กลางเล็ก..วิ่งดี

ขอบอกตามตรงว่า ความสนใจของ “โมนิก้า” ในช่วงหลัง ๆ พุ่งเป้าไปที่หุ้นกลางเล็กมากกว่าหุ้นใหญ่เสียอีก


ขอบอกตามตรงว่า ความสนใจของ “โมนิก้า” ในช่วงหลัง ๆ พุ่งเป้าไปที่หุ้นกลางเล็กมากกว่าหุ้นใหญ่เสียอีก เพราะเมื่อดูจากสเต็ปการวิ่งแบบหมัดต่อหมัด ก็เห็นกันเต็มสองลูกตาว่า กลางเล็ก “วิ่งแรง วิ่งเร็ว” แซงทุกทางโค้งได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง ผสานกับเพื่อนพ้องมิตรสหายพูดถึงหุ้นกลางเล็กมากเป็นพิเศษ เดี๊ยนเลยโน้มเอียงไปยังหุ้นกลุ่มดังกล่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ พะย่ะค่ะ

งานนี้อย่าหาว่า เดี๊ยนไม่เป็นกลางเป็นอันขาด เพราะสิ่งที่เดี๊ยนเม้าท์มันเป็นธรรมต่างหาก เพราะในมุมของหุ้นใหญ่ที่จมปลักอยู่กับที่ในเวลานี้ มันเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน ขณะที่หุ้นกลางเล็กไม่ได้มีปัญหามากขนาดนั้น จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนในภาวะตลาดหุ้นผันผวน “โมนิก้า” ถึงไม่รู้สึกดีใจมากเป็นพิเศษเมื่อเห็นออกมาเฉิดฉายกันอย่างพรึบพรับไงล่ะคะ

ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉย ๆ เมื่อดัชนีแกว่งตัวไปมา พร้อมกับบรรยากาศซื้อขายที่หงอยเหงา ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,413.45 จุด บวกไป 4.62 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.39 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นเรื่องที่รับรู้กันมาตั้งนานแล้วว่า เข้าสู่เทศกาลปีใหม่ทีไร นักลงทุนมักพากันหยุดเทรด เพื่อไปเที่ยวพักผ่อนให้หายเหนื่อย หลังปีจากปีนี้โดนซัดหนักจนสะบักสะบอมกันเป็นแถวเจ้าค่ะ

สำหรับหุ้นขนาดกลางรายแรกที่ต้องเอ่ยถึง “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้นอาหารหมาแมวอย่าง AAI ก่อนเป็นลำดับแรก เพราะการกระชากขึ้นมาปิดที่ 4.40 บาท บวกไป 0.48 บาท หรือขึ้นไป 12.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 588 ล้านบาท ทั้งที่ราคาหุ้นนิ่งสงบมาเป็นเดือน มันเหมือนบอกใบ้ให้นักเล่นรู้ว่า หุ้นเริ่มวิ่งรับข่าวดีบางอย่างมั้ง! บรรยากาศซื้อขายวานนี้ถึงคึกคักเป็นพิเศษ..หากไม่เชื่อเดี๊ยน ลองถามหมอวินดูก็ได้..อิอิอิ

ส่วนหุ้นเล็กอีกตัวที่ “โมนิก้า” สนใจเป็นพิเศษก็คือ SINO ซึ่งเป็นผลมาจากสเต็ปการขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง เพราะในระหว่างทางมีการทดสอบแรงขายเป็นระยะ จนทิศทางการเคลื่อนตัวของหุ้นออกมาในรูปไซด์เวย์อัพ และการที่หุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.57 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 123 ล้านบาท โดยธุรกิจโลจิสติกส์กลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่า ยาวไปจ้า!

เช่นเดียวกับในรายของ TGE ยังทะยานขึ้นต่อเนื่องนั้น “โมนิก้า” เข้าใจว่า ทั้งหมดเป็นผลมาจากนักเล่นมั่นใจในตัวธุรกิจ ถึงกระโดดเข้ามาไล่หุ้นกันอย่างคึกคัก วานนี้เลยเป็นอีกวันที่ราคาขยับตัวขึ้นมาปิด 2.88 บาท บวกไป 0.38 บาท หรือขึ้นไป 15.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 156 ล้านบาทแบบชิล ๆ แต่ถึงกระนั้นก็ต้องบอกกันตามตรงว่า หลังจากนี้ต้องระวังเรื่อง take profit ไว้บ้าง เพราะสัญญาณเทคนิคมันบอกว่า ถึงจุดขายแล้วน่ะซี

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้นพุ่งแรงอย่าง DTCENT เป็นรายถัดมา เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.71 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 14.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 205 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีก็จริง แต่ถ้าเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปถึง 1.89 บาท ต่อจากนั้นเกิดการย่อตัวลงมาแล้วล่ะก็! มันกลายเป็นเกมที่วันนี้ต้องลุ้นกันต่อว่า เจ้ามือยังทำหน้าที่ประคองหุ้นต่อไหม?

สถานการณ์ดังกล่าวเชื่องโยงไปถึง XO พอดี เพราะวานนี้กลายเป็นหุ้นที่ถูกถล่มขายหนักตั้งแต่เช้า จนราคาหุ้นไหลลงไปยืนที่ระดับ 21.10 บาท ก่อนจะงัดกลับขึ้นอย่างช้า ๆ จนสุดท้ายยืนปิดได้ที่ระดับ 22.60 บาท ลบไป 3.15 บาท หรือลงไป 12.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 826 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องความกังวลที่มีต่อพ่อเจ้าของขายหุ้นออกมา 4 ล้านหุ้น ส่งผลให้บรรยากาศดูอึมครึมหนักไงล่ะจ๊ะ

ส่วนรายที่ยังโชว์ความแข็งแกร่ง เพราะอาศัยสตอรี่คริปโทขาขึ้น “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น BROOK เพื่อชี้ให้เห็นมันนี่เกมมันต้องเล่นกันแบบนี้ และจังหวะนี้ก็เหมาะต่อการโหนกระแสเหลือเกิน เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นวิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 0.54 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 59 ล้านบาท เพราะหุ้นตัวนี้ก็มีลักษณะวูบวาบเป็นประจำอยู่แล้ว จึงเหมาะต่อการเล่นสั้นสุด ๆ ค่ะ

Back to top button