พาราสาวะถี

โจทย์ใหญ่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยคือ เร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชนโดยเฉพาะเรื่องปากท้อง คุณภาพชีวิตแบบควิกวิน เร่งรัดเห็นผลทันตา


โจทย์ใหญ่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยคือ เร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชนโดยเฉพาะเรื่องปากท้อง คุณภาพชีวิตแบบควิกวิน เร่งรัดเห็นผลทันตา ตามคำประกาศิตของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อย่างน้อยภายในระยะเวลา 2-3 เดือนต้องสัมผัสจับต้องได้กับการเดินหน้านโยบายของรัฐบาล คิกออฟแน่นอนรอแค่ปรับความชัดเจนรายละเอียดบางประการคือ ดิจิทัลวอลเล็ตเติมเงิน 1 หมื่นบาทเข้ากระเป๋าคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป

ฟังจากการอภิปรายของฝ่ายค้านและพวกลากตั้งแล้ว ไม่ได้มีใครคัดค้าน นั่นหมายความว่า มองเห็นถึงความจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ด้วยเม็ดเงินก้อนโต ทักท้วงกันเพียงแค่แหล่งที่มาของเงิน กระบวนการดำเนินการที่จะต้องไม่เอื้อนายทุน เจ้าสัว และควรปรับรัศมีการใช้ที่จำกัดไว้ที่ 4 กิโลเมตร ซึ่งกรณีของรัศมีอาจมีทบทวนในบางพื้นที่ซึ่งมีแหล่งซื้อหาสินค้าไม่หนาแน่น ส่วนเรื่องระยะเวลาที่จะต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ท่านผู้นำยืนกรานต้องเป็นไปตามนั้น

จากเหตุผลที่ว่า จำเป็น เพราะรัฐบาลต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงระยะสั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่  ระยะเวลาการใช้เงินเป็นเรื่องที่เศรษฐาและคณะทำงานให้ความสำคัญอย่างมาก เช่นเดียวกับรัศมี 4 กิโลเมตรที่เจ้าตัวย้ำว่า เศรษฐกิจภูมิภาคต้องการการกระตุ้น ถ้าคนที่มีถิ่นฐานจังหวัดใดก็ควรกลับไปใช้ที่นั่น โดยมีเวลา 6 เดือนในการกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้อง ผลพลอยได้คือทำให้สถาบันครอบครัวแข็งแกร่งขึ้น เรื่องรัศมี 4 กิโลเมตรตามบัตรประชาชนยังขอคงไว้ ยกเว้นบางจังหวัดที่อาจจะต้องมีการขยาย โดยนายกฯ ร่างโย่งบอกว่าจะขอดูอีกครั้ง

ขณะเดียวกันเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรผ่านโครงการพักหนี้นั้น น่าจะเป็นอีกเรื่องที่เศรษฐาศึกษามาอย่างดีและเพื่อไทยก็เตรียมการไว้อย่างครอบคลุม เห็นได้จากการตอกย้ำผ่านการแถลงนโยบายและลุกขึ้นตอบข้ออภิปรายของฝ่ายค้านและพวกลากตั้งของเศรษฐาที่ว่า การพักหนี้ของเกษตรกร มีใครทราบหรือไม่ว่า 9 ปีที่ผ่านมามีการพักหนี้ไปแล้ว 13 หน ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่ทุกคนบอกว่าการพักหนี้ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลตระหนักดีในเรื่องนี้

สิ่งที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยจะทำควบคู่กับการพักหนี้เกษตรกรมีหลายมาตรการเพื่อเพิ่มรายได้ เช่น การทำให้รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายในเวลา 4 ปี โดยการใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ควบคู่ไปกับการพักหนี้ เพื่อทำให้เกษตรกรหายใจและลืมตาอ้าปากได้ เป็นช่วงที่เกษตรกรได้ฟื้นฟูตัวเอง ทำให้มีกำลังใจในการที่จะกลับมาแก้ไขปัญหาในการประกอบอาชีพอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ซึ่งการพักหนี้หนนี้จะทำประโยชน์มากกว่าที่เกิดขึ้นในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา

อย่างที่บอกว่า ด้วยผลงานของรัฐบาลก่อนหน้าโจทย์ของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไข หรือเดินไม่ถูกวิธี จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับรัฐบาลเพื่อไทยที่ศึกษาสภาพปัญหามาอย่างละเอียด ผนวกเข้ากับการมีพรรคจากขั้วเดิมมาร่วมยิ่งทำให้เห็นอุปสรรคที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เมื่อตีโจทย์แตก วางกลไกที่จะดำเนินการอย่างถูกต้องย่อมหวังผลได้ เพียงแต่ว่าเรื่องระยะเวลาที่จะขับเคลื่อนนั้น ต้องให้ผู้ที่ได้รับประโยชน์รู้สึกได้ว่าปัญหาได้รับการแก้ไข และมีแนวโน้มว่าคุณภาพชีวิตจะดีขึ้น

