ACG บริการเสิร์ฟกำไร.!

เห็นสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว ในไตรมาสแรกปี 2568 (ม.ค.-มี.ค. 2568) ยอดขายอยู่ที่ 153,193 คัน ลดลง 6.5%


เห็นสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว ในไตรมาสแรกปี 2568 (ม.ค.-มี.ค. 2568) ยอดขายอยู่ที่ 153,193 คัน ลดลง 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบรรดาแบรนด์หลักยอดขายร่วงทุกค่าย ยกเว้น GWM, ฉางอัน และเกีย ที่ยอดขายยังเติบโต…แน่นอน ทำให้นักลงทุนกังวลว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์งบจะไม่ดีไปด้วยแน่ ๆ…

ปรากฏว่าบริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ในนาม “ฮอนด้ามะลิวัลย์” รวมทั้งศูนย์บริการรถยนต์ทุกยี่ห้อประเภทเร่งด่วน (Fast Fit) ภายใต้แบรนด์ “ออโตคลิก” (AUTOCLIK) กลับโชว์งบไตรมาส 1/2568 เติบโตกว่า 50% มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.71 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 7.10 ล้านบาท

เอ๊ะ…น่าสนใจ ACG โตจากอะไร..?? ทำไมถึงโตสวนตลาดรถยนต์ที่หดตัวได้ล่ะเนี่ย..??

พอไปส่องไส้ใน ตัวรายได้หลักจากการจําหน่ายรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่ง ซึ่งมีสัดส่วน 53.12% ของรายได้รวม ก็ลดลงนะ อยู่ที่ 205.83 ล้านบาท ลดลง 22.12% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 264.28 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากปริมาณยอดขายรถยนต์ลดลง 17.74%

ส่วนรายได้ค่านายหน้าอยู่ที่ 8.28 ล้านบาท ลดลง 12.75% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 9.49 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณยอดจําหน่ายรถยนต์ที่ลดลง ส่งผลให้รายได้ค่านายหน้าจากการจัดหาสินเชื่อและประกันภัยรถยนต์ลดลง ซึ่งจะมีแนวโน้มตามปริมาณยอดจําหน่ายรถยนต์ ด้านรายได้อื่นอยู่ที่ 2.68 ล้านบาท ลดลง 10.37% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 2.99 ล้านบาท

อ้อ…ที่แท้ตัวเสิร์ฟกำไร ACG ในไตรมาสนี้ เป็นรายได้จากงานบริการซ่อมบํารุงและจําหน่ายอะไหล่นี่เอง…โดยปรับเพิ่มขึ้น 7.26% มาอยู่ที่ 170.71 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 159.15 ล้านบาท

สาเหตุมาจากธุรกิจตัวแทนจําหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์มีรายได้เพิ่มขึ้น 6.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.96% เนื่องจากรายได้ต่อคันของรถเข้ารับบริการในส่วนงานเช็กระยะและซ่อมบํารุงทั่วไปเพิ่มขึ้น 1.71% และส่วนงานซ่อมตัวถังและสีเพิ่มขึ้น 10.62%

โดยเฉพาะธุรกิจ Fast Fit ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 10.38% เนื่องจากมีจํานวนรถยนต์ที่เข้ารับบริการเพิ่มขึ้น 6.82% และรายได้ต่อคันของรถเข้ารับบริการเพิ่มขึ้น 9.92% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2567

ดีนะเนี่ยที่ ACG มีตัวช่วย ไม่งั้นก็คงแย่ตามตลาดรถยนต์ที่หดตัวไปแล้ว

นอกจากมีตัวหนุนแล้ว การบริหารจัดการต้นทุนในไตรมาสนี้ก็ถือว่าทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนขายและบริการลดลง 12.86% อยู่ที่ 315.39 ล้านบาท ส่วนต้นทุนในการจัดจำหน่ายลดลง 7.88% อยู่ที่ 14.74 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 5.59% อยู่ที่ 37.97 ล้านบาท ด้านต้นทุนทางการเงินลดลง 26.05% อยู่ที่ 4.23 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ลดลง 9.53% อยู่ที่ 4.46 ล้านบาท

โดยในไตรมาสนี้ ACG มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16.24% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ซึ่งอยู่ที่ 14.52% และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 2.76% เพิ่มขึ้นจาก 1.63% ในไตรมาส 1/2567

ที่น่าจับตา คงเป็นธุรกิจ Fast Fit ภายใต้แบรนด์ “ออโตคลิก” ซึ่งในตลาดแม้จะมีเจ้าใหญ่หลากหลายแบรนด์ อาทิ บี-ควิก, ค็อกพิต-ออโต้บอย (บริดสโตน), ฟิต ออโต้ (ปตท.), ออโต้แบคส์ (พีทีจี) ฯลฯ แต่ธุรกิจนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะอันดับหนึ่งครองส่วนแบ่งการตลาด 10-15% มีสาขาสองร้อยกว่าแห่ง แต่ผู้เล่นที่เหลืออีกหลายรายมีสาขาหลักสิบแห่ง ในขณะที่ “ออโตคลิก” ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 15 สาขา จึงมีโอกาสที่จะขยายสาขาได้ต่อเนื่อง ภายใต้จุดขาย “จ่ายหลักร้อย…รับบริการแบบหลักหมื่น”

ที่สำคัญ เป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูงด้วยนะ เลยทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ…

งั้นถ้าให้เดา…หลังจากนี้ ACG คงปรับแผนหันมาเร่งสปีดขยายสาขา “ออโตคลิก” อ๊ะป่าว..??

ขณะที่วานนี้ (8 พ.ค. 2568) หุ้น ACG ตอบรับงบสวยด้วยการพุ่งปรี๊ดดดไปแตะที่ระดับสูงสุด 0.85 บาท ก่อนจะย่อตัวมาปิดตลาดที่ 0.75 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 10.29%

แหม๊…ถ้าเป็นไปได้อยากเห็น ACG โชว์งบสวยทุกไตรมาสจัง…ฝาก “เฮียภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์” ด้วยนะเจ้าคะ

…อิ อิ อิ…

Back to top button