กองทุนลุยหุ้นสุดซอย!

หากดูตามทฤษฎีเงินไหลเข้าที่อิงจากเรื่องเงินบาทแข็งเป็นหลัก อีฉันก็พบว่า ตอนกำลังปั่นต้นฉบับค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.31 บาท ซึ่งเป็นการแข็งค่าต่อเนื่องจากวันก่อน และมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าต่อไปเรื่อย ๆ


หากดูตามทฤษฎีเงินไหลเข้าที่อิงจากเรื่องเงินบาทแข็งเป็นหลัก อีฉันก็พบว่า ตอนกำลังปั่นต้นฉบับค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.31 บาท ซึ่งเป็นการแข็งค่าต่อเนื่องจากวันก่อน และมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าต่อไปเรื่อย ๆ จึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจเหตุผลที่ทำให้ดัชนีทะยานขึ้นมายืนที่ระดับ 1,277.43 จุด บวกไป 18.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7 หมื่นล้านบาท ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยดูดีต่อเนื่องงพะยะค่ะ

ประกอบกับกองทุนกลับมาสวมบทป๋าดันด้วยการลุยซื้อหุ้นแบบสุดซอย จึงเชื่อว่า ดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,300 จุดในไม่ใช่ช้า ซึ่งเปรียบเทียบได้ง่าย ๆ จากยอดซื้อวานนี้ที่ทะลุขึ้นไปถึง 7.77 พันล้านบาท มันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และถ้าเป็นการซื้อต่อเนื่องสลับกับขายออกเล็ก ๆ น้อย ๆ น่าจะทำให้ดัชนีขึ้นไปยืนที่ระดับดังกล่าวได้ไม่ยากก็เท่านั้นเอง

ถึงกระนั้นอย่าลืมว่า บทพิสูจน์ของตลาดหุ้นไทยจะถูกทดสอบหนักในช่วงประกาศงบไตรมาส 3 และจะโดนจัดเต็มแบบไม่ต้องกั๊กในไตรมาส 4 เพราะเป็นช่วงที่ธุรกิจส่งออกโดนฐานภาษีใหม่ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาภาพรวมเศรษฐกิจไทยกระทบมากน้อยขนาดไหน? และสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” มองการยืนเหนือเส้นแนวรับ 200 วันที่บริเวณ 1,268 จุดวานนี้ เป็นเรื่องที่แฟนคลับต้องกำหนดรูปแบบเล่นให้คล่องตัวมากที่สุดเจ้าค่ะ

เหมือนกับในรายของหุ้นแบงก์ขวัญใจขาลุย TTB ก็แกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ในกรอบ 1.98-1.85 บาทเป็นเวลา 2 เดือนแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่นักเล่นคุ้นมือกันอยู่แล้ว เพียงแต่เที่ยวนี้จะไปไกลถึงระดับ 2.06 บาทเหมือนช่วงต้นเดือน ธ.ค. 67 หรือเปล่า? ยังเป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไปเรื่อย ๆ เพราะในช่วงที่ดัชนีขึ้นแรงต่อเนื่อง หุ้นตัวนี้ก็ยังวนเวียนในกรอบเดิม ซึ่งเหมือนกับวานนี้ที่ดัชนียืนปิด 1.94 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 0.50% ด้วยมูลค่า 1.07 พันล้านบาทนะจ๊ะ

ส่วนรายที่ “แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่” อย่างเจ้าจำปี THAI ยังได้รับความนิยมไม่สร่างซาเหมือนวันแรกที่กลับมาเทรดใหม่ วานนี้จึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 16.10 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 9.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.43 พันล้านบาท ล้วนมาจากผลงานครึ่งปีแรก 68 ทำกำไรต่อหุ้นได้มากถึง 0.78 บาท และถ้ามองทั้งปีมีโอกาสทำกำไรต่อหุ้นได้ที่ระดับ 1.56 บาท แล้วเอามาเทียบบน PE 12 เท่า ก็จะได้เป้าแถว 19 บาทแบบนี้..คุณ ๆ ต้องไปคิดดูว่า จริงไหม?

ในเมื่อมาด้วยความเชื่อ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น DELTA เพื่อชี้ให้เห็นการดีดตัวขึ้นแรง พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 154 บาท บวกไป 10 บาท หรือขึ้นไป 6.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 พันล้านบาท (ช่วยดันดัชนี 10 จุด) น่าจะเป็นผลมาจากความเชื่อที่ว่า ไตรมาส 3 จะทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายความรู้สึกอย่างแรง (ไตรมาสนี้เป็นโลว์ซีซั่นไม่ใช่เหรอ) อีฉันจึงขอร่วมภาวนาให้เป็นเหมือนที่เขาเชื่อกันด้วยค่ะ

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น COM7 ในทันที เพราะเป็นหุ้นที่ขึ้นในทิศทางเดียวกับดัชนี แถมในบางวันยังเด้งแรงแบบไม่น่าเชื่อ เลยไม่แน่ใจว่า การขึ้นเที่ยวนี้เกี่ยวข้องกับงบไตรมาส 2 ออกมาดีกว่าคาดหรือเปล่า? เพราะเป็นเรื่องเดียวที่มีการเก็งกันไว้ล่วงหน้า อีฉันจึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 25 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 6.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 583 ล้านบาท น่าเล่นตามน้ำไหม?

ส่วนรายที่ทำท่าเหมือนไปต่อไม่ไหว แต่ยังกระดึ๊บขึ้นอย่างช้า ๆ คงต้องมองไปที่นายห้างใหญ่อย่าง CPN หลังวิ่งขึ้นมายืนที่ระดับ 52.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 550 ล้านบาท ทั้งที่ผลงานไตรมาส 2 ออกมาต่ำกว่าปีก่อน และมีโอกาสที่ไตรมาส 3 จะออกมาต่ำกว่าปีก่อนแบบนี้..ศัพท์ของกูรูตลาดหุ้นเขาเรียกอาการหุ้นขึ้นสวนงบในลักษณะดังกล่าวว่า กำไรดีกว่าคาด!..อิอิอิ

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button