กรณีศึกษา DUSIT: การโหวตถอดถอนที่สะท้อนพลังรายย่อย

หลายคนในวงการตลาดทุน เกิดความสับสน และ งุนงง กับ ผลโหวตที่ “เห็นด้วยเกือบ 80% ของหุ้นที่เข้าประชุม” ของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT


หลายคนในวงการตลาดทุน เกิดความสับสน และ งุนงง กับ ผลโหวตที่ “เห็นด้วยเกือบ 80% ของหุ้นที่เข้าประชุม” ของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT แต่ไม่สามารถ อนุมัติถอดถอน นายชนินทธ์ โทณวณิก ออกจาก ตำแหน่ง กรรมการบริษัท ได้นั้น

เกิดจาก “กติกาล็อกสองชั้น” ของบริษัทมหาชน ตามพ.ร.บ.บริษัทมหาชน กล่าวคือ  กติกาที่อยู่ในมติถอดถอน จะต้องผ่าน 2 ข้อพร้อมกัน 

ในพ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด มาตรา 76 กำหนดว่า การถอดถอนกรรมการก่อนครบวาระจะทำได้ต่อเมื่อ

1.ข้อกำหนด “หัว” (Headcount) ผู้ถือหุ้นที่ “เห็นด้วย” ไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนผู้ถือหุ้น ที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง โดยจะนับเป็น “รายคน” หรือ “รายชื่อ” ไม่ใช่รายหุ้น

ในกรณีของ DUSIT มีผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วย กับการถอดถอน นายชนินทธ์ 79.61% แต่ปริมาณ“รายชื่อ” ที่ เห็นด้วย มีเพียงแค่ 42 รายเท่านั้น ถือเป็นผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วยน้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนผู้ถือหุ้นที่มาร่วมประชุมและมีสิทธิลงคะแนน

2.ข้อกำหนด “หุ้น” (Shares) จำนวนหุ้นของฝ่าย “เห็นด้วย” ต้อง ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของหุ้นทั้งหมดของผู้ที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง

ขออธิบายง่าย ๆ คือ ต้องได้ฉันทามติทั้ง “จำนวนคน” และ “จำนวนหุ้น” พร้อมกัน จึงจะถอดถอนสำเร็จ

ทำไมกฎหมายต้องเข้มขนาดนี้?

อะไรคือ เจตนารมณ์ !?

 กฎกติกาดังกล่าว

เกิดขึ้น เพื่อ ป้องกันไม่ให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่กี่ราย ใช้จำนวนหุ้นก้อนใหญ่ที่ถืออยู่ “ผูกขาด” การมีสิทธิเพื่อให้วาระการประชุมต่าง ๆ ผ่านฉลุย

การเปลี่ยนแปลง บอร์ดจึงต้องมีทั้งความยินยอม “ตามจำนวนรายชื่อ” และ “ตามจำนวนหุ้น” เพื่อคุ้มครอง และปกป้อง “เสียง” ของนักลงทุนรายย่อย 

ยกตัวอย่าง มีผู้เข้าประชุม 100 ราย ถือหุ้นรวมกัน 1,000 ล้านหุ้น

 -ข้อกำหนดที่ต้องมี “รายชื่อผู้เห็นด้วย” มากกว่า  75 ราย

-ข้อกำหนดที่ต้องมี “จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง” ของฝั่งที่เห็นด้วย มากกว่า 500 ล้านหุ้น

ในกรณี ถ้าหากมีผู้ถือหุ้นใหญ่ เพียงแค่ 10 ราย แต่รวมกันได้ 800 ล้านหุ้น ที่เห็นด้วย

แต่รายชื่อผู้เห็นด้วยมีแค่ 10 ราย (ไม่ถึง 75 ราย) มติดังกล่าวจึง “ไม่ผ่าน”

คำถามที่พบบ่อย ของเคสนี้

Q: ทำไมโหวตหุ้นเกือบ 80% แล้วจึงยังไม่พอ?

A: เพราะมาตรา 76 บังคับ “สองเกณฑ์” ต้องถึงพร้อมกัน ไม่ใช่แค่ % หุ้นอย่างเดียว

Q: นับ “รายชื่อ” ยังไงใน proxy ให้โหวตผ่านตัวแทน?

A: นับเป็น “จำนวนผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง” ตามรายชื่อที่ลงทะเบียน/มอบฉันทะ ขึ้นทะเบียนเข้าประชุม 

ใครถือ proxy หลายบัญชีอาจถูกรวมเป็นรายเดียวตามแบบฟอร์ม/วิธีนับของบริษัท เกณฑ์นี้ทำให้รายย่อย “มีแต้มต่อ” ทางกฎหมาย และไม่เกิดการเสียเปรียบ หากมีการรวบรวม proxy มาโหวต 

Q: ใครมีสิทธิ์เรียกประชุมวิสามัญเพื่อเสนอวาระถอดถอน?

A: ผู้ถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่า 10% ของหุ้นจดทะเบียนทั้งหมด มีสิทธิ์เรียกประชุมตามมาตรา 100 

ในกรณี DUSIT มีการอ้างสิทธิ์ตามมาตรานี้ในหนังสือเชิญประชุม 

บทเรียนสำหรับนักลงทุน

1.อย่าดูแต่ปริมาณเปอร์เซ็นต์ (%) หุ้น เนื่องจาก เวลาประเมินโอกาสผ่านของ “มติพิเศษ” ให้ดู โครงสร้างรายชื่อผู้เข้าประชุม ด้วยว่า ฝั่งหนึ่งฝั่งใดระดม “รายชื่อ” ได้ถึง 3ใน 4 หรือไม่!?

2.ธรรมาภิบาล ถือเป็นเรื่องของ ความชัดเจนในกติกา การที่มีกติกาแบบ “ล็อกสองชั้น” ลดโอกาส “ลากเสียง” ด้วยหุ้นก้อนใหญ่ ขณะเดียวกันก็กดดันให้ทุกฝ่ายทำงานผ่านฉันทามติ

3.กลยุทธ์นักลงทุนสถาบัน และ รายย่อย ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงบอร์ด ต้องทำ “2 แทร็ก” พร้อมกัน: (ก) ระดม “รายชื่อ“ ให้ถึงเพดาน 3/4 และ (ข) ระดม “หุ้น” ให้เกิน 50% ของหุ้นที่เข้าประชุม

อึ้งย้ง

Back to top button