TPCH ตัดกิ่ง..ต่อยอด.!?

แหม๊...เมฆไม่ทันก่อตัว แต่ฝนดันมาตกซะงั้น..!! ซึ่งไม่ต่างจากกรณี TPCH ที่จู่ ๆ ก็จะโละขายโรงไฟฟ้าชีวมวล 4 แห่งเฉยเลย...


แหม๊…เมฆไม่ทันก่อตัว แต่ฝนดันมาตกซะงั้น..!! ซึ่งไม่ต่างจากกรณีบริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH ที่จู่ ๆ ก็จะโละขายโรงไฟฟ้าชีวมวล 4 แห่ง กำลังการผลิตรวม 33 เมกะวัตต์ มูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 1,200 ล้านบาท เฉยเลย…

โรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย 1)บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 1 จำกัด (TPCH1) โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ที่ จ.ยะลา กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ มีสัญญาขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระยะเวลา 20 ปี อัตรารับซื้อไฟฟ้า Feed-in-Tariff หน่วยละ 3.19 บาท

2)บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 2 จำกัด (TPCH2) โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ที่ จ.ยะลา กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ มีสัญญาขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระยะเวลา 20 ปี อัตรารับซื้อไฟฟ้า Feed-in-Tariff หน่วยละ 3.19 บาท

3)บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 5 จำกัด (TPCH5) โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ที่ จ.นราธิวาส กำลังการผลิต 6.3 เมกะวัตต์ มีสัญญาขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระยะเวลา 20 ปี อัตรารับซื้อไฟฟ้า Feed-in-Tariff หน่วยละ 3.51 บาท

และ 4)บริษัท อีโค เอ็นเนอร์ยี่ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ECO) ซึ่งถือหุ้นในบริษัท ประชารัฐชีวมวล แม่ลาน จำกัด (PBM) โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ที่ จ.ปัตตานี กำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ มีสัญญาขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระยะเวลา 20 ปี อัตรารับซื้อไฟฟ้า Feed-in-Tariff หน่วยละ 5.14 บาท และบริษัท ประชารัฐชีวมวล บันนังสตา จำกัด (PBB) โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ที่ จ.ยะลา กำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ มีสัญญาขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระยะเวลา 20 ปี อัตรารับซื้อไฟฟ้า Feed-in-Tariff หน่วยละ 5.14 บาท

ทำเอาแตกตื่นกันทั้งบาง เนื่องจากโรงไฟฟ้าทั้ง 4 แห่ง TPCH ปลุกปั้นมากับมือ แม้ตอนนี้ยังไม่สร้างกำไรก็เถอะ แต่ COD ไปแล้ว เริ่มมีรายได้กลับเข้ามาแล้ว…

เมื่อขายทิ้งไปก็ไม่แคล้วถูกตั้งคำถามว่าขายให้ใคร..? ซึ่งยังไม่เปิดเผย ระบุแค่ว่าเป็นนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้า ก็ยังเป็นปริศนากันต่อไป..?? ต้องติดตามว่าใครจะมารับเซ้งต่อ..!?

ส่วนขายทำไม..? ชัดเจนว่าจะนำเงินที่ได้ไปใช้ขยายการลงทุนในต่างประเทศ ก็จะทำให้จำนวนเมกะวัตต์เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2569

สำหรับประเด็นหลังขายโรงไฟฟ้าไปแล้ว จะทำให้จำนวนเมกะวัตต์ลดวูบเหลือราว 90 เมกะวัตต์ในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 122.30 เมกะวัตต์ ก็อย่าเพิ่งกังวลไปล่ะ…เพราะ TPCH นั่งยันนอนยันว่า ในปีหน้าจะมีกำลังการผลิตใหม่จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสปป.ลาว จำนวน 100 เมกะวัตต์ เข้ามาเติมอย่างแน่นอน

ไม่นับรวมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในสปป.ลาว เวียดนาม และกัมพูชา ที่อยู่ระหว่างการศึกษาอีกนะ

โอเค…การตัดกิ่งต่อยอด (ขยายการลงทุน) ก็ว่ากันไป…

แต่อีกช็อตที่น่าสนใจ ถ้าไปส่องงบการเงิน TPCH จะเห็นว่า ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดติดกระเป๋าแค่ 147.91 ล้านบาท แต่มีส่วนของหนี้สินระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีสูงถึง 2,250.40 ล้านบาท…ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้หุ้นกู้ปาไป 1,495.96 ล้านบาท และส่วนของหนี้ระยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี-อื่น ๆ อีก 754.44 ล้านบาท

ก็ไม่รู้ว่า TPCH จะเจียดเงินจากการขายโรงไฟฟ้าครั้งนี้ไว้รับรองหุ้นกู้ล็อตใหญ่ ที่จะครบการไถ่ถอนในวันที่ 30 มิ.ย. 2567 ด้วยอ๊ะป่าว..? เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ก็ดีนะ

เพราะก่อนหน้านี้ก็มีบทเรียนจากหลาย ๆ บริษัทที่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง จนนำมาสู่วิกฤตหุ้นกู้..!!

ไม่อยากเห็น TPCH ตกที่นั่งลำบากจนต้องขายผ้าเอาหน้ารอดน่ะสิ..!? ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเลย…

…อิ อิ อิ…

Back to top button