
Eli Lilly จากยาสู่ตัดต่อพันธุกรรม
หลัง Eli Lilly ประกาศรุกเทคโนโลยีตัดต่อพันธุกรรม ด้วยการเดินหน้าเจรจาขั้นสุดท้ายด้วยการซื้อกิจการ Verve Therapeutics
หลัง Eli Lilly ประกาศรุกเทคโนโลยีตัดต่อพันธุกรรม ด้วยการเดินหน้าเจรจาขั้นสุดท้ายด้วยการซื้อกิจการ Verve Therapeutics บริษัทสตาร์ทอัพผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี CRISPR และ Base Editing เน้นการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ที่ถือเป็นกลุ่มโรคที่ต้องการแนวทางรักษาใหม่
ดีลนี้จะช่วยเสริมวงจรอุตสาหกรรมยาของ Eli Lilly และต่อยอดสู่เทคโนโลยีการแพทย์ในอนาคต
มีการประเมินมูลค่าดีลนี้น่าจะสูงถึงกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 43,000 ล้านบาท) สูงกว่าราคาตลาด 2 เท่า..เลยทีเดียว
ว่ากันว่าตามเงื่อนไข Eli Lilly จ่ายทันที 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 33,000 ล้านบาท) และอีก 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9,900 ล้านบาท) ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขความสำเร็จของโครงการ
หลังประกาศดีลดังกล่าว ส่งผลให้ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้น Verve ปรับขึ้นกว่า 73%
ดีลการเข้าซื้อ Verve Therapeutics ถือเป็นหนึ่งในดีลการเข้าซื้อกิจการปีนี้ของ Eli Lilly
ก่อนหน้านี้ Eli Lilly เข้าซื้อ Scorpion Therapeutics มูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 82,500 ล้านบาท) และ SiteOne Therapeutics มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 33,000 ล้านบาท) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านยารักษามะเร็งและยาระงับปวดแบบไม่ใช้โอปิออยด์ ตามกลยุทธ์ Eli Lilly ที่ต้องการเติมเต็มเทคโนโลยี จากเดิมยังไม่มีภายในบริษัท
ที่ผ่านมา Eli Lilly มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องจากยาลดน้ำหนักและเบาหวาน อย่าง Mounjaro และ Zepbound ที่มียอดขายดีทั่วโลก ส่งผลให้มีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการลงทุนเทคโนโลยีใหม่ โดยไม่กระทบกำไรหรือเสถียรภาพทางการเงินบริษัท..!!
สำหรับ Eli Lilly & Co.(LLY,Lilly) เป็นบริษัทอเมริกันเก่าแก่ก่อตั้งขึ้นปี 1876 จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ปี 1952 เป็นผู้นำด้านเภสัชกรรมระดับโลกที่ค้นคว้า พัฒนา ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ในกลุ่มยาสำหรับมนุษย์ ผลิตภัณฑ์บริษัทครอบคลุมด้านโรคเบาหวาน (GLP-1) โรคอ้วนและโรคหัวใจและหลอดเลือด
มีชื่อผลิตภัณฑ์ เช่น Basaglar, Humalog,Mounjaro,Trulicity และ Zepbound ด้านมะเร็งมีผลิตภัณฑ์ เช่น Alimta, Retevmo, Tyvyt และ Verzenio ด้านภูมิคุ้มกันวิทยา มี Ebglyss, Olumiant, Omvoh และ Taltz ส่วนด้านประสาทวิทยา มี Cymbalta และ Emgality รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น Cialis และ Forteo
ปัจจุบัน Eli Lilly เป็นบริษัทยาที่มีมูลค่าตามราคาตลาดมากสุดในโลก ที่ระดับ 860,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ช่วงปี 2020-2024 รายได้ Eli Lilly เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ได้รับแรงหนุนจากยารักษาโรคเบาหวาน Mounjaro และโรคอ้วน Zepbound ที่บริษัทเริ่มรับรู้รายได้ปี 2022 และ 2023 ตามลำดับ
ส่งผลให้ปี 2024 ทำรายได้ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,485,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 32% และเป็นสถิติรายได้สูงสุดของบริษัท..โดยรายได้จาก Mounjaro อยู่ที่ 11,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 379,500 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปี 2023 และคิดเป็นสัดส่วน 26% ของยอดรวม
ขณะที่ Zepbound ทำรายได้ปี 2024 ทะลุ 4,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 161,700 ล้านบาท) เทียบกับปี 2023 ที่มีรายได้ 176 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5,800 ล้านบาท) ส่วนการเปิดตัว Mounjaro ในตลาดใหม่และข้อบ่งใช้เพิ่มเติม รวมทั้งยาที่พึ่งเปิดตัว (Ebglyss, Jaypirca, Kisunla และ Omvoh) จะดันรายได้เติบโตต่อเนื่องปี 2025