหุ้นกลับลงมายืนปิดที่ระดับ 12.80 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 502 ล้านบาท ถือเป็นจุดที่น่าเล่นในมุมของการลุ้นเด้งกลับสั้น ๆ เท่านั้นนะตัวเอง

ส่วนรายที่น่าเป็นห่วงสุด ๆ ต้องมองไปที่หุ้นเดินเรืออย่าง PSL เพราะราคาหุ้นทรุดฮวบลงมาปิดที่ระดับ 9.10 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 9.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 414 ล้านบาท โดยจุดเด้งเดิมอยู่ที่บริเวณ 8.80 บาทนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่สำหรับคนที่เชื่อว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นในเร็ววัน ซึ่งเป็นเรื่องที่สวนทางกับความเป็นจริงที่ทุกคนรับรู้กันอย่างกว้างนะคะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น SABUY ก็มีประเด็นที่ทำให้สังคมระแวงอย่างใหญ่หลวง แถมในตลาดหุ้นก็มีเรื่องเม้าท์กันให้แซ่ด เดี๊ยนถึงมองว่า การไหลลงติด ๆ หลายวัน จนสุดท้ายลงมายืนปิดที่ระดับ 8.70 บาท ลบไป 0.65 บาท หรือลงไป 6.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 172 ล้านบาท พร้อมกับทำโลว์ในรอบ 1 ปี 11 เดือน มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องตัดใจแล้วหรือเปล่า?..ลองไปคิดกันดูจ้า

ส่วนรายที่พยายามยืนสู้เป็นระยะ แต่สุดท้ายก็ต้านแรงขายไม่ไหว เพราะยังมีเรื่องราวตามหลอกหลอน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น SINGER หลังเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.70 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 144 ล้านบาท ก็เป็นจังหวะที่ทำให้นักเล่นได้หายใจโล่งปอดชั่วคราว หลังมีแรงซื้อเข้ามาช่วยยันราคาหุ้นไว้อีกหนึ่งวัน นักเล่นเลยมีเวลาคิดว่า เอาไงต่อ..อิอิอิ

เช่นเดียวกับการดีดกลับของหุ้น OTO ภายใต้ความวุ่นวายของเกมหุ้น และยังไม่สามารถจับมือใครดมได้แบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่นักเล่นต้องประเมินกันว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.72 บาท บวกไป 0.31 บาท หรือขึ้นไป 22% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 399 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงแล้วใช่ไหม? ถ้าคิดว่า “ใช่” ก็เล่นสั้นได้อีก..ถ้าคิดว่า “ไม่ใช่” ก็รีบเปิดตูดเถอะ..เม่าน้อยกล่าวไว้!

Back to top button