
ไม่ขายแต่เล่นต่อ
ดูเหมือนบทสรุปเบื้องต้นที่นักลงทุนมีการลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ก็คือ ไม่ขายหุ้นทิ้ง และไล่ราคาหุ้นต่อ เพราะเชื่อว่า สถานการณ์เศรษฐกิจ และการเมืองจะดีขึ้นเป็นลำดับ
ดูเหมือนบทสรุปเบื้องต้นที่นักลงทุนมีการลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ก็คือ ไม่ขายหุ้นทิ้ง และไล่ราคาหุ้นต่อ เพราะเชื่อว่า สถานการณ์เศรษฐกิจ และการเมืองจะดีขึ้นเป็นลำดับ หลังรัฐบาลเสี่ยหนูประกาศอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบผ่านโครงการคนละครึ่ง มันกลายเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ผู้คนกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากพ่อค้าแม่ค้าต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขายของดีขึ้นไงล่ะคะ
ผลของความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวทำให้ดัชนีขึ้นมายืนเหนือแนวต้านสำคัญ 1,300 จุดอย่างแข็งแกร่ง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,308.19 จุด บวกไป 8.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.74 หมื่นล้านบาท กลายเป็นช็อตที่ทำให้โมเมนตัมตลาดหุ้นไทยดีขึ้นอย่างชัดเจน “โมนิก้า” จึงไม่มีความจำเป็นต้องนำเสนออะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะต่อจากนี้จะเป็นเรื่องผลงานของบริษัทจดทะเบียนออกมาดีตามที่ทุกคนคาดหวังขนาดไหนนะซี
เหมือนกับการถีบตัวขึ้นรอบใหม่ของ CPALL ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 49.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.15 พันล้านบาท ก็เป็นช็อตที่ท้าทายใจนักลงทุนสถาบันพอสมควร เพราะเที่ยวก่อนหุ้นก็จอดตรงบริเวณนี้ “โมนิก้า” เลยเดาทางไม่ถูกเหมือนกันว่า หุ้นจะไปต่อไหม? เพราะเมื่อดูจากราคาเป้าที่นักวิเคราะห์ให้ไว้บริเวณ 65 บาท ก็มีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะนะออเจ้า
เช่นเดียวกับในรายของ KTC ที่โดนพิษฟอร์ซเซลเล่นงานจนสะบักสะบอมไปพักใหญ่ ก่อนจะตั้งหลักเริ่มขึ้นใหม่อย่างช้า ๆ จนวานนี้เริ่มแสดงพลังด้วยการขึ้นมาปิดที่ระดับ 30.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.75 พันล้านบาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนแบบนี้ มันทำให้เชื่อว่า ราคาหุ้นน่าจะไปต่อแบบสบาย ๆ เพราะราคาเป้าสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ไว้อยู่แถว 45 บาทนะซี
ประเด็นดังกล่าวทำให้ต้องเหลือบมองไปที่หุ้น CRC เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 24.90 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 690 ล้านบาท ไม่ได้มาเล่นๆ อย่างแน่นอน เพราะเป็นการขึ้นมาพร้อมกับความเชื่อเรื่องกำลังซื้อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลงานของบริษัทดีขึ้นอย่างชัดเจนในไตรมาส 4 บรรดานักเล่นเลยเชื่อว่า ราคาหุ้นจะกลับไปยืนที่ฐานเดิมบริเวณ 35 บาทเจ้าค่ะ
ส่วนรายที่เผลอทีไร แอบวิ่งแรงทุกที “โมนิก้า” คงต้องให้ความสำคัญกับ LH มากเป็นกรณีพิเศษ หลังวานนี้กระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.46 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 377 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขึ้นที่ผิดปกติเหลือเกิน เพราะก่อนหน้านี้ไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ อีฉันเลยสงสัยว่า เที่ยวนี้น่าจะเป็นการวิ่งแบบแรลลี่หรือเปล่า? เพราะทุกครั้งที่เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น อสังหาฯ เจ้าใหญ่มักวิ่งก่อนเพื่อนพะยะค่ะ
สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น ORI ภายใต้การนำของ “พี่โด่ง” เป็นรายถัดมา เพราะรายนี้ถือเป็น 1 ใน 5 ผู้นำธุรกิจอสังหาฯ เดี๊ยนถึงมองการขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.08 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 72 ล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำ เพราะแค่ดูจากการเทรดบน PE 12 เท่า ควบคู่กับ BV 8.20 บาท ใครก็ต้องพูดว่า น่าเล่นจริง ๆ นะจะบอกให้
ส่วนรายที่เน้นเก็งกำไรตามกระแสข่าวดี และกลายเป็นหุ้นที่มาแรงแซงทางโค้ง ต้องยกให้กับหุ้น AOT หลังเตรียมเก็บค่าธรรมเนียมสนามบินเพิ่ม ซึ่งทำให้นักลงทุนรู้ได้ทันทีว่า กำไรหลังจากนี้จะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 40 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.65 พันล้านบาทแบบนี้..วิ่งยาวแน่ ๆ เลยจ้า!
โมนิก้าและทีมงาน