รวมหุ้นเสียศูนย์

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา “โมนิก้า” ได้เม้าท์ถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยมาเยอะพอสมควร วันนี้เลยอยากเม้าท์ถึงหุ้นที่เสียศูนย์กันบ้าง


ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา “โมนิก้า” ได้เม้าท์ถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยมาเยอะพอสมควร วันนี้เลยอยากเม้าท์ถึงหุ้นที่เสียศูนย์กันบ้าง เพราะนักลงทุนจะได้รู้ว่า หุ้นเหล่านั้นโดนอะไรมาบ้าง และสถานการณ์ในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร? ผนวกกับพวกขาลุยเจ็บตัวกันค่อนข้างเยอะ เดี๊ยนเลยอยากให้แฟนคลับได้รู้ว่า หุ้นที่ลงหนัก ๆ นอกเหนือจากหุ้นบลูชิพมีตัวไหนบ้างเจ้าค่ะ

ประกอบกับวานนี้ดัชนีทรุดตัวลงมากองอยู่ที่ 1,376.09 จุด ลบไป 5.10 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.12 หมื่นล้านบาท จึงเหมือนเป็นการย้ำเตือนนักเล่นให้รู้ว่า ทุกอย่างยังไม่ชัวร์ และอย่าพยายามฝืนธรรมชาติเป็นอันขาด เพราะสิ่งที่หลายคนลืมไปก็คือ ฝรั่งยังขายไม่เลิก ซึ่งเป็นแรงกดดันที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในภาวะขาลงเต็มตัว และไม่มีใครรู้ว่า แนวรับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,350 จุดเอาอยู่ไหม?

สำหรับรายแรกที่เอ่ยถึงบ่อยมากก็คือ DOHOME ซึ่งเป็นหุ้นที่ไหลลงมาไม่ต่ำกว่า 18% และมีสิทธิ์ที่จะไหลลงอีกเรื่อย ๆ เพราะกำลังซื้อของภาคประชาชนอ่อนแอเหลือเกิน รวมทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจก็ไม่ดีเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินกันเอาเองว่า การยืนปิดที่ระดับ 10.30 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 0.96% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 19 ล้านบาท ยังน่าเล่นอ๊ะป่าว?

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น XPG ซึ่งไหลลงอย่างต่อเนื่อง และมีอาการสู้กลับบางครั้ง แต่สุดท้ายก็ไหลลงอยู่ดี และเมื่อนับตั้งแต่ต้นปีจะเห็นว่า ผลตอบแทนจากหุ้นตัวนี้ก็ติดลบในระดับ 18% ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้คนที่ยังถือหุ้นไว้ในมือแทบล้มพับ เดี๊ยนเลยไม่แน่ใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.09 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27 ล้านบาท เหมาะที่จะเข้าไปเสี่ยงจริงไหม?

ส่วนรายที่หายเงียบไปจากหน้ากระดานพักใหญ่ และจนป่านนี้ยังกลับมาไม่ได้ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น FORTH เพื่อชี้ให้เห็นการไหลลงของหุ้นที่มากถึง 20% มันมาจากความกังวลว่า ผลงานจะพลาดเป้าเรื่อย ๆ พวกนักเล่นถึงขายหุ้นออกมาไม่หยุดหย่อน ผนวกกับช่วงนี้ไม่มีสตอรี่ใหม่เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่น วานนี้ถึงเห็นหุ้นยืนปิดอยู่ที่ 17.70 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 4.84% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 83 ล้านบาทไงล่ะคะ

สำหรับรายที่เพิ่งจะมาเป๋ในช่วงต้นปีนี้ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น MONO เป็นลำดับถัดมา เพราะเป็นหนึ่งในหุ้นไหลลงมากถึง 17% ขณะที่การดำเนินงานก็ยังไม่มีอะไรมาพลิกโฉมแบบ 360 องศา เดี๊ยนเลยกังวลว่า การยืนปิดที่ระดับ 0.98 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 1.03% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 ล้านบาท อาจไม่ใช่ราคาต่ำสุดของเที่ยวนี้ เพราะทุกคนเคยเห็นหุ้นลงมาต่ำกว่า 0.80 บาทมาแล้วน่ะซี

ขนาดหุ้นที่ไต่เพดานขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีอย่าง RBF ยังเสียศูนย์กับเขาด้วยในช่วงนี้ “โมนิก้า” เลยต้องเอ่ยถึงความผิดปกติให้นักเล่นได้รู้ เพราะแค่มองจากผลการดำเนินงานที่ยังดูดี และกิจกรรมทางธุรกิจยังเดินหน้าได้ แต่ราคาหุ้นกลับทรุดตัวลงมาถึง 11% ย่อมเป็นเรื่องที่ขัดแย้งในตัวเองมากพอสมควร เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินว่า การยืนที่ระดับ 12.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18 ล้านบาท น่าเก็บไหม?

อีกรายที่ลงหนักจริง แต่เริ่มเด้งกลับเบา ๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มองไปที่หุ้น SJWD เพราะถ้าดูจากการย่อตัวลงมาถึง 11% นับตั้งแต่ต้นปี อาจเป็นเรื่องที่มาจากบรรยากาศลงทุนไม่เป็นใจ แต่ถ้าดูการขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 13.60 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31 ล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่ชวนให้น่าหลงใหลเช่นกัน จึงอยากให้แฟนคลับประเมินกันเอาเองนะจ๊ะ

ก่อนจากกันขอทิ้งท้ายที่หุ้น THREL เพื่อชี้ให้ทุกคนได้เห็นว่า หุ้นตัวนี้อยู่ในทิศทางขาลงเป็นปี และยังไม่รู้ว่า ปีนี้จะฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างไร? “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการทรุดฮวบถึงระดับ 30% มันเป็นการลงที่มากเกินไป หรือยังมีโอกาสลงต่อได้อีก หลังหุ้นยืนปิดที่ระดับ 1.80 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7 ล้านบาทที่เบาบางแบบนี้..มันหมายความว่าไงมิทราบ!

Back to top button