แนวรับ 1,350 จุดใจหายแว๊บ!?

วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยทำให้นักลงทุนใจหายใจคว่ำอีกแล้ว โดยช่วงเช้าลงไปทดสอบที่แนวรับ 1,350 จุด ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาได้บ้าง


วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยทำให้นักลงทุนใจหายใจคว่ำอีกแล้ว โดยช่วงเช้าลงไปทดสอบที่แนวรับ 1,350 จุด ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาได้บ้าง “ลดช่วงลบลง” มาปิดที่ระดับ 1,359.26 จุด ลงไป 3.33 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.97 หมื่นล้านบาท ด้วยสาเหตุหลักก็คงยังเป็นแรงเทขายหุ้นตัวใหญ่ออกมาเป็นตัวกดดันทั้งนั้น และกลุ่มพลังงานจากปัจจัยเฉพาะตัวล้วน ๆ   รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน ก.พ.ออกมาลดลง 0.77% ยังติดลบต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 5 เดี๊ยนเห็นแล้วปวดตับค่ะ

ดังนั้นเดี๊ยนหวังว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดชั่วคราว เพราะจะเห็นว่าระหว่างวันดัชนีดีดกลับขึ้นมาได้บ้าง ส่วนหนึ่งอาจมาจากความคาดหวังว่าช่วงครึ่งปีหลัง (กนง.) อาจปรับลดดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง สอดคล้องไปกับคาดการณ์ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยครั้งแรกเดือน มิ.ย.นี้!! พร้อมกับมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีกกลับมา และหุ้นรายตัวอื่น ๆ เก็งรับประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมาได้!!!

มาเม้าท์ถึงหุ้น HANA กันบ้าง! หลังจากสาละวันเตี้ยลงราคาเข้าเขต Oversold แล้วไม่หลุดแนวรับ 35 บาทนั้น ก็เกิดแรงซื้อกลับขึ้นมาทำให้ปิดที่ระดับ 36.75 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.08% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 799 ล้านบาท “โมนิก้า” เชื่อว่าเรื่องผิดหวังกำไรไตรมาส 4/66 ต่ำกว่านักวิเคราะห์และตลาดคาดการณ์ไว้ โดยรับรู้ไปพอสมควรแล้ว!!! ดังนั้นการเซตเกมใหม่รอบนี้จะพุ่งเป้าไปทิศทางธุรกิจในปี 2567 ล้วน ๆ เจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับรายของ PIN ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นร้อนแรงจนทำออลไทม์ไฮรอบใหม่ สามารถขึ้นมาปิดที่ระดับ 7.30 บาท บวกไป 1.15 บาท หรือขึ้นไป 18.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 574 ล้านบาท “โมนิก้า” เชื่อว่าเป็นความหวังที่มีหวังกับเป้ายอดขายและโอนที่ดินในปี 2567 ว่าจะเพิ่มขึ้น 25% หรือคิดเป็น 750 ไร่ จากปีก่อนเป็นแน่ แต่อย่างไรก็ดีเดี๊ยนอยากให้ใครที่ยังไม่มีหุ้นอดใจรอให้ย่อก่อนดีกว่า แต่ใครมีอยู่แล้วกอดถือได้อยู่ผลงานมันฟ้องอยู่นะอิอิ!!!

เหมือนกับรายของ BDMS ล่าสุดราคาหุ้นดีดกลับขึ้นมาอีกครั้งจนปิดที่ระดับ 28.25 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.09 พันล้านบาท เนื่องด้วยกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติที่สูงขึ้นโดยเฉพาะตลาดใหม่อย่างซาอุฯ และจีนเข้ามาเยอะ ผนวกกับการปรับเพิ่มโควตาประกันสังคมขึ้นเป็น 1.5 ล้านราย พร้อมกับฟากฝั่งนักวิเคราะห์ประเมินกำไรปี 2567 ไว้ที่ 1.58 หมื่นล้านบาท เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับลองไปประเมินว่ามันน่าสนใจมั้ยแม่!

คล้ายกับรายของ SUN ฝ่ายนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มประมาณการรายได้ขึ้นจากเดิมอีก 8% เป็น 4.08 พันล้านบาท เนื่องจากไม่ต้องกังวลอุปทานข้าวโพดหวานในปีนี้นั้นเอง พร้อมกับปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ขึ้นอีก 11% เฉียด 400 ล้านบาท งานนี้ทำให้เดี๊ยนคลายข้อสงสัยไปเลยว่าที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 6 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38 ล้านบาท เป็นเพราะอะไรทุกอย่างเห็นคำตอบอยู่แล้วค่ะ

ปิดท้ายรายของ TU ราคาหุ้นเกิดเทคนิเคิลรีบาวด์ขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.30 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 230 ล้านบาท เป็นการดีดตัวขึ้นหลังปรับตัวลงจนลึกเข้าเขต Oversold ประกอบกับในช่วงนี้อย่าลืมว่าเป็นระยะเวลาของโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทฯ อยู่จนไปถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2567 ด้วยจำนวน 200 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.30% จากล่าสุดซื้อไปเพียงเศษเสี้ยวเองราว 0.14% ดังนั้นเดี๊ยนว่าจากที่ราคาลงมาถึงเหมาะในการเข้าเก็บติดปลายนวมนะจ๊ะ

Back to top button