
DUSIT ถอน (ตัว) ทำไม!?
แวบแรกดูเหมือนซีรีส์เลือดข้นคนจางในบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT จะจบไปแล้วเสียอีก แต่เอ๊ะ...เกิดอะไรขึ้นอีกละเนี่ย
สำนักข่าวรัชดา
แวบแรกดูเหมือนซีรีส์เลือดข้นคนจางในบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT จะจบไปแล้วเสียอีก แต่เอ๊ะ…เกิดอะไรขึ้นอีกละเนี่ย จู่ ๆ ว่าที่กรรมการ หรือว่าที่บอร์ด 2 คนขอถอนตัวในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน นำโดย “ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร” มีผลวันที่ 3 ก.ย. 2568 และ “เสข วรรณเมธี” มีผลวันที่ 6 ต.ค. 2568
ทั้ง ๆ ที่ว่าที่บอร์ด 2 คนนี้ ถูกเสนอโดยผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด..!?
ซึ่งในส่วนของ “ดร.ปานปรีย์” เป็น 1 ใน 4 รายชื่อที่ถูกเสนอให้มาทดแทนกรรมการที่พ้นวาระ โดยจะเข้ามานั่งในตำแหน่งกรรมการอิสระ ส่วน “เสข” ก็เป็น 1 ใน 6 รายชื่อที่ถูกเสนอเข้ามาใหม่ นั่งตำแหน่งกรรมการ เพื่อต้องการเพิ่มบอร์ดจาก 12 คน เป็น 18 คน
ในขณะที่ตัวธุรกิจก็ดูดี ปีนี้คาดว่าจะเทิร์นอะราวด์ในรอบ 5 ปี โดยตั้งเป้ารายได้จะอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท เติบโต 20-25% ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจโรงแรมคาดเติบโต 20-25% ธุรกิจอาหาร เติบโต 10-15% ธุรกิจการศึกษาโต 10-12% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โตมากกว่า 100% โดยโครงการที่พักอาศัยภายใต้แบรนด์ “Dusit Residences” และ “Dusit Parkside” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ปัจจุบันมียอดขายประมาณ 90% คิดเป็นมูลค่า 16,000 ล้านบาท จะเริ่มทยอยโอนตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ และจะรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในปี 2569
โดยภายหลังการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นตามมาตรา 100 ที่เสนอโดย บริษัท ชนัตถ์และลูก เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา ความกังวลต่าง ๆ ก็จางหายไป…
ขณะเดียวกัน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญกับ DUSIT เมื่อ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ตัดสินใจลาออกจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) เพื่อไปปฏิบัติภารกิจช่วยชาติในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ของรัฐบาลนายกฯ “อนุทิน ชาญวีรกูล”…
แต่ตำแหน่ง CEO ก็ไม่ได้ว่างเว้นนะ มีการแต่งตั้ง “ชนินทธ์ โทณวณิก” มานั่งเก้าอี้แทนทันควัน…
ส่วนการโหวตเพื่อปลด “ชนินทธ์” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ DUSIT ออกจากบอร์ดก็ทำไม่สำเร็จ ติดปัญหาด้านเทคนิค (จำนวนผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วยต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด) ทำให้ “ชนินทธ์” ยังคงอยู่..
แต่มีประเด็นที่ค้างคา คือ วาระพิจารณาอนุมัติเพิ่มจำนวนกรรมการ แต่งตั้งกรรมการเข้าใหม่ และเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ เนื่องจากมีข้อร้องเรียนไปยัง ก.ล.ต. และคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ว่า อาจเข้าข่ายร่วมกับบุคคลอื่นเพื่อครอบงำกิจการของบริษัท และอาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือมีอำนาจเหนือตลาด ซึ่งมีนัดหมายจะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 4 ธ.ค. 2568 นี้
ก็น่าแปลกที่จู่ ๆ ว่าที่บอร์ด 2 คนพร้อมใจกันถอยดีกว่า…ไม่เอาดีกว่า จากบอร์ด DUSIT..!?
สิ่งที่น่าคิด…การขอถอนตัวของว่าที่บอร์ดอย่างนี้ ทำให้มองได้หลากหลายมุม ประการแรกเป็นเพราะสถานการณ์ของ DUSIT เปลี่ยนไป หลังจาก “ศุภจี” ลาออกจาก CEO แล้วมีการแต่งตั้ง “ชนินทธ์” มาแทน
ถัดมาการประชุมวิสามัญตามมาตรา 100 เพื่อปลด “ชนินทธ์” ไม่สามารถปลดได้ ในขณะที่ว่าที่บอร์ดทั้ง 2 คนอาจจะมาด้วยเงื่อนไขที่ต้องไม่มี “ชนินทธ์” หรือเปล่า..?? พอไม่เป็นไปตามข้อตกลงของผู้ถือหุ้นใหญ่ เลยเป็นที่มาให้ว่าที่บอร์ดทั้ง 2 คนถอนตัว อย่างที่เห็น
และประการสุดท้าย ทั้ง 2 คนคงมีภารกิจอื่นจริง ๆ เลยทำให้ต้องถอนตัว…
อย่างนี้ต้องดูว่า ว่าที่บอร์ดคนอื่น ๆ จะถอนตัวอีกหรือเปล่า..?? ต้องไปลุ้นวันที่ 4 ธ.ค. 2568 นี้ ซึ่งเป็นการประชุมต่อเนื่องจากวันที่ 26 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา
แหม๊…ดูท่าซีรีส์เลือดข้นคนจางใน DUSIT ยังไม่จบง่าย ๆ นะเนี่ย…สงสัยต้องมีภาคต่อแหง ๆ…
งานนี้คงได้เกาะรั้วโรงแรมดุสิตอีกแล้วครับท่านนน…
ส่วนใครที่ไปข้องเกี่ยวกับหุ้น DUSIT ระวังตัวไว้บ้างก็ดีนะ อย่าลืมหาทางหนีทีไล่ไว้ด้วยล่ะ
เดี๋ยวจะงานเข้าไม่ทันตั้งตัว…
…อิ อิ อิ…