ประเด็นสำคัญอันถือเป็นพันธสัญญาที่เพื่อไทยโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคประกาศด้วยท่าทีแข็งขันในวันที่พลิกขั้วตั้งรัฐบาลก็คือ การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ ฟังที่เศรษฐายืนยันต่อที่ประชุมรัฐสภา เสียงคัดค้านโดยเฉพาะจากพวกลากตั้งก็น่าจะหมดไป เมื่อจะไม่มีการแตะในหมวด 1 และหมวด 2 ที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนที่เหลือการที่จะให้มีการทำประชามตินำไปสู่การเลือก ส.ส.ร.มายกร่าง ถือเป็นแนวทางที่คนส่วนใหญ่อยากจะให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว

ความท้าทายของคำถามที่จะมาไปยังพรรคเพื่อไทย จึงไม่ใช่เนื้อหาสาระ วิธีการที่จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากแต่เป็นเรื่องเงื่อนไขเวลาที่จะดำเนินการ เนื่องจากหมอชลน่านดันไปประกาศไว้ว่าจะบรรจุเป็นวาระพิจารณาในที่ประชุมนัดแรกแล้วมีมติทันที นั่นหมายความว่า หลังเสร็จสิ้นแถลงนโยบาย และมีการประชุม ครม.ในวันรุ่งขึ้น เรื่องแก้รัฐธรรมนูญจะต้องถูกวางไว้บนโต๊ะให้รัฐมนตรีได้ถกแถลง ส่วนจะมีมติออกมาหรือไม่ หรือจะเตะถ่วงอย่างไรต้องมีเหตุผลชี้แจงตอบให้สังคมหายเคลือบแคลงได้

เบื้องต้นทำนายไว้ล่วงหน้า ถ้ารัฐบาลเศรษฐา 1 จะตีกรรเชียงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ คงจะอ้างประเด็นการตรวจสอบรายชื่อประชาชนที่เข้าชื่อกันกว่า 2 แสนรายชื่อยื่นต่อ กกต.เสนอคำถามทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.บอกว่า มีเงื่อนเวลาให้ตรวจสอบภายใน 30 วัน แม้บอกว่าจะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้เร็วที่สุด แต่คงไม่เร็วพอที่จะทันการประชุม ครม.นัดแรก หากออกมุมนี้ที่อยากเห็นความชัดเจนจากรัฐบาลก็ต้องร้องเพลงรอไปก่อน เพราะมีการยื่นรายชื่อเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ถ้า กกต.ใช้เวลาเต็มที่ตามกรอบ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญจะถูกถกใน ครม.น่าจะเป็นหลังเดือนตุลาคมไปแล้ว

การติ๊ดชึ่งทางการเมืองนักเลือกตั้งถนัดอยู่แล้ว ท่วงทำนองของเศรษฐาผ่านกระบวนการแถลง รับฟังและชี้แจงข้ออภิปรายกับการร่วมประชุมรัฐสภาหนแรกต้องบอกว่าไม่ธรรมดา หากงานฝ่ายบริหารขยับได้ เริ่มแสดงศักยภาพให้คนทั่วไปเห็น งานของฝ่ายนิติบัญญัติก็น่าจะมีปัญหาน้อยกว่ารัฐบาลสืบทอดอำนาจที่ผ่านมา ขณะที่การทำงานของพรรคฝ่ายค้านมองผ่านการแถลงนโยบายของรัฐบาลแล้ว ระหว่างก้าวไกลกับประชาธิปัตย์หาหนทางที่จะจับมือกันเดินได้ยาก หากฝ่ายค้านไร้เอกภาพไม่เป็นหนึ่งเดียวเสียแล้ว การตรวจสอบรัฐบาลย่อมอ่อนแรงกว่าที่ควรจะเป็น

ลุกลามกันไปใหญ่สังเวยทั้งชีวิตและตำแหน่งของบรรดาตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องรับเงินสกปรกจากประวีณ จันทร์คล้าย กำนันอันธพาลแห่งจังหวัดนครปฐม การสูญเสียตำรวจตงฉิน “สารวัตรแบงค์” พันตำรวจตรี ศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวงหนนี้ หากคนโตแห่งวงการสีกากีจะล้างบาปให้ตัวเองก็ต้องจัดการพวกกังฉินพร้อมขบวนการให้สิ้นซาก เปิดแผลกันถึงขนาดนี้ขยายผลไม่ใช่เรื่องยากหากไม่ลูบหน้าปะจมูก พวกที่รักตัวกลัวตายพร้อมจะเป็นพยานจัดการคนชั่วแม้จะมีการทำลายหลักฐานกันไปบ้างก็ตาม งานนี้รัฐบาลเศรษฐา 1 จะถือเป็นจังหวะขับเคลื่อนนโยบายล้างบางมาเฟีย ผู้ทรงอิทธิพลทั้งหลายก็ยังได้

Back to top button