พาราสาวะถี

ปรากฏตัวแค่งานเดียว ดูเหมือนว่า ทักษิณ ชินวัตร จะสามารถบรรลุเป้าหมายในการสื่อสารประเด็นร้อนที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง และพัวพันไปถึงรัฐบาลได้แทบทั้งหมด ไล่ตั้งแต่เรื่องมติแพทยสภาที่สัมพันธ์กับคดี ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ไม่ใช่แค่การบอกว่าอย่าสนใจตนจะไปหรือไม่ไปศาลในวันดังกล่าว นายใหญ่ยังพูดถึงแพทยสภา ตั้งคำถามเกี่ยวกับจริยธรรมของหมอบางคน ที่ปรากฏมีไลน์กลุ่มหลุดออกมา มีการด่าตัวเอง พร้อมกับมีการรับลูกกันด้วย โดยที่การพิจารณายังไม่ได้เริ่ม อย่างนี้เรียกว่ามีปัญหาด้านจริยธรรมเสียเองหรือไม่

พอส่งสัญญาณแบบนี้ ที่จะต้องรับบทหนักคงหนีไม่พ้น สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา ที่จะต้องเป็นผู้ชี้ขาดว่าเห็นชอบมติที่แพทยสภาเสนอลงโทษหมอ 3 รายก่อนหน้านี้หรือไม่ ในกรณีนี้ทักษิณบอกว่าเชื่อสมศักดิ์มีข้อมูลทุกอย่าง และต้องคิดเยอะ ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามกันต่อไป ไม่เพียงเท่านั้น นายใหญ่ยังถือโอกาสการมาร่วมงานป.ป.ส.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ย้ำถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล

มีการโชว์ภาพกอดคอ อนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทยสามารถกอดคอทำงานร่วมกันได้ต่อไป เท่ากับเป็นการตอกย้ำการอยู่ร่วมกันของสองพรรคจะมีการแบ่งบทกันเล่น ในฝ่ายนิติบัญญัติ สส.ของแต่ละฝ่ายก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป ปมฮั้วเลือกสว.ก็เป็นสิ่งที่ทีมกฎหมายของพรรคสีน้ำเงินต้องทำงานอย่างแข็งขัน ทางเพื่อไทยอาจลอยตัวในประเด็นนี้ เพราะดีเอสไอไม่ได้อยู่ในความดูแลของรัฐมนตรีสังกัดพรรคแกนนำรัฐบาล

ขณะที่การทำงานในฝ่ายบริหารบรรยากาศถือว่าเป็นไปด้วยดี โดย แพทองธาร ชินวัตร ย้ำแล้วย้ำอีกแฮปปี้กับครม.ชุดนี้ ด้านเสี่ยหนูก็ยกยอปอปั้น และพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าทำงานแบบถวายหัว ฟังคำสั่งจากนายกฯ หญิงแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นจึงมองไม่เห็นหนทางที่รัฐนาวาจะถึงทางตัน ไม่ต้องพูดถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่เข้าสู่ที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญและอยู่ระหว่างการถกกันในเวลานี้ ยังไงก็ผ่านฉลุย

สถานการณ์การเมืองกับการเกิดขึ้นของรัฐบาลพลิกขั้ว โอกาสที่จะเกิดการหักมุมเหมือนยุคของการสร้างความขัดแย้งแตกแยกเป็นไปได้ยาก มิเช่นนั้นทักษิณคงไม่พูดบนเวทีหนล่าสุดว่าการปล่อยข่าวตนเองจะหนีไปต่างประเทศ เป็นนิยายน้ำเน่า แต่งนิยายจินตนาการเลอะเทอะ หลอกไปหลอกมาเชื่อตัวเองอีก ถึงขนาดบอกว่าแพทองธารไปรอที่ลอนดอน และตนจะหนีตามไป เป็นเรื่องที่ตลก วันนี้คนไทยต้องตั้งหลักให้ดี อย่าให้คนจูงได้ง่าย

ไม่เพียงเท่านั้น นายใหญ่ยังชี้ให้เห็นต้นตอของพวกปล่อยข่าว สร้างข่าวปลอมด้วยว่า เฟกนิวส์มาจาก 2 ช่องทาง คือหนังสือพิมพ์ที่ไม่มีคนอ่านแล้วและทีวีตกรุ่น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าสื่อออนไลน์ของสังคมไทยไม่มีการเซ็นเซอร์ อย่างหลังนี้คงได้แค่ระบายแต่ไม่น่าจะเข้าไปจัดระเบียบ เพราะอาจเจอแรงกระเพื่อมขนาดใหญ่ ส่วนสองสื่อที่อ้างถึงคงไม่ต้องบอกว่าหมายถึงสำนักไหน การใช้สงครามข่าวสารเพื่อปลุกระดม หลังหมดยุคม็อบนกหวีด ไม่มีทางที่ใครจะทำได้สำเร็จอีก ด้วยเหตุผลอะไรคนส่วนใหญ่รู้กันดี

