GFC คนขายยา…มาทำลูก

ปล่อยให้ผู้ถือหุ้นชะเง้อชะแง้รอมานานสองนานว่า เมื่อไหร่บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC จะได้แม่ทัพคนใหม่สักที..??


ปล่อยให้ผู้ถือหุ้นชะเง้อชะแง้รอมานานสองนานว่า เมื่อไหร่บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC จะได้แม่ทัพคนใหม่สักที..?? และเขาคนนั้นเป็นใครน้อ..?? หลังจาก “กรพัส อัจฉริยมานีกูล” ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ไปตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 2568 

ล่าสุด GFC ได้แม่ทัพใหม่แล้วนะ นั่นคือ “นที ตั้งจิตรสดใส” ซึ่งเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา 

เท่ากับว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา GFC กลายเป็นโรนินนะสิ…(โรนิน (Ronin) หมายถึงซามูไรที่ไม่มีนายหรือเจ้านายของตนเอง เนื่องจากเจ้านายเสียชีวิต หรือสูญเสียอำนาจไป จึงกลายเป็นซามูไรเร่ร่อน ไม่มีสังกัด)

ถ้าไปดูโปรไฟล์แม่ทัพใหม่ GFC ก็ไม่ธรรมดานะ คลุกคลีตีโมงอยู่ในแวดวงธุรกิจโรงพยาบาลมาก่อน เคยนั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ที เอช เฮลท์ จำกัด ในเครือ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG 

ซึ่งมีบทบาทช่วยปลุกปั้นร้านขายยา ที เอช เฮลท์ ฟาร์มา ให้กับกลุ่ม THG…

งั้นจากคนขายยา…จะมาทำลูกหรือเนี่ย..!! ชักน่าสนใจแฮะ

ซึ่งคงต้องติดตามฝีไม้ลายมือของ “นที” ว่าจะนำพา GFC ไปได้ไกลแค่ไหน..??

แต่ดูแล้วภารกิจในครั้งนี้ท้าทายไม่น้อยนะจิบอกให้…อันดับแรกต้องไม่ลืมว่า ปี 2568 เป็นปีนักษัตรมะเส็ง (งูเล็ก) ซึ่งไม่ใช่ปีมงคลสำหรับการทำลูก เหมือนในปี 2567 ซึ่งเป็นปีนักษัตรมะโรง (งูใหญ่หรือมังกรทอง) ที่ถือเป็นปีทองของหุ้นทำลูก เพราะตามความเชื่อของชาวจีน เชื่อว่าเป็นปีมงคลที่สุด และเชื่อว่าเด็กที่เกิดในปีมังกรจะประสบทั้งความสำเร็จและนำพาความโชคดีมาให้ กลายเป็นแรงกระตุ้นให้มีบุตรกันในปีมังกร…

แถมภาวะเศรษฐกิจในปี 2568 นี้ก็ไม่เอื้อให้มีลูกเสียด้วยสิ แล้วไหนคู่แข่งก็เยอะ ซึ่งแต่ละเจ้าก็โดดเด่นเรื่องนวัตกรรมและวิทยาการที่ล้ำสมัยที่แตกต่างกันไป

มิน่าในช่วง 2 ไตรมาสแรกปี 2568 ผลประกอบการของ GFC ถึงดรอปลงไปเยอะ โดยไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิเหลือแค่ 5.75 ล้านบาท ลดลง 80.01% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 ที่มีกำไรสุทธิ 28.74 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการให้บริการ 90.46 ล้านบาท ลดลง 16.88% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 ที่ทำได้ 108.84 ล้านบาท

ส่วนไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิ 7.06 ล้านบาท ลดลง 59.61% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 ที่มีกำไรสุทธิ 17.47 ล้านบาท  โดยมีรายได้จากการให้บริการ 89.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.18% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 ที่ทำได้ 82.11 ล้านบาท

ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 12.80 ล้านบาท ลดลง 72.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 46.22 ล้านบาท และมีรายได้จากการให้บริการ 180.11 ล้านบาท ลดลง 5.67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 190.95 ล้านบาท

ทำให้ GFC ต้องปรับกลยุทธ์หันมาจับเทรนด์การฝากไข่ หรือการแช่แข็งไข่ (Egg Freezing) ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายประเทศ ทั้งยุโรปและอเมริกา รวมถึงประเทศไทย โดย GFC มีศูนย์ธนาคารไข่ (Egg Bank) ที่ให้บริการฝากไข่ (Egg Freezing) ซึ่งเคลมว่าเป็นที่แรกในอาเซียนเชียวนะ 

โดยมีความพร้อมทั้งในแง่ของพื้นที่ให้บริการ การบริการ อุปกรณ์ รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ตอบโจทย์ผู้เข้ารักษาผู้มีบุตรยากที่ครบทุกมิติ สามารถรองรับการเก็บไข่ของผู้ที่เข้าใช้บริการได้มากถึง 4,500 คน แต่ปัจจุบันใช้พื้นที่ไปเพียงไม่ถึง 5% ของพื้นที่ทั้งหมด

ก็เป็นอีกโอกาสทางธุรกิจที่น่าจับตา…

ส่วนจะช่วยหนุนการเติบโตของ GFC ได้มากแค่ไหน..?? ก็เรื่องหนึ่ง…

…อิ อิ อิ…

Back to top button