STEC ต่อยอดซัพพลาย.!

การมาของรัฐบาลเศรษฐา (1) ที่มี “อนุทิน ชาญวีรกูล” หรือ “เสี่ยหนู” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นั่งมท.1 (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย) ปลุกผี...อุ๊ย


การมาของรัฐบาลเศรษฐา (1) ที่มี “อนุทิน ชาญวีรกูล” หรือ “เสี่ยหนู” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นั่งมท.1 (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย) ปลุกผี…อุ๊ย ทำให้หุ้นบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ที่มีกลุ่มชาญวีระกูลของ “เสี่ยหนู” ถือหุ้นใหญ่ เกิดอาการกระชุ่มกระชวยมากสุดในบรรดาหุ้น 3 บิ๊กรับเหมาก่อสร้าง..!!

ซึ่งจะเกี่ยวข้องกันอ๊ะป่าว..? อันนี้ไม่รู้ แต่ Sensation มันไปแล้ว…โดยหุ้น STEC วิ่งคึกเป็นม้าศึกอยู่หลายวันทีเดียว ก่อนจะสลบเหมือดไปตามระเบียบ (พัก)…

โอเค…ในแง่ปรากฏการณ์ราคาหุ้นที่เกิดจากแรงเก็งกำไร…ก็ว่ากันไป

แต่ในเชิงธุรกิจก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจนะ จากมติบอร์ดเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา อนุมัติจัดสรรเงินจำนวน 300 ล้านบาท เพื่อลงทุนแยกส่วนธุรกิจโรงหล่อคอนกรีต ออกมาเป็นบริษัทย่อย และพัฒนากิจการโรงหล่อคอนกรีตให้เป็นธุรกิจการค้า เพื่อผลิตสินค้าตามมาตรฐานและตามแบบที่ลูกค้าต้องการ ผ่านการจัดตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อ บริษัท เอสเอ็นที คอนกรีต โซลูชั่น จำกัด…ซึ่ง STEC ถือหุ้น 100%

โดยเงินทุนตั้งต้น 300 ล้านบาท จะแบ่งเป็นใช้ในการรับโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจโรงหล่อ เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ต่าง ๆ และเครื่องใช้สำนักงาน ประมาณ 151 ล้านบาท ส่วนอีก 149 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ที่จริง STEC ไม่ใช่มือใหม่ถอดด้ามสำหรับธุรกิจนี้หรอกนะ…ก็มีธุรกิจโรงหล่อคอนกรีตอยู่แล้ว แต่สเกลคงไม่ใหญ่มาก อาจเป็นแค่ยูนิตหนึ่งของบริษัทแม่เท่านั้น…ก็เลยขยับขยายแยกส่วนออกมาให้เป็นกิจลักษณะ จัดทำในรูปแบบบริษัทซะเลย เพื่อให้มีความคล่องตัวมากขึ้น…

ผลพวงที่ตามมา 1) ช่วยควบคุมต้นทุนในโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ของ STEC ให้ถูกลง ยกตัวอย่าง เหล็กถือเป็นต้นทุนสำคัญในงานก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาราคาปรับสูงขึ้นมาก ควบคุมไม่ได้ เนื่องจากต้องไปซื้อมาจากซัพพลายเออร์อีกที แต่พอทำเอง อย่างน้อย ๆ ก็คุมมาร์จิ้นไม่ให้บางจนเกินไป

และ 2) เป็นโอกาสในการสร้างรายได้จากช่องทางอื่น ๆ จากการขายและบริการให้แก่บริษัทที่ทำธุรกิจก่อสร้างต่าง ๆ…ซึ่งหลังจากโควิดคลี่คลาย บวกกับการมีรัฐบาลใหม่ ก็น่าจะทำให้มีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐและเอกชนออกมาต่อเนื่อง หนุนให้ความต้องการใช้คอนกรีตเพิ่มมากขึ้น…

แต่ถ้าให้เดา บริษัทรับเหมาฯ คู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD, บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ, บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR คงไม่มาเป็นลูกค้า…มาซื้อคอนกรีตจาก STEC หรอกมั้ง..!? เชื่อขนมกินได้เลย

เอาเถอะ…อย่างน้อย ๆ ก็ถือเป็นการต่อยอดซัพพลายของ STEC ให้ครบลูปมากขึ้น..!!

จะว่าไปโมเดลนี้ก็คล้ายกับบรรดาค่ายอสังหาริมทรัพย์ที่แตกไลน์ไปทำธุรกิจผนังสำเร็จรูป (precast) เอง เพื่อซัพพอร์ตธุรกิจ รวมทั้งลดต้นทุน…

ส่วนเมื่อแยกธุรกิจโรงหล่อคอนกรีตมาแล้ว จะเป็นตัวทำเงินหนุนนำให้ STEC กลับมาเติบโตร้อนแรงเหมือนในอดีตได้หรือเปล่า..? หลังจากถูกโควิดกดทับรายได้และกำไรมานาน 3 ปี…อันนี้ยังตอบยาก

แต่ก็เอาใจช่วยนะคะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button