
ขายหุ้นทิ้ง?
ในช่วงที่ “โมนิก้า” ซอกแซกเรื่องชาวบ้าน และวิพากษ์ด้วยความจริงใจ มักทำให้สังคมหุ้นเกิดการตื่นรู้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก
ในช่วงที่ “โมนิก้า” ซอกแซกเรื่องชาวบ้าน และวิพากษ์ด้วยความจริงใจ มักทำให้สังคมหุ้นเกิดการตื่นรู้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก เพราะอีฉันมีส่วนช่วยทำให้สังคมหุ้นดีขึ้น และเมื่อเสร็จสิ้นจากเรื่องร้อนๆ ก็ถึงเวลามาพูดถึงเรื่องสภาพตลาดหุ้นแบบจัดเต็ม เพราะเริ่มมีคำถามว่า เมื่อดัชนีขึ้นมาแตะระดับ 1,300 จุด นักลงทุนรายย่อยควรทำอย่างไรต่อพะยะค่ะ
โดยนักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่า ขายหุ้นทำกำไรออกไปก่อนดีกว่า! แต่อีกส่วนหนึ่งก็ยังถือหุ้นเพื่อไปขายในราคาที่สูงกว่า! “โมนิก้า” เลยอยากบอกนักเล่นว่า มันขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นเป็นแบบไหนมากกว่า จึงไม่ขอก้าวล่วงในการเล่นของแต่ละคน เพราะผลลัพธ์สุดท้ายก็วัดกันที่นักเล่นชนะตลาดไหม? รวมทั้งนักเล่นมีความเห็นไปในทางเดียวกับโบรกเกอร์บางแห่งที่มองเป้าดัชนีปีนี้ที่ระดับ 1,350 จุดอะป่าว?
เนื่องจากดัชนีได้แสดงความแข็งแกร่งด้วยการสู้กับแรงขายตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายขึ้นมายืนปิดี่ระดับ 1,299.78 จุด บวกไป 6.16 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.52 หมื่นล้านบาท โดนหุ้นแกนหลักของตลาดหุ้นไทยกลับมาได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม รวมถึงหุ้นรายตัวที่มีข่าวดีเข้ามาซัพพอร์ต ก็เป็นตัวเลือกลำดับต้นของการเก็งกำไรแบบนี้ มันทำให้อีฉันนึกถึงบรรยากาศลงทุนเก่า ๆ ในช่วงที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่น ก็มีการเล่นหุ้นกันลักษณะนี้นี่แหละค่ะ
ประเด็นข้างต้นเห็นได้จากการไล่ราคาหุ้น NEX อย่างคึกคัก จนหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1.22 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 15.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 470 ล้านบาท “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า นี่เป็นผลมาจากความเชื่อที่มีต่อการเร่งระบายรถเมลไฟฟ้า เพื่อทำให้บริษัทกลับมาบันทึกกำไรเต็ม ๆ แบบนี้..แถมยังมีเรื่องประมูลรอบใหม่ที่มีข้อกำหนดว่า ต้องผลิตในไทยเท่านั้น..รับเต็มไหมล่ะคุณพี่
เรื่องราวดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้นร้อนอย่าง DUSIT เป็นรายถัดมา เพราะสถานการณ์เมื่อในอดีตมีการสาดโคลนกันหนักหน่วง แต่มาวันนี้ป๋านินกลับพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังป๋าเคลียร์ใจกับพี่น้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว และพร้อมจะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง หุ้นเลยเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 15.50 บาท บวกไป 2.70 บาท หรือขึ้นไป 21.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 431 ล้านบาทแบบนี้..โลกมันอยู่ยากจริง ๆ นะคุณพี่ศุภจี..อิอิอิ
เช่นเดียวกับอาการของหุ้น PTT ที่กลับมาวิ่งรอบใหม่ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มาจากเรื่องการเมือง และแผนพลังงานของประเทศมีความชัดเจน ราคาหุ้นถึงไต่ระดับขึ้นจาก 31 บาท ขึ้นไปถึงระดับ 33 บาท ขณะที่วานนี้เริ่มโดนขายทำกำไร จนราคาหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 32.75 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.40 พันล้านบาท คุณ ๆ ท่าน ๆ ยังมองว่า หุ้นตัวนี้น่าเล่นไหมล่ะคะ
ในเมื่อเม้าท์ถึงเรื่องการเมืองขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องมองไปที่หุ้น STPI เพื่อชี้ให้เห็นการพุ่งขึ้นแรงเป็นวันที่ 2 พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 5 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 13.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 288 ล้านบาท บรรดาขาลุยก็คงพูดไปในทางเดียวกันว่า เสี่ยหนูทำถึง! แต่เผอิญอีฉันไม่ใช่คนโลกสวยไปหมดทุกอย่าง เลยอยากจะติ่งไว้นิดหนึ่งว่า การเทรดบน PE 140 เท่า มันปกติใช่ไหมคะ
ส่วนรายที่เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ และรอแค่เศรษฐกิจฝั่งอเมริกาดีขึ้น ตัวเลขกำไรก็จะกลับมาดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม คงไม่มีใครน่าสนใจไปมากกว่า ITC หลังราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ จนวานนี้กลับมายืนอยู่ที่ 15.50 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 129 ล้านบาท ซึ่งเป็นไฮเดียวกับครั้งก่อนแบบนี้ “โมนิก้า” เลยคิดว่า เที่ยวนี้น่าจะไปได้ไกลกว่าเที่ยวก่อน เพราะบรรยากาศมันเอื้อสุด ๆ พะยะค่ะ
โมนิก้าและทีมงาน