หลุดแล้ว..ต้องขาย

สิ่งเดียวที่ “โมนิก้า” โฟกัสมากสุดก็คือ “ฝรั่งขายไม่หยุด” (วานนี้ขายอีก 3.56 พันล้าน) เพราะเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยซึมลงอีกครั้ง


สิ่งเดียวที่ “โมนิก้า” โฟกัสมากสุดก็คือ “ฝรั่งขายไม่หยุด” (วานนี้ขายอีก 3.56 พันล้าน) เพราะเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยซึมลงอีกครั้ง และดูเหมือนเที่ยวนี้จะหนักกว่าเที่ยวก่อน ๆ เพราะเป็นการขายท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซา และการเมืองซวนเซ รวมทั้งสภาพสังคมแปรปรวนหนัก เดี๊ยนเลยกังวลว่า แนวรับสำคัญบริเวณ 1,350 จุดก็เอาไม่อยู่แบบนี้ มันเป็นจังหวะที่ต้องตัดใจขายแล้วน่ะซี

เนื่องจากสิ่งที่เห็นเที่ยวนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนเยอะมาก ซึ่งทำให้การอ่อนตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,349.83 จุด ลบไป 12.87 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.41 หมื่นล้านบาท กลายเป็นเรื่องที่ต้องลุ้นระทึกอีกวัน และบังคับให้ดัชนีต้องเด้งกลับเมื่อลงมาถึงแนวรับ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยตอนนี้ มันมีเรื่องไหนที่ทำให้รู้สึกชื่นใจบ้างไหม? เพราะสิ่งที่เห็นมีแต่เรื่องรบกวนใจทั้งนั้นพะย่ะค่ะ

งานนี้ใครจะหาว่า เดี๊ยนเป็นพวกใจเสาะก็ช่างหัวปะไร! เพราะสิ่งที่เห็นก็คือรัฐบาลมัวแต่จมปลักอยู่กับเรื่องเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินดิจิทัลหมื่นบาท และฟอกขาวเรื่องข้าว 10 ปี ขณะที่การประชุมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่โพนทะนาไปทั่ว ก็เป็นเพียงปาหี่ที่หวังให้คนรู้สึกมีหวัง “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกคนวิเคราะห์ประเด็นดังกล่าวมันจูงใจให้ฝรั่งต้องนอนกอดหุ้นไทยต่อไปเหรอจ๊ะ

ขนาดหุ้นลูกอ๊อด AOT ซึ่งเป็นหุ้นตัวท็อปที่ฝรั่งชอบเล่น ยังถูกรินขายออกมาเรื่อย ๆ น่าจะมาจากเรื่องเข้าสู่โลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยว จึงเป็นจังหวะของการลดพอร์ตเพื่อไปรอซื้อในราคาต่ำกว่า เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่วานนี้ราคาหุ้นยืนปิดที่ระดับ 63.50 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 1.93% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.62 พันล้านบาท เพราะเกมธุรกิจมันไม่เอื้อให้ราคาหุ้นสวนกระแสไงล่ะคะ

เช่นเดียวกับเจ้าพ่อร้านสะดวกซื้อ CPALL ก็มีทิศทางการเคลื่อนตัวที่ไม่ต่างจากรายข้างต้น และดูเหมือนเที่ยวนี้จะมีแนวโน้มไหลลงมาทดสอบแนวรับ 54 บาทค่อนข้างสูง เพราะเมื่อดูสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้น และเงินในกระเป๋าผู้คนลดลงเรื่อย ๆ เดี๊ยนเลยมองไม่เห็นหนทางที่หุ้นตัวนี้จะเบ่งกำไร จึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 56.75 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.16 พันล้านบาทน่าเข้าไปรับหรือยัง?

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงเจ้าพ่อมือถือ ADVANC เพื่อชี้ให้เห็นการเคลื่อนตัวเที่ยวนี้ดูหงอย ๆ และไหลไปตามกระแสเป็นส่วนใหญ่ เหมือนเป็นจังหวะของการ “wait & see” มากกว่าตะลุยซื้อ ผนวกกับพวกฝรั่งอยู่ในช่วงของการโยกเงินออก จึงทำให้สถานการณ์ของหุ้นไม่มั่นคงสักเท่าไหร่ และทำให้การยืนปิดที่ระดับ 204 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 1.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 995 ล้านบาท น่าเสียวไส้เจ้าค่ะ

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เดี๊ยนต้องเอ่ยถึงหุ้น CPAXT แบบเร่งด่วน หลังราคาหุ้นโรยตัวลงต่อเนื่อง แถมวานนี้โดนรินขายตลอดทั้งวัน จนราคาหุ้นลงมาปิดที่ระดับ 27.50 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 527 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการถอยเต็มตัว เพราะราคาหุ้นลงมาจากบริเวณ 34 บาทแบบไม่มีดิสเบรก เลยอนุมานได้ว่า โลว์เก่าที่บริเวณ 25.25 บาทอาจเอาไม่อยู่จ้า!

ตรงกันข้ามกับในรายของ BEM อย่างสิ้นเชิง เพราะการร่วงลงของราคาหุ้นมักตามมาด้วยการดีดกลับเป็นประจำ ผนวกกับทุกคนเห็นจำนวนคนใช้ทางด่วน และรถใต้ดินเป็นจำนวนมาก “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 7.90 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 420 ล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะของการช้อนหุ้น เพื่อเอาไปขายตอนเด้งกลับ ซึ่งท่านี้เล่นกันมาแล้วร่วม 3 เดือนนะจะบอกให้

ตบท้ายกันที่หุ้นปั๊มน้ำมัน OR เพื่อชี้ให้เห็นโมเมนตัมของหุ้นไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แถมการเคลื่อนก็มาในรูป W-Shape โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 17.60-18.90 บาทเป็นเวลา 3 เดือน เดี๊ยนเลยไม่แน่ใจว่า เที่ยวนี้จะเป็นเหมือนเที่ยวก่อน ๆ หรือเปล่า? เพราะเศรษฐกิจก็ซบเซาเหลือเกิน และผลงานของบริษัทก็ไม่ดีเหมือนที่คาดหวัง จึงรู้สึกหวั่นใจเมื่อเห็นราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 17.80 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 224 ล้านบาทน่ะซี

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button