
พาราสาวะถี
ไม่ได้แสดงความตระหนกตกใจกับสถานการณ์ตึงเครียดชายแดน จากเหตุปะทะที่ช่องบก อุบลราชธานี ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาฮึ่ม ๆ พร้อมยกระดับการสู้รบเพื่อรักษาพื้นที่
ไม่ได้แสดงความตระหนกตกใจกับสถานการณ์ตึงเครียดชายแดน จากเหตุปะทะที่ช่องบก อุบลราชธานี ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาฮึ่ม ๆ พร้อมยกระดับการสู้รบเพื่อรักษาพื้นที่ที่อ้างว่าเป็นของตัวเองทั้ง ฮุน เซน ผู้พ่อและ ฮุน มาเน็ต คนลูก ในฐานะผู้นำรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร คงเข้าใจดีว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด ต่อให้กลไกเจรจาดำเนินไปด้วยดี มีข้อสรุปร่วมกันอย่างสวยหรูอย่างไร แต่อีกฝ่ายตั้งธงไว้แล้วว่าจะต้องให้เป็นไปแบบไหน มันก็ป่วยการที่จะพูดถึงหลักการ หรือกลไกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในรูปแบบปกติ
หากจะบอกว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้น หวังผลทางการเมือง ต้องมีคำถามต่อมาว่าเป็นการเมืองของประเทศไหน ส่วนของไทยคงไม่ต้องลงทุนถึงขนาดนี้เพื่อที่จะกลบกระแสข่าวร้อนต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้าหารัฐบาล ถ้าจะบอกว่า เป็นการปลุกกระแสชาตินิยมเพื่อสร้างบารมีทางการเมืองของลูกชายตระกูล “ฮุน” เป็นการสลัดภาพถูกครอบงำ อาศัยพลังจากพ่อมาช่วยในการบริหารประเทศ ท่าทีที่แสดงออกต่อเรื่องนี้ย่อมได้เกิด และสร้างคะแนนนิยมได้มหาศาล
ส่วนงานความรับผิดชอบของกองทัพ จะเห็นได้ว่าระดับปฏิบัติการทำหน้าที่ได้อย่างแข็งขัน ระดับผู้บังคับบัญชาการก็เดินเกมการเจรจา และใช้ยุทธวิธีตามหนทางที่ควรจะเป็น ส่วนฝ่ายบริหารที่เป็นภาคการเมืองผู้กำกับดูแลกองทัพนั้น ก็ทำได้แค่การสั่งการตามกระบวนการ และขั้นตอน เพราะหากแสดงท่าทีที่จะเอื้อให้กับการเมืองระดับชาติ และผูกโยงเข้ากับการเมืองระหว่างประเทศ ย่อมกระทบต่อสายสัมพันธ์กับคนมีสีที่ต้องรักษาระยะห่าง และความสมดุลของการใช้อำนาจระหว่างกันให้ดีที่สุด
ปัญหาว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจสำหรับนายกฯ หญิง เรื่องใหญ่ที่ต้องออกแรงมหาศาล แต่ก็เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ หลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ผ่านการรับหลักการจากสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว จะตามมาด้วยการปรับ ครม.เหมือนที่พ่อนายกฯ ต้องการ หนนี้ส่งสัญญาณแรงเสียด้วย เพราะ ทักษิณ ชินวัตร ประกาศชัดขอกระทรวงมหาดไทยกลับมาอยู่ในความดูแลของพรรคเพื่อไทย
ทั้ง ๆ ที่เพิ่งแสดงความรักกับ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยในฐานะ มท.1 โดยการโชว์โอบไหล่ผ่านสื่อ เป็นการตอกย้ำภาพการเมืองอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น แต่ระดับเสี่ยหนูเมื่อต้องคืนเก้าอี้กระทรวงใหญ่ขนาดนี้ ต้องมีตำแหน่งแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ เวลานี้มีการพูดถึง 3 กระทรวงที่พรรคแกนนำรัฐบาลยื่นเงื่อนไขคือ กระทรวงสาธารณสุข พาณิชย์ และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แนวโน้มน่าจะเป็นกระทรวงแรกมากกว่าถ้าจะให้สมน้ำสมเนื้อ