สอดรับกับท่วงทำนองของผู้เป็นพ่อ แพทองธารให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุมสภาฯ ถกงบปี 2569 ย้ำความสัมพันธ์รัฐบาลเป็นไปด้วยดี พร้อมยอมรับทุกพรรคการเมืองมีความเห็นไม่ตรงกันจริงหลายเรื่อง แต่ไม่ได้แตกกัน ไม่ได้งัดกัน ความเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ แต่ทุกความสัมพันธ์ถ้าขัดกันแล้วปรับความเข้าใจกันได้ ก็จะเข้าใจกันมากขึ้น ตรงนี้เป็นเรื่องปกติ ตนไม่ได้ซีเรียส ก่อนจะย้อนสื่อว่าเป็นคนส่งสัญญาณเปลี่ยนตัวนายกฯ หรือเปล่า ตามมาด้วยลูกอ้อน อย่าเพิ่งเบื่อกัน ถ้ามีอะไรก็บอกได้

ลีลาทางการเมืองเหมือนลูกไม้หล่นใต้ต้น ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะรับมือกับแรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ไม่ได้ ยิ่งเป็นเรื่องของพวกเดียวกัน ไม่มีอะไรที่จะคุยกันไม่ได้ ความอึดอึดของสมาชิกหรือสส.บางราย บางกลุ่ม เป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ แต่ต้องยึดประโยชน์ของส่วนใหญ่เป็นหลัก ทั้งประโยชน์ของพรรคต้นสังกัด และผลลัพธ์ที่ดีจากการเป็นฝ่ายกุมอำนาจ อย่างน้อยหากสามารถปั้นผลงานให้เป็นที่ยอมรับได้ มันหมายถึงต้นทุนทางการเมืองสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเพิ่มขึ้น

ว่ากันว่าการเคลื่อนไหวว่าด้วยยาเสพติดที่ทักษิณขึ้นเวทีเปิดประเด็นสงครามรอบใหม่ ตามด้วยการประกาศให้ว้าแดงเลิกผลิตนั้น สะท้อนให้เห็นถึงการศึกษา และเข้าใจขบวนการค้ายานรกได้เป็นอย่างดี และรู้อยู่เต็มอกว่าแอ็กชันแบบนี้ต้องตกเป็นเป้าโจมตีของฝ่ายตรงข้าม โทษฐานชี้นำ ครอบงำนายกฯ หรือรัฐบาล แต่งานนี้ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ คำชี้แนะจากผู้มากประสบการณ์ และยังมีฐานะเป็นพ่อด้วย ย่อมเป็นสิ่งที่คนส่วนมากพร้อมให้การสนับสนุน และเชื่อว่าแพทองธารจะเดินตามผู้เป็นบิดาได้

ส่วนเสียงสนับสนุนในสภา ฟังจากการอภิปรายร่างงบประมาณวันแรกแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงรัฐบาลเลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุใด ๆ เพราะสส.ฝ่ายค้านจำนวนไม่น้อย แม้จะรู้กันอยู่ว่าพร้อมยกมือโหวตให้ฝ่ายกุมอำนาจในทุกเรื่อง นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่ามือประสานสิบทิศทำงานได้ผล แพทองธารและแกนนำพรรคเพื่อไทยไม่ต้องกังวลว่าจะเดินต่อไม่ได้ หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่นที่เหนือความคาดหมาย จะอยู่กันได้ครบเทอมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำรัฐบาลว่าจะกำหนดเกมไว้อย่างไร

หากฟังจากบทสัมภาษณ์ของนายใหญ่ที่ว่า อยู่กันจนจบแน่นอน ไม่ต้องห่วง ไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ กลางคันตามที่มีคนคอยปั่นแน่ ส่วนยุบสภาเลือกตั้งใหม่ยังอีกนาน ไม่ใช่ตอนนี้ อาจจะออกลูกกำกวม แต่มองเห็นแนวโน้มได้ว่าจะออกแบบไหน ทุกอย่างขึ้นกับสถานการณ์ข้างหน้า ถ้าสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ก็ปักหลักลากยาว ฝันถึงคะแนนเสียงที่จะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายกำชัยได้ แต่ในทางตรงข้ามเกิดปมที่ไม่คาดคิด หรือใกล้หมดวาระแล้ว เห็นว่าเป็นจังหวะได้เปรียบก็จะชิงยุบสภา

อรชุน