
WGE จากสร้างสู่ขาย.!
ถ้าพูดถึง WGE ซึ่งก่อร่างสร้างตัวมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ด้วยไอพีโอ 2.30 บาท...น่าเสียดายที่ปัจจุบันราคาซื้อขายกันที่ 0.80 บาทเศษเท่านั้น...
ถ้าพูดถึงบริษัท เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ WGE ซึ่งก่อร่างสร้างตัวมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทั้งงานภาครัฐและเอกชน เช่น คอนโดมิเนียมแนวสูงและบ้านแนวราบ โรงพยาบาล และอาคารสำนักงาน โดยถือฤกษ์เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2563 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยไอพีโอ 2.30 บาท…
น่าเสียดายที่ปัจจุบันราคาซื้อขายกันที่ 0.80 บาทเศษเท่านั้น…
ขณะที่ความแน่นอนของธุรกิจรับเหมาฯ ก็คือ ความไม่แน่นอนของ WGE นะจิบอกให้..!!
โอเค…แม้จะมีงานเข้ามาเป็นโปรเจกต์ขนาดใหญ่ แต่จะเป็นลักษณะ Project by Project ทำให้รายได้เติบโตไม่สม่ำเสมอ ช่วงไหนที่มีการส่งมอบงานก็จะเห็นรายได้อู้ฟู่กำไรเบ่งบาน แต่ถ้าในไตรมาสไหนไม่มีการส่งมอบงาน ผลงานก็จะดรอปลงอย่างชัดเจน มิหนำซ้ำถ้าเข้าหน้าฝน หรือในไตรมาส 3 ซึ่งทำก่อสร้างได้น้อยลง ผลงานก็จะออกมาไม่ดี…
ทำให้ผลงานในแต่ละไตรมาสของ WGE ค่อนข้างสวิงสวาย ก็จะมีความเสี่ยงอย่างที่ประสบมาแล้ว ก็ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดที่มีการล็อกดาวน์ แรงงานประเทศเพื่อนบ้านเดินทางกลับประเทศทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานตามมาฉุดให้ผลประกอบการย่ำแย่พลิกมาขาดทุน 2 ปีซ้อน…
กลายเป็นอุปสรรคหรือจุดอ่อนที่ทำให้ WGE ไม่เฉิดฉายเท่าที่ควร..!?
เลยเป็นที่มาของการเปิดปฏิบัติการ The weakest link หรือกำจัดจุดอ่อน ด้วยการแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง วัสดุตกแต่ง และงานโลหะสถาปัตยกรรม ตลอดจนให้บริการออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริหารโครงการ และการตลาดดิจิทัล ผ่านการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ที่ชื่อ บริษัท สตูดิโอเมทัล โซลูชั่น จำกัด…
“สตูดิโอเมทัล โซลูชั่น” มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดย WGE จะถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ซึ่งคาดจะจัดตั้งแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค. 2568 นี้
ความเคลื่อนไหวของ WGE ในครั้งนี้ น่าสนใจนะ เนื่องจาก 1) เป็นการไดเวอซิฟายจากธุรกิจรับเหมาฯ ไปสู่ธุรกิจที่เป็น Recurring Income หรือสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัท ก็จะช่วยลดความผันผวนของผลประกอบการได้ไม่มากก็น้อย
และ 2) ช่วยเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนให้ถูกลง…
ลองนึกภาพตามนะว่า เมื่อก่อนเวลา WGE ได้งานก่อสร้างมาสักโปรเจกต์ ต้องไปซื้อวัสดุก่อสร้างจากบริษัทอื่น ซึ่งอาจจะมีราคาแพง ต้องแบกต้นทุนการก่อสร้างค่อนข้างสูง ทำให้มีมาร์จิ้นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน…แต่ต่อไปสามารถมาซื้อวัสดุก่อสร้างจาก “สตูดิโอเมทัล โซลูชั่น” ได้ในราคาที่ถูกลง ก็จะทำให้ต้นทุนลดลง มีมาร์จิ้นที่สูงขึ้น…เชื่อหัวไอ้เรืองสิ
แล้วถ้าไปย้อนดูข่าวสารที่ผ่านมา จะเห็นว่า WGE ได้งานใหม่อย่างต่อเนื่อง เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เพิ่งแจ้งได้งานใหม่ 3 งานรวด โครงการเดอะ ไทเทิล อาร์ทริโอ บางเทา ของบริษัท ร่วมโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน), โครงการโรงแรม แอททายด์ เซ็นทรัล พัทยา ของบริษัท เค วี ดีเวลลอปเปอร์ จำกัด และโครงการแอทโมซ เดอ โซล ทิพวัล สเตชั่น ของบริษัท เอสเตท คิว จำกัด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 1,690 ล้านบาท
นี่ยังไม่นับรวมก่อนหน้านี้ ที่ได้งาน 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,857 ล้านบาทนะ…
ส่วนในมุมของ “สตูดิโอเมทัล โซลูชั่น” เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าจากต้นทางในปริมาณมาก ๆ ก็จะเกิดอีโคโนมีออฟสเกล หรือการประหยัดต่อขนาด ทำให้ต้นทุนถูกลงเช่นกัน
ที่สำคัญ หาก “สตูดิโอเมทัล โซลูชั่น” เติบโตดี…ก็จะหนุนให้ WGE ในฐานะบริษัทแม่เติบโตดีไปด้วย…
เท่ากับว่าต่อไป WGE จะสวมทั้งบทบาทผู้สร้างและผู้ขายนะสิ..!!
ก็ถือเป็นมูฟเมนต์ที่น่าจะช่วยหนุนการเติบโตของ WGE ได้ไม่มากก็น้อย…แต่ไหงราคาหุ้นไม่หือไม่อือเอาซะเลย..??
เสียของจริง ๆ พับผ่าสิ..!!
…อิ อิ อิ…