TFM ผลงานนิวไฮ โตรับไฮซีซั่นธุรกิจ

ยังเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อเนื่อง สำหรับ TFM ซึ่งถูกวางให้เป็นเรือธงธุรกิจอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจของกลุ่ม TU


คุณค่าบริษัท

ยังเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อเนื่อง สำหรับบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ซึ่งถูกวางให้เป็นเรือธงธุรกิจอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจของกลุ่มบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ล่าสุดรายงานงบในไตรมาส 2/2568 ทำนิวไฮทั้งยอดขายและกำไรสุทธิ นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยมีกำไรสุทธิ 194 ล้านบาท เติบโต 49.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 129 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง และสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 22.9% เติบโตต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน

ส่วนยอดขายทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 1,476 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากยอดขายอาหารกุ้งเติบโต 13.8% และอาหารปลาเติบโต 18.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการขยายส่วนแบ่งทางการตลาด ขณะที่ยอดขายอาหารสัตว์บกลดลง 12.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในไตรมาสนี้ บริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 338 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น สัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ขณะที่บริษัทยังคงเป้าหมายปี 2568 คาดรายได้จะเติบโต 7-9% จากปีก่อนหน้า โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากโมเมนตัมที่แข็งแกร่งต่อเนื่องในธุรกิจอาหารกุ้งและอาหารปลาในประเทศไทย ในขณะที่ตลาดอาหารกุ้งที่อินโดนีเซียได้รับผลกระทบจากโรคระบาด

ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะยกระดับขึ้นสู่ฐานใหม่ โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราการผลิตที่ดีขึ้น พอร์ตผลิตภัณฑ์ที่สมดุล การบริหารต้นทุนผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม และการจัดการต้นทุนวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน บล.หยวนต้า คาดแนวโน้มกำไรในไตรมาส 3/2568 จะทำนิวไฮต่อ เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และคาดบริษัทจะได้ส่วนแบ่งตลาดในประเทศเพิ่มต่อเนื่อง และธุรกิจในอินโดนีเซียคาดฟื้นตัว หลังโรคระบาดคลี่คลาย และยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 2568-2569 คาดทำนิวไฮต่อเนื่อง จากวัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจ

สอดคล้องกับ บล.พาย ที่คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังยังอยู่ในระดับสูงได้จากการเป็นช่วงไฮซีซั่นของผลผลิตกุ้ง โดยสิ่งที่น่าสนใจของ TFM คือ ในอนาคตอาจจะมีความร่วมมือกับทางมิตซูบิชิที่เตรียมเข้ามาถือหุ้น TU  ในสัดส่วน 20% ที่จะสร้างการเติบโตได้อีกมาก ทั้งนี้ ปรับกำไรทั้งปีขึ้น 10% เป็น 620 ล้านบาท

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น TFM ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 10.12 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 16.81 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด อย่างไรก็ตาม ถ้าดู P/BV ที่ระดับ 2.60 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.20 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 6.58 บาท จากราคาต่ำสุด 6.00 บาท และราคาสูงสุด 7.40 บาท

Back to top button