เพราะกระทรวงดีอีนั้น ตามข่าวภายในเพื่อไทยได้มีการวางตัวบุคคลที่เหมาะสมมาสืบทอดตำแหน่ง แทน ประเสริฐ จันทรรวงทอง เจ้ากระทรวงคนเดิมที่จะข้ามห้วยไปกุมบังเหียนกระทรวงคลองหลอดกันแล้ว ถามว่าที่เสี่ยหนูเคยประกาศหากจะขอคืนต้องออกแรงกันหน่อย แล้วจะไม่หือไม่อือกันเลยหรืออย่างไร ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ จะมาประกาศทวงเก้าอี้กันออกสื่อ เท่ากับการไม่ให้เกียรติ ทุกอย่างล้วนผ่านการคุยกันเบื้องต้น ด้วยเหตุและผล แม้อีกฝ่ายอาจจะยังไม่ค่อยพอใจก็ตาม
ทางเลือกการเมืองเพื่อรองรับการเลือกตั้งที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 ปี จำเป็นที่จะต้องตัดสินใจกันให้เด็ดขาด ความหวังที่จะสร้างผลงานจากนโยบายด้านเศรษฐกิจกับห้วงเวลาที่เหลือ นายใหญ่ประเมินแล้วว่าน่าจะลำบาก จึงเหลือทางเลือกเดียวที่จะทำให้เกิดคะแนนนิยมได้อย่างล้นหลามคือ ใช้กลไกของฝ่ายปกครองอย่างมหาดไทย เพื่อเดินหน้าเข้มข้นกับนโยบายปราบปรามยาเสพติด โดยมีแพทองธารเป็นหัวขบวน หากให้พรรคอื่นดูแล ก็จะเกิดภาวะยักแย่ยักยัน สุดท้ายผลงานที่จะปรากฏก็จะถูกเคลมไปเสียฉิบ
เมื่อมีความจำเป็นเช่นนี้จึงต้องสื่อสารกันแบบตรง ๆ ประกอบกับการที่มือทำงานประสานสิบทิศ สามารถกวาดต้อน สส.จากฝ่ายตรงข้าม มาเป็นกำลังสนับสนุนสำคัญของรัฐบาล จึงทำให้พ่อนายกฯ มั่นใจต่อเสถียรภาพของรัฐบาล โดยไม่กังวลว่า 69 เสียงของพรรคสีน้ำเงินจะสร้างปัญหา ประกอบกับคดีฮั้วเลือก สว.ที่ไปอยู่ในความดูแลของ กกต.แล้ว แนวโน้มค่อนข้างที่จะชัดว่า โอกาสที่ภูมิใจไทยจะเสียพลังในการต่อรองจากเสียงของ สว.สายสีน้ำเงินมีสูง
ภายใต้การเมืองที่ต่างก็รู้ว่า ไม่มีใครอยากจะไปเป็นฝ่ายค้าน การพูดเปิดทางของอนุทินที่บอกว่าพร้อมจะทำงานร่วมกับพรรคประชาชน เป็นเพียงการแยกเขี้ยวขู่แต่ไม่มีน้ำหนักแล้วในเวลานี้ หากเป็นช่วงก่อนหน้าอาจฟังแล้วทรงพลัง ประกอบกับเห็นความเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติ ยิ่งทำให้เห็นว่าการเมืองภายในพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มมีปัญหา สิ่งเหล่านี้หนีไม่พ้นถูกโยงไปว่าพรรคแกนนำอาจรู้เห็น แต่ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องผลประโยชน์ที่ไม่ใช่ประโยชน์เฉพาะหน้า แต่หมายถึงการเมืองหลังเลือกตั้งครั้งต่อไป
การยึดกระทรวงมหาดไทยคืนของนายใหญ่ ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงเพื่อการขจัดปัญหายาเสพติดเท่านั้น แต่ยังมองไปถึงการใช้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจลงไปสู่หมู่บ้าน ชุมชน ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ฟากเสี่ยหนูถ้าได้หวนกลับไปคุมกระทรวงคุณหมอ ก็เหมือนได้กลับไปบ้านหลังเก่าที่มีความสนิทชิดเชื้อ อันถือได้ว่าเป็นฐานสำคัญที่ทำให้เจ้าตัวสร้างผลงาน และส่งผลดีต่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาด้วย หากมองจากเงื่อนเวลาที่เหลืออีกเกือบครึ่งเทอมก็ถือว่า มากพอที่จะใช้ประโยชน์ทางการเมืองได้
เบื้องต้นเงื่อนไขถูกวางไว้กันแบบนี้ แต่ยังมีปลีกย่อยที่ขึ้นชื่อว่าพรรคจอมเขี้ยว ชั้นเชิงการต่อรองไม่เป็นสองรองใคร คงมีการยื่นข้อเสนอที่จะขอเข้าไปสอดแทรกคุมบางกระทรวงในฐานะรัฐมนตรีช่วย ที่ทำให้คนของพรรคสามารถสร้างประโยชน์ทางการเมือง และสะสมกระสุนสู้ศึกเลือกตั้งได้อย่างกระทรวงคมนาคม อยู่ที่ว่านายใหญ่จะยอมหรือไม่เท่านั้น เพราะคนที่มีอยู่ถือว่าเป็นเด็กในคาถาที่ไว้วางใจแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะอย่างไร ไทม์ไลน์ที่พูดคุยกันการเขย่าเก้าอี้เสนาบดีถ้าจบก่อนวันที่ 13 มิถุนายนนี้ แสดงให้เห็นว่าทักษิณก็ไม่มั่นใจชะตากรรมของตัวเองเหมือนกัน แต่ถ้าช้าไปกว่านั้นนั่นหมายถึงทางข้างหน้าไม่มีอะไรให้ติดขัด
อรชุน